ต่อเนื่องกันไปเลยกับ Smartphone จอพับจากทาง Samsung วันนี้ก็ถึงคิวขึ้น Samsung Galaxy Z Flip3 5G ที่หลายๆ คนน่าจะได้เห็นกันมาบ้างแล้ว ว่ามันน่ารัก และน่าใช้ขนาดไหน วันนี้ แก้วรีวิวให้ชมครับ
SPECIFICATION
Display Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว อัตราส่วน 22:9 | Refresh Rate 120Hz
จอนอกแบบ LED 1.9 นิ้ว
CPU Qualcomm Snapdragon 888 5nm | RAM 8GB | ROM 128-256GB
แบตเตอรี่ 3,300mAh ( แอบน้อยไปนิด ) | Fast Charge 15W
Bluetooth 5.2 | WiFi 6
Android 11 | OS One UI 3
มาตรฐานการกันน้ำ IPX8
DESIGN : งานออกแบบสุดน่ารัก
ในหมู่ Smartphone จอพับจากทาง Samsung ที่ออกมา Galaxy Z Flip3 ดูจะเป็นตัวที่แก้วชอบงาน Design มากที่สุดแล้ว ด้วยน้ำหนักที่เบาสบายมือมากๆ ขอบเครื่องแข็งแรงทำจากโลหะ มี Grip ในการจับถือที่สะดวกไม่ต้องกลัวหลุดมือ
บานพับนั้นแข็งแรงดีทีเดียว แต่ถ้าในแง่ของความรู้สึกแน่นหนาของตัวบานพับนั้น แก้วรู้สึกว่า ตัวบานพับของ Fold3 จะหนืดกว่า ตัว Flip3 สามารถเปิดออกได้ค่อนข้างสะดวก และใช้แรงน้อยกว่าครับ
ตัวของตัวเครื่องที่แก้วได้มานั้นมีชื่อสีว่า Cream ก็ตามชื่อสีเลยครับ พื้นที่ส่วนใหญ่ของฝาหลังจะเป็นสีครีม และผิวด้านนอกเป็นกระจก ตัดกับส่วนของ Module กล้อง และ จอด้านนอกที่จะเป็นสีดำ ออกมาได้ดูลงตัว น่ารักมากๆ เลยครับ
ปุ่มเปิดเครื่อง พร้อมสแกนลายนิ้วมือ จะอยู่ทางด้านขวา ใกล้ๆ กับปุ่ม Volume up | down มีช่องใส่ซิมให้แค่ 1 ช่องเท่านั้นนะครับ
แล้วก็ Port การเชื่อมต่อ มีแต่ Port USB-C ไม่มีช่อง 3.5mm มาให้นะครับ ในส่วนของ Microphone ก็จัดมาให้ 3 ตัวเลย ใช้ได้เลย
เวลาพับแบบนี้แล้วดูน่ารักมากเลย สาวๆ ต้องชอบแน่ๆ
DISPLAY : จอด้านนอกใหญ่ขึ้น จอสีสวย ลื่นตา
เรียกได้ว่า Samsung ค่อนข้างจะรับฟัง Feedback จาก Users ที่ใช้งาน Galaxy Z Flip ในรุ่นที่ผ่านมาอย่างมาก แล้วนำมาปรับปรุงในตัวนี้ได้อย่างน่าสนใจ อยากแรกที่เห็นได้ชัดคือ บริเวณหน้าจอ ด้านนอก มีการปรับให้ใหญ่ขึ้น เป็น 1.9 นิ้ว และเป็น Corning Gorilla Glass Victus ด้วย
ซึ่งหน้าจอตัวนี้เนี่ยเราสามารถใช้มันในการ Preview ภาพถ่ายขณะที่เรากำลัง Selfie ด้วยกล้องหลัง ซึ่งอันนี้ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหมนะครับ รู้สึกว่ากล้องหลังจาก Flip3 Selfie สวยกว่าของ Fold3 ประมาณหนึ่งเลย
