รีวิว realme 15 Series 5G | เก่งขึ้นรอบด้าน กล้อง 50MP ทุกตัว ตีบวกด้วย AI Genie สุดล้ำ
- แอดมินแก้ว

- 18 ก.ย.
- ยาว 10 นาที
สวัสดีครับทุกคน แก้วจาก Mobile Photographer นะครับ รีวิววันนี้ เราอยู่กับ realme 15 series 5G สมาร์ทโฟน Midrange รุ่นล่าสุดจาก realme โดยในครั้งนี้ realme ได้หวนคืนสู่ Lifestyle Phone ที่เราคุ้นเคย โดยมีจุดเด่นในเรื่อง Design บางเบา กล้องถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม ทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอ ไปจนถึง AI Features ที่เรียกได้ว่า จัดเต็มไม่แพ้ระดับเรือธงเลย โดยในรีวิวนี้ แก้วจะโฟกัสไปที่รุ่น Pro เป็นหลักนะครับ แก้วใช้งาน realme 15 Series ทั้ง 2 เครื่องนี้มาแล้วเกือบๆ หนึ่งเดือน จะน่าใช้งานแค่ไหน ไปดูรีวิวกันครับ

SPECIFICATION
[ Processor ]
- realme 15 5G : MediaTek Dimensity 7300+ 5G
- realme 15 Pro 5G : Qualcomm Snapdragon®7 Gen 4
[ RAM | Storage ]
- realme 15 5G : 12GB + 256GB/512GB UFS 3.1
- realme 15 Pro 5G : 12GB + 256GB/512GB UFS 3.1
[ Display ]
- realme 15 5G : 6.77 inches AMOLED Flat Display 120Hz | FHD+ | 144Hz | 4500nit
- realme 15 Pro 5G : 6.8 inches AMOLED 4D+ Curved Display | FHD+ | 144Hz | 6500nit
[ System & Software ]
- realme 15 5G : realme UI 6.0 | Android 15
- realme 15 Pro 5G : realme UI 6.0 | Android 15
[ Battery & Charging ]
- realme 15 5G | 80W SUPERVOOC Charge
- realme 15 Pro 5G | 80W SUPERVOOC Charge
[ Speakers ]
- realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G จะได้ Stereo Speaker เหมือนกัน คุณภาพเสียงค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่ realme 15 Pro 5G จะมีมิติของเสียงที่ดีกว่า
[ Connectivities ]
- realme 15 5G : USB-C 2.0 | Wifi6 | Bluetooth 5.4
- realme 15 Pro 5G : USB-C 2.0 | Wifi6 | Bluetooth 5.4

DESIGN | การออกแบบ
เรามาเริ่มดูกันที่ Design ตัวเครื่องของ realme 15 Series 5G กันเลยนะครับ สำหรับทั้ง 2 รุ่นนี้ ถ้าเราดูแบบเร็ว ๆ เราจะรู้สึกว่า Design จะค่อนข้างเหมือนกันมาก ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัวเครื่อง Design Module กล้อง ไปจนถึง ตำแหน่งของไฟแฟลช แบบคู่

จุดที่จะดูมีความแตกต่างแบบชัดเจนที่สุด ก็จะเป็นในเรื่องของ ลักษณะของ Frame Body ตัวเครื่องและ หน้าจอ วัสดุของตัว Frame จะเป็น Plastic เหมือนกันทั้งคู่ เแต่ realme 15 5G จะได้ Frame ตัวเครื่องแบบ Flat และหน้าจอเป็นจอแบน ส่วนรุ่นพี่ realme 15 Pro 5G จะได้ Frame ตัวเครื่องเป็นแบบโค้ง 2.5D กับหน้าจอแบบ Curve ทั้ง 4 ด้าน ทำให้ Feeling ในการจับถือ จะค่อนข้างมีความแตกต่างกันชัดเจน

แต่สิ่งที่ realme 15 Series 5G ทั้ง 2 ตัวนี้ ทำได้ดีมาก ๆ ก็ถือ น้ำหนักตัวเครื่อง และ Weight Balance ในการจับถือ ที่เบาสบายมือมาก ๆ โดย realme 15 5G จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 185 กรัม ความบางที่ 7.66 มิลลิเมตรเท่านั้น วางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 สีก็คือ Suit Titanium และ Silk Pink ( สีที่นำมารีวิว )

ส่วน realme 15 Pro 5G จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 187 กรัม และมีสีตัวเครื่องให้เลือก 2 สีด้วยกัน ก็คือ Flowing Silver และสี Velvet Green ซึ่ง ทั้ง 2 สีนี้ จะมีความบางไม่เท่ากันนะครับ โดยสี Flowing Silver ( สีที่นำมารีวิว ) จะมีความบางที่ 7.79 มิลลิเมตร ส่วน Velvet Green จะมีความบางที่ 7.84 มิลลิเมตร นะครับ

วัสดุของฝาหลังของทั้ง 2 รุ่นจะเป็นกระจก โดย realme 15 5G จะเป็นกระจกผิวด้าน ช่วยป้องกันรอยนิ้วมือได้ดี ส่วน realme 15 Pro 5G ที่ถึงแม้ กระจกจะเป็นแบบ Glossy แต่การติดรอยนิ้วมือ ก็ไม่ได้ขึ้นง่ายขนาดนั้น และมี Build Quality ที่ดี ได้ IP Rating อยู่ที่ IP68/69 เหมือนกันทั้งคู่

DISPLAY | หน้าจอแสดงผล
มาเริ่มกันที่หน้าจอ ของ realme 15 Series 5G กันเลยนะครับ ขนาดหน้าจอจะอยู่ที่ 6.8 นิ้ว เท่ากันทั้งคู่ ซึ่งใหญ่เต็มตาแน่นอน รูปแบบหน้าจอ ของ realme 15 Pro จะเป็น 4D Curve+ เป็นหน้าจอที่มีขอบโค้งสี่มุม สวยงาม และมี Bezel ที่บางมากๆ ส่วน realme 15 จะเป็นหน้าจอ Flat โดยทั้งคู่จะใช้ Panel หน้าจอเป็น AMOLED ที่มีความละเอียดอยู่ที่ Full HD+ เหมือนกัน

Feeling ในการ Touch ใช้งานหน้าจอติดนิ้วดีทั้งคู่ ด้วย Refresh rate 144hz และ Touch Sampling rate 240hz บวกกับ Animation ของ realme UI 6.0 ที่ให้ความรวดเร็ว ทั้งการเลื่อน Feed Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook | Instagram ไปจนถึงการเปิด Control Center ทำให้การใช้งานมีความลื่นไหลดีมาก ๆ


ตัวหน้าจอมีขอบเขตการแสดงผลสีอยู่ที่ 1.07 billion colors หรือ 10bit รอรับการแสดงผล Content แบบ HDR ทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอ คือ สำหรับ realme 15 Pro 5G แก้วว่าค่อนข้างตามมาตรฐาน แต่สำหรับรุ่นน้อง realme 15 5G การได้ Spec จอแบบนี้ถือว่าคุ้มค่าเลย

เวลาเอาไปรับชม Content Streaming จาก Platform ต่างๆ ก็ได้เต็ม Resolution ของหน้าจอ และรองรับ Content ในรูปแบบ HDR10+ ในทุก ๆ Platform และด้วย Contrast Ratio ที่ 5,000,000 : 1 ทำให้ได้สีสัน และรายละเอียดที่ดี

แล้วก็เวลาใช้งานในที่แสงน้อยด้วยความสว่างหน้าจอต่ำ ก็จะมี PWM Dimming 4608Hz มารองรับ เพื่อความสบายตา จากการกระพริบของแสงจอ และ ความสว่างเวลาใช้งานนอกบ้าน แบบ HBM ก็จะอยู่ที่ 1800nit แบบ HBM ซึ่งถือว่าเพียงพอมาก ๆ แล้ว

ส่วนเวลาที่ต้องนำไปใช้งานกลางแจ้ง เช่น เวลาที่ใช้งานในการถ่ายภาพต่าง ๆ High Brightness ที่ให้มา ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในทุก ๆ สภาวะแสงอยู่แล้ว และก็สามารถกดเพิ่ม Extra Brightness จากใน Setting ของ Display เพื่อให้ได้ความสว่างที่มากขึ้นได้อีกด้วยนะครับ

CAMERA | กล้องถ่ายภาพ
ทีนี้ก็ได้เวลาที่เราจะมาพูดถึงเรื่องของกล้องถ่ายภาพกันแล้วนะครับ หลังจากที่ realme No.Series ในช่วงต้นปีนั้น แทบจะไม่โฟกัสในเรื่องของกล้องถ่ายภาพเลย ในที่สุดตอนนี้ ก็กลับมาเข้าที่เข้าทางเหมือนเดิมแล้ว พร้อมกัน อัด Hardware กล้องมาให้ในระดับที่ จะมาล้อ ว่าใช้แต่ของเดิม ๆ ไม่ได้อีกแล้ว ไปดู Spec กันเลยครับ

realme 15 5G
MAIN CAMERA 50MP | IMX882 1/1.95" | f/1.8 | 2-axis OIS
ULTRA WIDE 8MP | OV08D10 1/4" | f/2.2 | FF | bi-axis EIS
FRONT CAMERA 50MP | OV50D 1/2.88"| | f/2.4 | bi-axis EIS
Dual Flash System
realme 15 Pro 5G
MAIN CAMERA 50MP | IMX896 1/1.56" | f/1.8 | Lossless Zoom 2x
ULTRA WIDE 50MP | OV50D 1/2.88" | 115.6° | f/2.0 | bi-axis EIS
FRONT CAMERA 50MP | OV50D 1/2.88"| | f/2.4 | bi-axis EIS
Dual Flash System
อย่างที่ทุกคนเห็นกันไปนะครับว่า รอบนี้ Hardware กล้องก็อัดมาให้สุดเหมือนกัน ซึ่งรอบนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องของกล้องนะครับ realme ได้ใส่ฟีเจอร์การถ่ายภาพ และการตกแต่งภาพมาให้แบบจัดเต็ม ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนใน realme No. Series เลย ไม่ว่าจะเป็น
- Mist Filter ( พร้อม Mode การใช้งานร่วมกับ แฟลช )
- Dual Flash Light แรงในระดับที่ ยืนห่างจากแบบ 1.5 เมตรไฟยังไปถึง
- Film Filter โทนสีแบบกล้องฟิล์ม ที่แนะนำให้ลองเลย ( Film-NC | CC คือสวยมาก )
- New watermark นอกจากจะมีให้เลือกเยอะมากแล้ว ยัง Custom ในแต่ละอันได้อีก


แต่ที่โดดเด่นที่สุด และเป็นจุดที่ตรงกับ Concept AI Party มากที่สุดในรุ่นนี้ ก็คือ Effect แสง ที่จะเป็นไฟแฉก กับรูปหัวใจ ที่มีให้เราเอามาใช้กับการถ่ายภาพ ช่วงค่ำคืน ตามงาน Party หรือร้านอาหารแบบเท่ ๆ ได้เป็นอย่างดี

เจอแสงไฟที่ไหน กดเปิด Mode นี้ขึ้นมาใช้งานได้เลย ซึ่งจาก Effect ตัวไฟแล้ว ยังสามารถ เลือกโทนสีตามสไตล์ Activity ที่เราไปได้อีกด้วย

ปิดท้ายกันด้วย AI Features สำหรับการตกแต่งภาพ เอาแบบ Basic กันก่อน ได้แก่
- AI Eraser ที่เอาไว้ใช้ในการลบวัตถุต่าง ๆ
- AI Ultra Clarity ที่ช่วยเติมรายละเอียดให้กับภาพ
- AI Unblur ภาพไหนที่เบลอ จากการ Out focus หรือ Motion Blur ตัวนี้ช่วยได้
- AI Remove Reflection ลดเงาสะท้อนจากกระจก
- AI Glare Remover ลบแสง Flare จากการถ่ายย้อนแสง