และนอกเหนือจากจะเอาไว้ Preview ภาพแล้ว การแจ้งเตือนต่างๆ สามารถ ที่จะมาดูได้ที่ตรงอีกด้วย โดยที่ไม่ต้องเปิดเครื่องขึ้นมาเต็มๆ
มี Widget ให้เราตั้งค่าได้มากขึ้น 6 Widget ไม่ว่าจะเป็น ตั้งปลุก ดูเวลา ดูสภาพอากาศ กดเปลี่ยนเพลง ดูแจ้งเตือน App Chat ก็มาดูตรงนี้ได้ครับ สะดวกมากๆ
เปิดหน้าจอด้านในกันออกมาดีกว่าครับ สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ รอยพับบริเวณกึ่งกลางจอครับ อันนี้เหมือนกับ case ของ Fold3 เลย ถ้าใครรับเรื่องรอยพับตรงนี้ไม่ได้เวลาใช้งานแล้วอาจจะรู้สึกหงุดหงิดได้นิดหน่อยนะครับ แต่ว่าเวลาเอานิ้วลูบผ่าน จะรู้สึกถึงคลื่นรอยพับได้น้อยกว่า Fold3 เล็กน้อยครับ
หน้าจอด้านในเป็นแบบ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดมาตราฐานของ Smartphone Flagship ในทุกวันนี้ แต่ Ratio ออกจะยาวหน่อยนะครับ จะอยู่ที่ 22 : 9 วัสดุจอเป็น Ultra Thin Glass ที่แข็งแรง และเป็นวัสดุหน้าจอแบบพับ ที่ดีที่สุดในเวลานี้แล้วครับ
แต่ว่าในแง่ของสีสัน และความคมชัด ของตัวหน้าจอเนี่ย ดีงามครับไม่ต้องเป็นห่วงเลย ได้หน้าจอระดับ Flagship เหมือน Fold3 ที่ให้ Experience ในการใช้งานที่ยอดเยี่ยมไม่ต่างกันเลยครับ
ด้วย Ratio หน้าจอที่มันยาวกว่าปกติเวลาดู Content ที่มีขนาดภาพแบบ 16 : 9 จะเหลือขอบดำบริเวณด้านข้างเยอะเหมือนกัน แต่จะเหมาะกับการชมภาพยนตร์ที่มีอัตราส่วนภาพแบบ 21 : 9 ครับ
ตอนเล่นเกมก็สามารถแสดงผลโอเคนะครับ เต็มเฟรม เต็มจอดี แต่ว่าส่วนที่จะถูก Crop ออกไป ก็คือพื้นที่แสดงบนบริเวณแนวตั้ง ทั้งด้านบน และด้านล่างแทนครับ ถ้าเราไม่ได้เล่นเกมประเภท RTS อย่าง ROV การแสดงผลลักษณะแบบไม่นี้ก็ ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรส แต่อย่างใดครับ
ในเรื่องของลำโพงคู่ที่ใส่มาให้นั้น เสียงดีมากเพียงพอต่อการใช้งานทุกอย่างเลยครับ จะดูหนัง ฟังเพลงเล่นเกมได้หมดเลย Character เสียงเน้นไปในทางแบบฟังสบาย Bass กลางๆ เสียงพูด เสียงเพลงชัดเจน
HIGHLIGHT FEATURES
Smartphone ที่มีจอพับแบบนี้ก็ต้องมีฟีเจอร์พิเศษที่สมาร์ทโฟนทั่วไปทำไม่ได้ เริ่มกันที่ Flex Mode ก่อนเลยครับ อย่างเวลาที่เราใช้ Flex Mode ในการเปิด Application ถ่ายภาพ ส่วนของภาพ Preview จะอยู่ครึ่งจอด้านบน ส่วนด้านล่างก็จะเป็น Panel ของ Application กล้องครับ
ในหนึ่งหน้าจอเนี่ยเราสามรถใช้ Edge Panel ลาก Application ออกมาวางเพิ่มได้สูงสุดที่ 3 Application แต่จริงๆ แล้วอะ ด้วยขนาดหน้าจอที่มันไม่ได้ใหญ่มาก การใช้งาน แบบ 2 หน้าจอจะเหมาะที่สุดแล้วครับ