และ ทีเด็ดที่สุด ของ realme 15 Series 5G ในปีนี้ คือ AI Edit Genie ครั้งแรกในอุตสหกรรม ที่เราสามารถใช้ Generative AI ตกแต่งภาพของเราได้ตามจินตนาการ ด้วยการสั่งเพียงแค่ใช้เสียงเท่านั้น แน่นอนว่า รองรับภาษาไทยแบบ 100% แก้วได้ลองเล่นมาหลายสถานการณ์ หลายรูปแบบแล้ว สนุก มาก ๆ ทุกคนมาดูตัวอย่างกันนะครับ

อย่างภาพนี้ แก้วอยากเปลี่ยนชุดที่นางแบบใส่ จาก Feel Street มาเป็น เดรสสีขาวสุดหรู เราก็แค่พูด หรือพิมพ์บอก AI ว่า ต้องการปรับเปลี่ยนส่วนไหน โดยใช้ภาษาแบบง่าย ๆ เลยครับ เหมือนเราคุยกับเพื่อน ผลลัพท์ที่ได้ก็ออกมาแบบนี้เลย

หรือว่า แก้วมีภาพหอไอเฟล ที่ไปถ่ายมาใน Trip ก่อนหน้า รู้สึกว่า สภาพแสงมันไม่สวยเลย ดูหม่น ๆ ไปหมด แก้วก็ใช้ AI Genie ตัวนี้ ในการสร้างแสง Flare จากดวงอาทิตย์ และปรับสภาพแสงให้มีความเหมือนช่วงเช้า ผลลัพท์ก็แบบนี้เลยครับ

หรือจะเป็นภาพนี้ แก้วไป Dinner กับทีม realme แล้วอาหารยังไม่มาเสิร์ฟ มีแต่จานเปล่า ๆ เราก็สามารถ สั่ง AI ให้ช่วยเติมอาหารทั้งโต๊ะ ให้ทันทีเลย โดยแค่ระบุประเภท และสไตล์ของอาหารลงไปเท่านั้น จากที่ต้องมาทำนั่น ทำนี่เอง ตอนนี้แค่พูด ก็ได้ภาพที่จินตนาการเอาไว้แล้วครับ

ตอนนี้ก็ได้เห็นฟีเจอร์กล้องกันไปครบแล้วนะครับ เรามาเริ่มดูภาพจากกล้องแต่ละตัวกันดีกว่า

WIDE ANGLE 50MP | IMX896 | realme 15 Pro 5G
เรามาเริ่มกันที่กล้องหลัก ของ realme 15 Pro 5G กันก่อนเลยนะครับ ลักษณะในการ Process ไฟล์ภาพของ realme 15 Pro 5G เครื่องนี้ จะค่อนข้างมาการผสมผสานระหว่าง ความสำเร็จรูป และความเป็นธรรมชาติเอาไว้อย่างละ ครึ่ง ๆ โดย สีสัน และ Contrast จะไม่ได้หนักมากนัก แต่จะมีการ เติม Sharpness เข้ามาในภาพอยู่เยอะพอสมควร

Dynamic Range ของภาพอยู่ในระดับที่ดีมาก ๆ มีความใกล้เคียงเรือธงสักประมาณ 85% ได้แล้ว ด้วย Sensor ที่ค่อนข้างใหม่ มีขนาดใหญ่เท่ากับเรือธงหลาย ๆ ตัว บน ISP ระบบประมวลผลภาพที่ทันสมัยจาก Snapdragon 7 Gen 4 ทำให้ได้ช่วงรายละเอียดในแต่ละย่านความสว่างที่ดี

การวัดแสงของ realme 15 Pro 5G จะค่อนข้างวัดออกมาได้ตรง ไม่ Over และ Under จนเกินไป Software Auto HDR ค่อนข้างทำงานได้ฉลาด บางภาพที่ Highlight ไม่ได้หลุด หรือ ส่วน Shadow ของภาพไม่ได้จม Auto HDR ก็จะทำงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เพื่อรักษาความเป็นธรรมชาติของไฟล์เอาไว้ แต่เรื่องของ White Balance อันนี้แก้วต้องบอกทุกคนเอาไว้ก่อนนะครับว่า Temp ของสีภาพจาก realme 15 Pro 5G จะค่อนข้างไปทางโทนอุ่น ในทุก ๆ ภาพเลย แต่มีความต่อเนื่องที่ดีนะครับ White Balance ไม่สวิงไปมา

แต่ถ้าเป็นการถ่ายภาพย้อนแสง Auto HDR ก็เก่งพอที่จะ รักษารายละเอียดในส่วน Highlight และ Shadow กลับมาได้ครบ โดยที่จัดการจุดรบกวนได้ดีอีกด้วย ต่อให้ส่วนเงาจะมืดแค่ไหน ทำให้เราไว้ใจได้เลยในเรื่องของรายละเอียดภาพ

ปิดท้ายกันด้วยเรื่องของ Depth of field หรือ การถ่ายภาพละลายฉากหลังของกล้องหลักตัวนี้ ด้วยขนาด Sensor ที่ค่อนข้างใหญ่ และมีรูรับแสงที่กว้างถึง f/1.8 ทำให้มิติในการละลายฉากหลังนั้น เกิดขึ้นได้ง่าย เราเอามาใช้ในการถ่าย ชัดตื้นก็ได้ หรือใช้เป็น Foreground เพื่อสร้างมิติให้กับภาพก็ได้เช่นกัน

มีรายละเอียดเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจจะมองไม่เห็น ก็คือ Bokeh ของ กล้องหลักตัวนี้ มีความนุ่ม ๆ นวลตา และมี Shape ของ Bokeh ที่ดูกลมสวย ซึ่งหาได้ยากจากสมาร์ทโฟนในช่วงระดับราคานี้

WIDE ANGLE 50MP | IMX882 | realme 15 5G
ทีนี้เรามาดูภาพจากกล้องหลัก ของ realme 15 5G ตัวนี้กันบ้างนะครับ ต้องบอกว่า มีทั้งจุดที่แก้วชอบกว่าตัวรุ่นพี่ และจุดที่ตัวรุ่นพี่ทำได้ดีกว่านะครับ เอาจุดที่แก้วชอบกว่าก่อนเลย คือเรื่องโทนสีครับ ตัว Pro จะมีความติด Temp ที่เป็นโทนอุ่น แต่ realme 15 5G จะให้สีสันที่ค่อนข้างตรงเลย และการเติม Sharpness เข้าไปในภาพ ก็เติมน้อยกว่าอยู่เล็กน้อย ทำให้ภาพดูเป็นธรรมชาติมากกว่า

พวกการเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ ในส่วนพื้นผิว และการจัดการจุดรบกวน ทำได้ดีพอ ๆ กับรุ่นพี่ realme 15 Pro 5G แต่ระยะเวลาในการ Process ภาพหลังจากกดถ่ายมาแล้วนั้น จะใช้เวลาที่มากกว่า ด้วยข้อจำกัดของ Performance จาก SoC Dimensity 7300+ ซึ่งก็เข้าใจได้ เพราะราคาต่างกันเยอะพอสมควร

ส่วนจุดที่แก้วชอบตัว Pro มากกว่า ก็จะมี 3 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกก็คือ องศาในการรับภาพที่ตัวรุ่นน้องนั้น ค่อนข้างแคบกว่า แบบรู้สึกได้ อยู่ที่ 26mm ในขณะที่ตัว Pro อยู่ที่ 23mm เรื่องที่ 2 ก็คือ Dynamic Range ที่เป็นข้อจำกัดของขนาด Sensor ที่มีความต่างกันมากพอสมควร เอาจริง ๆ ตัว Dynamic Range ของ กล้องหลัก realme 15 5G ถือว่าไม่แย่เลยนะ เพราะ Software Auto HDR ที่เก่งด้วยแหละ แต่เราจะรู้สึกถึงเรื่องนี้ได้ชัดเจน ตอนที่ถ่ายย้อนแสง Detail ในส่วนเงาจะหายไปเยอะ

แล้วก็เรื่องของ Depth of field การละลายฉากหลัง ตัวรุ่นพี่ realme 15 Pro 5G จะมีความเบลอที่มากกว่า ระยะในการโฟกัสใกล้สุด จากที่แก้วลองมา ถือว่าพอ ๆ กันครับ ใช้งานได้โอเคครับ

PORTRAIT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพบุคคล
มาต่อกันที่เรื่องของการถ่ายภาพ Portrait กันบ้างนะครับ ต้องบอกว่าเรื่องนี้ ทั้ง 2 รุ่นทำได้ค่อนข้างน่าประทับใจมาก ๆ โดย realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G สามารถถ่ายภาพ Portrait ได้ด้วยกันทั้งหมด 2 ระยะนะครับ ก็คือ 1x | 2x แต่ด้วย องศาในการรับภาพของ realme 15 5G นั้นแคบกว่า ทำให้เวลามา Crop 2x เข้าไปแล้ว ก็จะได้ระยะที่ไกลกว่าตามไปด้วยนะครับ

สิ่งหนึ่งที่ทาง realme มีการปรับปรุงมา แล้วแก้วสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงได้เยอะมาก ๆ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ก็คือ การทำ Bokeh Simulation หรือการเบลอหลังด้วย Software ตัว Bokeh มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น มีการไล่ระดับการเบลอที่สวยงาม
ไปจนถึงในเรื่องของการตัดขอบเก็บปลายผมต่าง ๆ ทำได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นในสภาวะแสงไหนก็ตาม หรือ ฉากหลังจะมีรายละเอียดที่เยอะ พูดง่าย ๆ ก็คือฉากหลังรก ก็ยังสามารถละลายหลังได้ดีอยู่ น้อยครั้งมากจริง ๆ ที่จะเจออาการหลุดให้เห็น

และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่แก้วชอบมาก มีโอกาสได้ใช้งานบ่อย ก็คือพวก Mist Filter หรือแสงฟุ้ง ๆ คล้ายกับการใส่ Filter Black Mist ช่วยให้โทนภาพมีความฟุ้งชวนฝัน เหมาะมากกับการเอามาถ่ายในสภาพแสงที่เป็น High Contrast มีส่วนสว่าง ส่วนเงาชัด ๆ นอกจากนั้น ยังทำให้ Skin ดูมีความนุ่มนวลมากขึ้นด้วย

นอกจากนั้นก็ยังมี โทนสีแบบ Film Simulation มาให้เราได้เลือกใช้งานกัน ใครที่เบื่อ Mood & Tone ภาพที่มีความสดใส มาลองโทนฟิล์มบ้างก็ได้ ให้ความรู้สึก Vintage และสร้างอารมณ์ที่แตกต่างให้กับภาพของเราได้เยอะเหมือนกัน เพราะตัว Filter Film เขาไม่ได้เปลี่ยนแค่สีนะ มีการเติมขอบดำ ใส่ Film Grain ปรับลักษณะการ Render แสงใหม่หมดเลย

จุดที่จะมีความแตกต่างระหว่าง realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G ในการถ่ายภาพ Portrait ก็จะมีด้วยกัน 2 เรื่อง คือความสดของสีผิว และความเป็นธรรมชาติในการ Process ครับ ตัว realme 15 Pro 5G ยังคงเน้นการเติม Sharpness และเร่งสีสันขึ้นมาพอสมควร ในขณะที่ realme 15 5G จะมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า

สีสันของผิว realme 15 5G จะมีความอมชมพู และสว่าง มากกว่า realme 15 Pro 5G ที่จะค่อนข้างไปทางโทนอุ่น และวัดแสงออกมาแบบ พอดี ๆ เวลาย้อนแสงก็สามารถจะคงรายละเอียดเอาไว้ได้ดี โดยที่ใบหน้าไม่มืด

ส่วนในเรื่องของการตัดขอบละลายฉากหลัง ถึงแม้ว่า realme 15 5G จะใช้ อัลกอริทึมในการ Process แบบเดียวกับรุ่นพี่ตัว Pro แต่ด้วยประสิทธิภาพของ SoC ที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก ทำให้ทั้งเรื่องความเร็ว และความแม่นยำนั้น realme 15 Pro 5G ก็ยังคงดีกว่าอย่างชัดเจนครับ