เปิด Youtube ดูรีวิวของที่อยากได้ไปในจอบน ส่วนจอล่างก็ ไปกดสั่งซื้อพร้อมๆ กันไปได้เลย มิติใหม่ของการเสียเงิน ที่ง่ายกว่าที่เคย
CAMERA กล้องถ่ายภาพ
ในเรื่องของกล้องถ่ายภาพนั้น Samsung Galaxy Z Flip3 5G ก็ให้กล้องถ่ายภาพคุณภาพดีมา 2 ตัว พร้อมกันกระจกหน้าเลนส์ที่ทนทานกว่าเดิมด้วย Gorilla Glass with DX
Wide angle camera 12MP
Ultra wide camera 12MP
ซึ่งกล้อง 2 ตัวนี้ให้ความรู้สึกว่า ไม่ต่างจากกล้องของ Samsung Galaxy Z Fold3 5G สักเท่าไหร่นัก คุณภาพของ Pixel และลักษณะ Character ของสีสันต่างกันเพียงเล็กน้อย โดยที่ Flip3 นั้น สีภาพค่อนข้างจะสดกว่า
Wide angle camera
กล้อง Wide angle ของ Samsung Galaxy Z Flip3 5G พอคนเห็นว่ามันได้แค่ 12MP หลายๆ คนก็จะมีความแบบ โหยทำไม Pixel มันน้อยจัง เวลาซูมดูภาพมันจะแตกไหมนะ ? ตามภาพนี้เลยครับ ต้องบอกว่าไฟล์ภาพถ้ามันดีพอ Pixel ที่น้อยอาจจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่สุดก็ได้ครับ แต่ถามว่าอยากได้ 48MP ไหม ? ก็อยากครับ 555
เวลาเราถ่ายภาพ เราปล่อยให้กล้องมันวัดแสงให้เราเอง ปรับความสว่างให้เอง แต่แค่เราเอานิ้วลากลง ลดแสงมา 1 stop โอ้โห สีท้องฟ้านี่คือแบบ สวยมาก แล้วก็ Texture กับความคมคือ ดีมากเช่นเดียวกัน ไม่มี Shutter Lag ใดๆ แม้จะเปิด HDR ไปด้วย
ในเรื่องของการถ่ายภาพย้อนแสง HDR ที่พยายามดึงแสงฉากหน้าขึ้นมา ทำได้ดี มี noise ให้เห็นได้บ้าง แต่ไม่ได้หนักหนามากจนถึงกับว่ารับไม่ได้ ใช้งานได้สบายๆ เหลือๆ เลยครับ
สีท้องฟ้าของ Samsung นี่มันแบบ มีเอกลักษณ์ดีจริงๆ สวยงามมาก แล้วก็ Texture ของก้อนเมฆนั้น ก็มีรายละเอียดที่ดีมาก ถึงแม้ว่าจะมีขนาดภาพแค่ 12MP แต่เป็น 12MP ที่คุณภาพดีมากเหลือเกินครับ
มาดูภาพจาก Mode Portrait กันบ้างครับ
เป็นการตั้งกล้องถ่ายรูปตัวเองที่ให้ผลลัพท์ที่ถูกใจมาก 555 เบลอหลังสวย ตัดขอบเนียน แถมที่มันสะดวกเนี่ยคือตอนที่แก้วถ่าย พอโทรศัพท์มันพับได้ มันก็ตั้งได้ ขาตั้งกล้องไม่ต้องมีแล้วครับ หาที่วางเลย
ตัดขอบคมกริบ ดูเป็นธรรมชาติ งานผิวเนียนดูเป็นธรรมชาติมาก นี่คือ กล้อง Selfie ที่ดีที่สุดแลว้มั้ง ที่เคยเห็นมา เพราะว่ามันเอากล้องหลังมาถ่ายได้สะดวกนี่แหละ เกินเหตุมาก ชอบ