และ สำหรับการถ่ายภาพ Portrait ในที่แสงน้อย ด้วย ไฟแฟลช แบบ Dual กำลังไฟของตัวแฟลช realme 15 Pro 5G ตัวรุ่นพี่ จะมีกำลังไฟที่แรงกว่า อย่างเห็นได้ชัด ระยะหวังผลสูงสุดก็คือ ห่างจากตัวแบบ 1.5 เมตร ส่วน realme 15 5G จะอยู่ที่ประมาณ 1 เมตร

เอาจริง ๆ ถ้าเป็นตัว Pro นะ การถ่าย Portrait ในช่วงกลางคืน ถ้ามันไม่ได้มืดจริง ๆ หรือมีแสงรบกวนเยอะ เรายังสามารถกดถ่ายได้เลย โดยไม่ต้องเปิดไฟล์ขึ้นมาช่วย โดยที่รายละเอียดภาพที่ได้ และการทำงาน ของ Software Portrait นั้น ยังดีใช้ได้อยู่

หา Background สวย ๆ มาสร้างเป็น Bokeh หรือใช้ตัว Light Effect ทำภาพสไตล์ Party ออกมาก็ได้

ส่วนถ้าเป็น realme 15 5G แก้วแนะนำให้เปิดไฟเอาไว้ตลอดเลย ถ้าต้องการถ่าย Portrait ช่วงกลางคืน เพราะว่า ขนาด Sensor ไม่ใหญ่ ยิ่งเรา Crop 2x ตอนถ่ายพื้นที่รับแสงก็น้อย การมีแสงไฟส่องแม้จะเล็กน้อย ช่วยทำให้คุณภาพไฟล์ในภาพรวม ดีขึ้นได้เยอะกว่าที่คิดมาก ๆ เลยครับ

ULTRA WIDE ANGLE : กล้องมุมกว้างพิเศษ
สำหรับกล้อง Ultra Wide Angle ถ้าใครมีโอกาสได้ใช้งาน กล้องในระยะนี้บ่อย ๆ แก้วแนะนำว่า ให้มา realme 15 Pro 5G ได้เลย เพราะว่า เป็นครั้งแรกที่ realme ได้นำ Sensor OV50D ที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับ ISOCELL JN1 ที่เรือธงหลาย ๆ ตัวนิยมใช้ในปีนี้ มาประจำการ และทำผลงานได้น่าพอใจมาก

สีสันของภาพ ทำออกมาได้ใกล้เคียงกับกล้องหลัก คุณภาพไฟล์ แม้จะอยู่ในสภาวะแสงที่ค่อนข้าง Challenge ก็สามารถที่จะเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ออกมาได้ดี ใกล้เคียงกับกล้องหลักมาก ๆ องศาในการรับภาพ อาจจะเป็นจุดที่หลายคน อาจจะรู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ เพราะอยู่ที่ 16mm ตามมาตรฐาน ไม่ได้กว้างมากเท่ากับ Ultra Wide ในเรือธงนะครับ

สำหรับตัว Dynamic Range แก้วแนะนำให้เปิด Auto HDR ทิ้งเอาไว้ตลอดจะดีที่สุด เพราะด้วยข้อจำกัดที่ช่วงรายละเอียดที่เก็บมาได้ ไม่ได้กว้างเท่ากับ กล้องหลัก การมี HDR มาช่วย Stack แสงและรายละเอียดในหลาย ๆ ช่วง ก็จะทำให้ Highlight หลุด Shadow ไม่จมจนเกินไปนะครับ

ส่วนกล้อง Ultra Wide Angle ใน realme 15 5G ก็ ตามมาตรฐานของ 8MP โดยทั่วไปครับ ความกว้างน่าจะเป็นจุดเดียวที่สูสีกับรุ่นพี่ตัว Pro แต่อย่างอื่นห่างชั้นกันเยอะเลยครับ


LOW LIGHT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพในที่แสงน้อย
เรามาต่อกันที่การถ่ายภาพในที่แสงน้อยกันเลยนะครับ ทั้ง realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G เราสามารถใช้งาน Night Mode ได้ในกล้องทุกตัว และลักษณะในการ Process ไฟล์ภาพจะค่อนข้างคล้ายกัน ก็คือ จะมีการเติม Sharpness และ Clarity เข้าไปในภาพเพื่อให้ดูคมขึ้น ปรับความสว่างขึ้นเล็กน้อย แต่ส่วนของสีสัน จะต่างกันนะครับ


ถ้าเป็น Night Mode ของ realme 15 Pro 5G การ Boost สีสันในภาพขึ้นมานั้น จะค่อนข้างน้อยกว่าตัวรุ่นน้องอยู่เยอะมากทีเดียว ทำให้ภาพจะออกมาดูเป็นธรรมชาติกว่า แต่แก้วแอบคิดว่า จะต้องมีหลายคนชอบสไตล์สีสันของรุ่นน้องแน่นอน มันถ่ายให้สวยได้ง่ายกว่า

คุณภาพไฟล์สำหรับแก้ว ทั้ง 2 รุ่นทำได้ดีมาก ในช่วงราคาของตัวเอง เก็บรายละเอียดของช่วงความสว่างต่าง ๆ ได้ดี ทั้ง Highlight และ Shadow ในขณะเดียวกัน ก็มีการจัดการ Noise ในระดับที่กำลังพอเหมาะ ไม่ได้เกลี่ยออกไปจน Detail ในส่วน Texture นั้น เสียไปหมด

การ Crop zoom 2x เพื่อเพิ่มระยะในการถ่ายช่วงกลางคืน ถ้ามีแหล่งกำเนิดแสงในภาพอยู่บ้าง ถือว่าไฟล์ที่ออกมา อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เป็น Lossless Zoom ที่ใช้งานได้แบบไม่ต้องคิดเยอะ พวก Filter สีสันต่าง ๆ ก็มีมาให้ประมาณหนึ่ง ไม่ได้เยอะมากนะครับ