ออกจากเงามาโดนแสงกันบ้าง Beauty Mode ของ Samsung ก็ทำได้ดีครับ ผิวเนียน แต่ว่าแก้วไม่ได้ปรับเยอะนะ ปรับไว้สักแค่ ระดับ 2-3 เท่านั้น ให้เหลือรูขุมขนไว้บ้างกำลังดูเป็นธรรมชาติดี
พอใช้กล้องหลักเปิดละลายฉากหลังเยอะๆเนี่ย เราจะเห็นการตัดขอบที่ประหลาดๆ มาบ้างการไล่ระดับอาจจะไม่ได้ดูสมจริงมากนัด แต่ถ้าเอาเรื่องตัดขอบ กับ Beauty เนี่ย ตัวนี้เหลือๆ เลยครับ
นอกจากนั้นก็ยังมี Effect ให้เราเอามาถ่ายเล่นได้ครับ ไม่จำเป็นจะต้องเอาไปถ่ายคนอย่างเดียวนะ
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เอา Portrait Mode มาถ่ายคน แต่ Software ในการละลายฉากหลัง ก็ทำได้ดีครับ
กล้อง Ultra Wide Angle
กล้องอีกหนึ่งตัวที่มีมาให้ใน Flip3 นั่นก็คือ กล้องมุมกว้าง หรือว่า Ultra wide angle ความละเอียด 12MP นี่เอง ซึ่งคุณภาพดีมากนะครับ องศาการรับภาพกว้างสูงสุด 123 ํ เหมือนกับ Fold3 เลย Character ภาพก็คล้ายกันครับ Dynamic Range และ HDR โหดมาก
เวลาเราถ่ายภาพด้วยกล้อง Ultra Wide Angle แบบย้อนแสงเนี่ย ในบางมุมจะมีอาการขอบม่วงเกิดขึ้นได้เหมือนกันนะครับ อันนี้ต้องระวังนิดนึง เพราะว่า ถ้าถ่ายปกติแล้ว จะไม่มีอาการนี้เกิดขึ้นครับ
หรือจะเอามาถ่ายโต๊ะทำงาน Shot เดียวก็เก็บได้ทั้งโต๊ะไปเลยครบๆ
เอามาถ่ายภาพพวกอาคารหรือสถาปัตยกรรม ก็จะมีเรื่อง Distortion เข้ามาบ้างเหมือนกัน บริเวณขอบภาพในทุก ๆ ด้านจะเบี้ยวนิดๆ เพราะว่ามันกว้างมากขึ้น 123 ํ จริงๆ Samsung มี Software มาช่วยเยอะ แล้ว แต่เราไป Crop ออกได้ครับ
หรือ พับเครื่องลงมาแล้วใช้กล้อง Ultra Wide Angle Selfie แบบนี้ก็ได้ครับ ไฟล์ดีมาก
กล้องหน้าความละเอียด 8MP ซึ่งจุดนี้เนี่ยแก้วรู้สึกว่ามันน้อยไปหน่อย อยากได้ 10MP เท่ากับ Fold3 แต่ไม่ใช่ว่า ภาพที่ได้มันไม่โอเคนะ มันก็โอเคในระดับหนึ่งครับ แต่บางทีเราเอาไปเปิดบนจอที่มัน Resolution สูง ก็จะเห็นความแตกๆ ได้บ้าง
แต่เรื่อง Beauty Mode กับการเก็บขอบทำโบเก้เนี่ย สุดจริงๆ
ถ้าดูในจอมือถือเนี่ย ภาพสวยคมเลย แต่ถ้าซูมดูก็จะเห็นรายละเอียดที่มันอาจจะสู้กล้องหลังไม่ได้อยู่พอสมควรเลยครับ ถ้าให้ Pixel มาสัก 10MP น่าจะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ครับ
พวกลูกเล่นในการดูดสี Background ก็มีมาให้เหมือนรุ่น S21 Series เลยครับ
งาน Video ที่ชาว VLOG ต้องตกหลุมรัก