สิ่งที่แก้วปลื้มที่สุดสำหรับ Low Light Photography ของ realme 15 Pro 5G ก็คงเป็น กล้อง Ultra Wide Angle ครับ นี่คือ realme ที่มีกล้อง Ultra Wide Angle ที่ดีที่สุดในรอบหลายปี นับรวมถึง GT Series ที่เป็นเรือธงด้วยนะ คุณภาพไฟล์เทียบเท่ากล้องหลักเลย

สีสัน การ Process ไฟล์ภาพ ไปจนถึงระยะเวลาในการ ลาก Shutter เพื่อเก็บแสงนั้น ใช้เวลาเท่ากับกล้องหลัก เป็นอีกหนึ่งกล้อง Ultra Wide Angle ที่ถ่ายรูปช่วงกลางคืนได้ดีมาก เป็นอันดับต้น ๆ ของสมาร์ทโฟนหมื่นกลางเลยครับ


นอกจากนั้น พวก Mode เสริมเช่น Long Exposure การถ่ายดาว มีมาให้ในทั้ง 2 รุ่นเลย ขนาดรุ่นน้องที่ถูกกว่ามาก ๆ ก็ยังมีให้ ปีนี้ realme ไม่กั๊กทั้ง Hardware และ Software เลยครับ

RAW File Performance : ประสิทธิภาพของ RAW File
มาต่อกันที่ Raw File กันบ้างนะครับ realme 15 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น เราสามารถใช้งาน Raw File ได้ในกล้องหลังทุกตัว โดยรูปแบบ ของ Raw File จะเป็น Sensor RAW นะครับ แน่นอนว่า พอไม่มี Software Post Process เข้ามาเกี่ยวด้วย " ขนาด และ ความทันสมัย " ของ Sensor จะส่งผลมากที่สุด


ทำให้ เรื่องนี้ realme 15 Pro 5G โดดเด่นมาก ๆ ความยืดหยุ่นของ Raw File ในกล้องหลัก สำหรับแก้ว เทียบเคียงกับราคา 20,000 บาทหลาย ๆ ตัวในตลาดได้เลย เก็บ Detail ได้ดีในทุกช่วงความสว่าง เวลาเอามาขุดไฟล์ต่อ ก็มีแค่ Luma Noise เป็นจุดขาว ๆ เท่านั้น ไม่มี Color Noise มากวนใจเลย
แล้วก็ Raw File ในกล้อง Ultra Wide Angle แก้วประทับใจมาก พูดตรง ๆ นี่คือ Raw File ของกล้อง Ultra Wide Angle ที่ดีที่สุดในระดับหมื่นกลาง และเผลอ ๆ จะกินพวก 20,000 ต้นได้ด้วยซ้ำ ที่แสงน้อยก็ใช้ได้ มี Noise ที่ต่ำ และมีการแก้ Distortion เบื้องต้นมาให้แล้วประมาณหนึ่งด้วย

Dynamic Range ก็ถือว่ากว้างใช้ได้ คือ ไม่เท่ากล้องหลักหรอก แต่ถ้าเราวัดแสงดี ๆ เช็ค Highlight Clipping ให้ดีก่อนกดถ่าย ตอนเอามา Post Process ก็จะได้ไฟล์ที่ทำงานด้วยง่ายที่ดีตัวหนึ่งเลยครับ

ส่วน Raw File จากกล้อง realme 15 5G ตัวรุ่นน้อง แก้วแนะนำให้ใช้แค่กล้องหลักเท่านั้นนะครับ ความยืดหยุ่น และ Dynamic Range นั้น พอ ๆ กับ realme 15 Pro 5G นั่นแหละ แต่ความสามารถในการจัดการ Noise จะไม่เก่งเท่านะ

สาเหตุก็มาจากทั้งเรื่อง Sensor ที่ขนาดเล็กกว่าด้วย และ ISP ที่ประมวลผลภาพจากของ Dimensity 7300+ ไม่ได้แรงมากมายนัก จึงเหมาะกับการใช้ในที่ที่มีแสงดี ๆ มากกว่าครับ ส่วนถ้าเราถ่ายมา Under เกินไป แล้วมาขุด Shadow เพิ่มเติม ก็ต้อง Noise เอาไว้บ้างนะครับ


FRONT CAMERA : กล้องหน้าความละเอียด 50MP
มาดูกันที่กล้องหน้ากันบ้างครับ บอกเลยว่า นี่คือจุดที่ถูกอัปเกรดขึ้นมาแล้ว เรารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมากเลย เพราะว่านอกจากจะได้ Sensor ที่คุณภาพสูงกว่ากล้องหน้าเรือธงหลาย ๆ ตัว ยังมีองศาในการรับภาพที่ค่อนข้างกว้างมาก ๆ อีกด้วย ทำให้ จะ Selfie พร้อมเพื่อนก็ทำได้สบาย ไม่ต้องยื่นแขนออกไปไกล

และ กล้องหน้านี่แหละ ที่น่าจะเป็นจุดเดียวที่ realme 15 Series 5G ทั้งสองตัวนี้ มี Performance พอ ๆ กัน ทั้ง Skintone คุณภาพไฟล์ ซึ่งถือว่า realme ค่อนข้างเต็มที่กับ users มาก ๆ เลยนะครับ ไม่กั๊กเอาไว้ให้กับรุ่นบนแต่เพียงอย่างเดียว แต่อย่างไรก็ตาม เวลาใช้งานจริงแล้ว มีส่วนที่ต่างกันบ้างไหม ? หลัก ๆ มีอยู่ 2 เรื่องนะครับ

เรื่องแรกก็คือ การวัดแสงในกล้องหน้าของ realme 15 Pro 5G นั้น จะทำได้ดีกว่า ให้ผิวที่สว่างกำลังพอดี และ มี Dynamic Range ที่กว้าง ในขณะที่ของ realme 15 5G นั้น จะวัดแสงออกมาค่อนข้าง Under อยู่เล็กน้อย ทำให้เราต้องชดเชยแสง บวกขึ้นไป 1 ระดับ เพื่อให้ได้ความสว่างที่เท่ากัน

อีกหนึ่งจุดก็คือ ความสามารถในการตัดขอบละลายฉากหลัง ถ้าเทียบความแม่นยำในการเก็บปลายผมเล็ก ๆ ทุกคนจะเห็นได้ชัดเจนว่า realme 15 Pro 5G นั้น ทำออกมาได้แม่นยำ และดูเป็นธรรมชาติมากกว่าด้วย

นอกจากนั้น พวก Filter สีโทนฟิล์ม หรือ Light Effect ก็ยังสามารถนำมาใช้ในกล้องหน้าได้เช่นเดียวกันนะครับ

VIDEOGRAPHY : การถ่ายวีดีโอ
ใครว่า realme ไม่เก่งวีดีโอเนี่ย แก้วว่ายุคนี้ต้องคิดใหม่แล้วแหละครับ เพราะว่ารอบนี้ realme 15 Pro 5G มาพร้อมกับ Resolution สูงสุดที่ 4K 60fps ในทุกกล้อง โดยที่กันสั่นยัง Active อยู่ด้วย ซึ่งหาได้ยากมากในสมาร์ทโฟนระดับกลางในยุคนี้ Bitrate Video โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 50mbps ซึ่งถือว่าเยอะเท่ากับ Standard ของเรือธงในปีนี้

ความนิ่ง ของ Frame Rate | Frame Time ที่เก็บมาได้ ทำได้ดีมากทีเดียว ใครที่รู้สึกว่า ถ่ายวีดีโอมาแล้ว Frame ตก ให้ไปกด ปิด Setting Auto FPS ออกไปก่อน แล้วจะได้ความนิ่งของไฟล์วีดีโอที่ดี การกันสั่น Video ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันนะครับ ถึงแม้บางกล้องจะมีแค่ EIS เท่านั้น แต่จาก ผลลัพท์ที่ออกมา ถือถ้าเราถือในท่าทางที่ถูกต้อง และไม่ได้เดินสั่นจนเกินไป เราคาดหวังกับความนิ่งของวีดีโอได้เลย

ทีนี้ Video ของ realme 15 5G เป็นยังไงบ้าง Resolution สูงสุดที่ถ่ายได้จะอยู่ที่ 4K 30fps ในกล้องหลัก และ กล้องหน้านะครับ ส่วน Ultra Wide 8MP ก็อย่างที่รู้กัน ก็คือ Full HD โดย 4K จะมี Bitrate อยู่ที่ 40mbps - 45mbps แต่ในเรื่องของคุณภาพไฟล์ และการ Compress อันนี้แก้วแนะนำนะครับ ถ้าต้องใช้ Video จริง ๆ แล้วมีงบไหว แนะนำให้ไป realme 15 Pro 5G เลยจะดีกว่า
เพราะถึงแม้ Resolution จะได้เท่ากัน แต่ความนิ่งของ White Balance | Dynamic Range | การจัดการ Noise ตัว realme 15 Pro 5G รุ่นพี่ทำได้ดีกว่าทั้งหมด
PERFORMANCE | ประสิทธิภาพ
จบพาร์ทกล้องกันไปแล้วนะครับ เรามาต่อกันที่เรื่องของ Performance ตัวเครื่องกันบ้างนะ สำหรับ realme 15 Pro 5G จะใช้ SoC เป็น Snapdragon 7 Gen 4 ซึ่งเป็นรุ่นที่ 2 ในไทยที่ได้ใช้ Chipset ตัวนี้นะครับ แต่คะแนน Benchmark หลาย ๆ ตัว ทั้ง Geekbench และ Antutu จะเห็นว่า หลังจากผ่านการ Tuning จาก วิศวกร realme แล้ว ได้คะแนนออกมาสูงกว่าตัวที่เปิดไปก่อนหน้าอยู่เล็กน้อย

และยิ่งมาจับคู่กับ RAM 12GB LPDDR4X + Storage ในรูปแบบ UFS 3.1 แล้ว ทำให้สามารถรองรับการใช้งานได้ครอบคลุมกว่า ตั้งแต่การใช้งานทั่วไปแบบ Daily use ไปจนถึงการใช้งานเพื่อการทำงานก็ทำได้ดีเช่นกัน แก้วได้ลองใช้กับทั้งแต่งภาพ ตัดต่อวีดีโอง่าย ๆ บน Caption สามารถ Load ไฟล์ขนาดใหญ่ ๆ ขึ้นมาได้เร็วกว่า UFS 2.2 อยู่พอสมควรเลย

พวกภาคการรับสัญญาณ ก็คือว่าใช้งานได้โอเคเลยครับ ทั้ง WiFi | 5G | GPS ถ้าไม่ได้อยู่ในมุมที่อับสัญญาณจริง ๆ ความเร็วและเสถียรภาพในการเชื่อมต่อ ทำออกมาได้ดีเกาะกลุ่มกับเพื่อน ๆ ในช่วงราคาเดียวกันได้ดี


ส่วนในเรื่องของการเล่นเกม realme 15 Pro 5G ก็สามารถจะเปิดเกมที่แล้วเล่นอยู่ในช่วงนี้ได้ทุกเกม ใน Graphic Setting ระดับ High ถึง Ultra 60fps ได้หมดเลย ไม่ว่าจะเป็น Odin Valhalla Rising หรือจะเป็น Lordnine นอกจากนั้น ก็ยังมี GT Mode มาช่วงดึงประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องออกมาระหว่างการเล่นเกมอีกด้วย รองรับ By pass Charge สามารถเสียบสายเผื่อจ่ายพลังงานตรง ระหว่างการเล่นเกมได้เลย เพื่อลดความร้อนสะสมของตัวเครื่อง