Samsung Galaxy Z Flip3 สามารถถ่าย Video ได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 4K 60fps ซึ่งเพียงพอมากๆ แล้วนะครับ การวัดแสง ความคม ทำได้ดีมากๆ แต่เพื่อจะให้เปิด Super Steady ได้นั้น ต้องยอมลด ความละเอียด ลงมาเหลือ FHD 30fps
ซึ่งในความละเอียด Setup นี้ FHD 30fps เปิด Super Steady ถ่ายได้ทั้ง Ultra Wide Angle และ Wide Angle เลย กันสั่น กับการวัดแสงคือดีทั้งสองกล้องเลยนะ แต่คุณภาพ Video ให้กล้อง Wide Angle จะค่อนข้างได้รายละเอียดที่มากกว่า
หรือกล้องหน้าในจอด้านหน้าที่มีความละเอียด 8MP ก็ถ่าย Video ได้ดีเลยนะครับ โดย Setup ที่ดีที่สุด จะอยู่ที่ FHD 30fps กันสั่นในกล้องหน้าก็ ดีในระดับหนึ่งเลย แต่สูงกล้องหลังไม่ได้จริงๆ
จากที่มืดออกไปที่สว่าง จังหวะในการปรับสภาพแสงก็ Linear นุ่มนวลดีครับ ไม่ได้กระตุก กึกๆ
ในส่วนของไมโครโฟนทั้ง 3 ตัวที่ให้มานั้น เรียกว่าทำงานได้ยอดเยี่ยมเลย อัดเสียงรายละเอียดเล็กๆ ได้ชัดมาก แต่ว่าอาจจะไม่ได้ตัดเสียงรอบข้างได้ดีมากนัก แต่คุณภาพของการอัดเสียงเนี่ยดีจริงๆ ครับ
Conclusion & Opinion
Samsung Galaxy Z Flip3 5G สำหรับแก้วนั้น เป็น Smartphone ที่หยิบ Hardware ระดับ Flagship มาปรับมุมการใช้ สร้าง Use case ใหม่ๆ ที่สมาร์ทโฟนปกตินั้นไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดหลาย Application พร้อมกัน การแบ่งหน้าจอบนล่างในการใช้งาน รวมไปถึงการใช้จอนอกมา Preview ในการถ่ายภาพ ถ่าย Video ก็ทำได้ยอดเยี่ยม
การปรับปรุง Design และวัสดุให้แข็งแรงขึ้น และน่าใช้มากขึ้นกว่าในรุ่นก่อนหน้าค่อนข้างมาก และ สีสันที่มีให้เลือกหลากหลายสีตามบุคลิก ของแต่คนเนี่ย Samsung ทำการบ้านในเรื่องนี้มาดีจริงๆ เพราะเรียกได้ว่า มันกลายเป็นจุดแรกที่ทำให้คนหันมาสนใจ Galaxy Z Flip3 เลย
จุดพิจารณาหลักๆ ของรุ่นนี้ก็คือ เรื่องของ Battery และการชาร์จ ด้วยความที่ให้แบตเตอรี่มาแค่ 3,300 mAh เท่านั้นเอง ซึ่งค่อนข้างน้อยนะ เมื่อเทียบกับ Spec และราคาระดับนี้ รวมไปถึง การชาร์จไว ก็ทำได้แค่ 15W เท่านั้น ใช้งานได้จบวัน แต่ถ้าเล่นกล้องไปด้วยเนี่ย อาจจะต้องมีแวะชาร์จระหว่างวันบ้าง จากที่ลองดูแล้ว เปิด 5G ใช้งานทั้งวันไม่ได้แน่ๆ ครับ
Samsung Galaxy Z Flip3 5G มีมาให้เลือกกัน 2 Spec 4 สีหลัก 3 สีพิเศษ ดังนี้
Samsung Galaxy Z Flip 3 5G RAM 8GB | ROM 128GB : 34,900 บาท
Samsung Galaxy Z Flip 3 5G RAM 8GB | ROM 256GB : 36,900 บาท
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]
IG : kaew.ravie