และในเรื่องของ Battery Life นี่คือจุดแข็งของ realme 15 Series 5G ทั้งสองตัวนี้เลย Screen on time สูงสุดที่ทำได้ อยู่ที่ประมาณ 12 ชั่วโมง สำหรับการใช้งานเบา ๆ และวันที่เน้นกล้องอยู่ที่ 9 - 10 ชั่วโมง ด้วยความจุ 7000mAh และชาร์จเร็ว 80W ทำให้เรื่องแบตเตอรี่ ทุกคนปล่อยผ่านได้เลย ใช้งานหนักแค่ไหน ก็จบวันสบาย ๆ แน่นอนครับ


OVERVIEW & OPINION
realme 15 Series 5G การกลับมาของ realme No. Series ที่หวนคืนสู่ DNA ดั้งเดิมที่แฟน ๆ คุ้นเคย เป็น Lifestyle Phone ที่เน้น Design สวยงาม มี Performance ตัวเครื่องที่เพียงพอต่อการใช้งานทุกลักษณะ และที่สำคัญ คือกล้องถ่ายภาพ ที่เรียกได้ว่า จัดมาเต็มที่สุดในรอบหลายปี ของ realme No. Series

Design ตัวเครื่องที่เน้นความบางเบา พกพาสะดวก แต่มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่เต็มตา ซึ่งเห็นว่าตัวเครื่องบาง 7.79 มิลมิเมตร น้ำหนัก 187 กรัม แล้วแบตเตอรี่จะน้อยนะ realme จัดความจุมาให้ 7000mAh พร้อมกับ ชาร์จเร็ว 80W เป็นอันดับต้น ๆ ของ Midrange ในปีนี้แน่นอน ซึ่งจากที่ใช้งานจริงมาแล้ว ต้องมีความพยายามมากเหมือนกัน ที่จะทำให้แบตหมดก่อนจะจบวันได้
เรื่องของกล้องถ่ายภาพ นี่คือ อีกหนึ่งจุดเด่นของ realme 15 Pro 5G เลย ที่ใส่ Hardware กล้องมาให้แบบจัดเต็ม ในกล้องทุกตัวเรือ ไม่ใช่แค่ Resolution 50MP เฉย ๆ นะครับ แต่ขนาด Sensor ถือว่าเลือกมาใน Standard เดียวกับเรือธงตัวเริ่มต้นเลย กล้องหลักมีศักยภาพในการ Crop Zoom Lossless ได้ 2x และ ถ่าย Portrait ได้ 2 ระยะด้วยกัน ซึ่งจากที่แก้วได้ลองใช้มา เหมือนว่ากล้องใน Geneation นี้ realme ปรับจูนมาเพื่อถ่ายคนโดยเฉพาะเลย โดย Skintone สวย | รายละเอียดผิวชัดเจน แต่ไม่แข็ง ถ่ายย้อนแสงได้ดี ตีบวกพลัง Mist Filter ให้ Mood ภาพชวนฝัน และแสงไฟ Dual Flash เล่นกับแสงในยามค่ำคืนได้ดี

เรื่องวีดีโอ ก็โหดไม่แพ้กัน realme จัด 4K 60fps มาให้ในกล้องทุกตัว แบบมี กันสั่น Active ตลอดเวลา ทำให้ไม่ว่าจะใช้กล้องตัวไหนก็ตาม ความนิ่งที่ได้อยู่ในระดับที่ใช้งานได้จริง จุดที่แก้วชอบที่สุดคือกล้องหน้า รอให้ realme มีกล้องหน้าที่ดีขนาดนี้มานานมากแล้ว องศาในการรับภาพกว้าง เดิน Vlog สบาย ไม่ได้ต้อง Software กันสั่นขึ้นมาช่วยเพิ่มเลย
ปิดท้ายกันด้วย ไม้เด็ด AI Party ที่ realme จัดหนัก AI มาให้เราใช้งานกันในทุกภาคส่วน ตั้งแต่ Basic อย่าง Google Gemini | Smart Loop | AI ในการแปลภาษา | AI ในการ Edit ภาพแบบพื้นฐาน ที่จุดที่เทพสุดคือ การใช้ AI Edit Genie มันคือ Generative AI สำหรับการปรับแต่งภาพ ที่เราสั่งงานได้ด้วยเสียงครับ ใช่ครับ เราพูดภาษาไทย ง่าย ๆ แบบที่เราพูดกันทุกวันนี้แหละ บอกเลยว่าถ้าใช้จนคล่องแล้ว นี่จะกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ Editing ภาพที่ทรงพลังมาก ๆ แน่นอน รวมไปถึง realme จะมีการอัปเดต LLM หลังบ้านให้เก่งขึ้นอยู่ตลอดด้วยนะครับ

ราคาวางจำหน่าย realme 15 Series 5G
"realme 15 Series"
- realme 15 Pro 5G (12+512GB) ราคา 16,999 บาท
- realme 15 Pro 5G (12+256GB) ราคา 14,999 บาท
- realme 15 5G (12+256GB) ราคา 12,999 บาท
ช่องทางจำหน่าย
-> ช่องทางออนไลน์ ---> realme 15 Pro 5G (12+512GB) Exclusive เฉพาะที่ Shopee เท่านั้น
-> AIS 5G: พิเศษ! เป็นเจ้าของ realme 15 Series 5G ที่ AIS ราคาเครื่องพร้อมแพคเกจสุดคุ้ม
• realme 15 Pro 5G (12+256GB) เริ่มต้นเพียง 10,399.-
• realme 15 Pro 5G (12+512GB) เริ่มต้นเพียง 10,399.-
• realme 15 5G (12+256GB) เริ่มต้นเพียง 8,499.-
-> realme Brand shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
📅 Pre-Order วันนี้ – 26 ก.ย. 68
รับฟรีของพิเศษ 🎁
🎒 realme Special Backpack
🥤 realme Premium Fruit Mix
✅ ประกันจอแตก 1 ครั้งใน 180 วัน
✅ ขยายประกันตัวเครื่องเป็น 2 ปี
วางจำหน่าย 27 ก.ย. 68 ทั่วประเทศ

[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ] Fanpage : https://www.facebook.com/mobile.fotographer IG : kaew.ravie #Mobilephotographer #โมบายโฟโตกราฟเฟอร์






ความคิดเห็น