สวัสดีครับทุกคน กับมาเจอกับแก้ว และ Gadget จากทาง HUAWEI กันอีกครั้งนะครับ วันนี้เราอยู่กับ HUAWEI FreeBuds SE2 เป็นหูฟังในรูปแบบ Open fit ที่เน้นในเรื่องของความสวมใส่สบาย และใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานทั้งวัน และพร้อมรับทุกสภาวะการใช้งาน จะน่าใช้แค่ไหน ไปชมรีวิวกันครับ
SPECIFICATION
- DRIVER : Dynamic Driver: 10.0 mm dynamic driver unit
- WEIGHT : 3.8 กรัม / ข้าง | เคสชาร์จ 33 กรัม
- BATTERY : ต่อข้าง 41 mAh | Charging Case 510 mAh
- PLAYTIME : ใช้งานต่อเนื่อง 9 ชม. | เมื่อร่วมกับเคส 40 ชม.
- CONNECTIVITY : Bluetooth 5.3
DESIGN : งานออกแบบ
การออกแบบของหูฟัง HUAWEI FreeBuds SE2 ตัวนี้นั้น จะมีความแตกต่างจาก HUAWEI FreeBuds ในรุ่นปกติ และ HUAWEI FreeBuds SE ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น Design ตัวเคส ที่เปลี่ยนจาก รูปทรงที่เห็นความ มน ๆ โค้ง ๆ รอบนี้มาเป็น Box Shape แบบขอบมน แทน สวยแปลกตาดี
สีตัวหูฟังที่แก้วได้มาจะเป็นสี Ceramic White สีขาวนวล มีความ Glossy เล่นแสงสวยงามดีครับ แล้วเขาก็จะมีอีกหนึ่งสีก็คือ Isle Blue ซึ่งก็สวยดีเหมือนกัน ออกสีอมฟ้า ๆ หน่อย ขนาดตัวเคสเล็กมาก ๆ โดยที่จะมีน้ำหนักรวมทั้งตัว Case + หูฟัง อยู่ที่ 40.6 กรัมโดยประมาณ ซึ่งเบามาก ๆ ใส่กระเป๋ากางเกงนี่คือ ไม่รู้สึก
ตำแหน่งของ Port Charge USB-C นั้น ก็จะอยู่ด้านล่างนะครับ ซึ่งจะเป็นแบบ Fast Charge ด้วย มาพร้อมกับ มาตราฐานการกันน้ำอยู่ที่ IP54 กันน้ำกระเด็น และกันเหงื่อได้ เวลาเราใส่ออกกำลังกาย แต่ลุยน้ำหนัก ๆ หรือจมน้ำไม่ได้นะครับ
สำหรับรายละเอียดอื่น รอบ ๆ ตัวเคส ก็จะมีเพียงแค่ Light indicator บริเวณด้านหน้า ที่เอาไว้บอกสถานะของหูฟัง จะไม่มีปุ่ม เปิด/ปิด หรือ เอาไว้กดเข้า Pairing Mode เหมือนกับรุ่นอื่น ๆ นะครับ
พอเราเปิดฝาขึ้นมาเพื่อจะหยิบตัวหูฟังออกมา น้ำหนักของตัวฝา ค่อนข้างเบา แต่แรงดูดของแม่เหล็ก ที่จับตัวหูฟังเอาไว้ ค่อนข้างกำลังดี ไม่ตึงมือจนเกินไปเวลาเราหยิบออก และไม่ได้เบาจนหลุดออกจากเคสได้ง่าย
CONNECTIVITY : การเชื่อมต่อ
ในครั้งนี้ HUAWEI ในอัพเกรด Version ของ Bluetooth มาเป็น 5.3 แล้ว ทำให้การเชื่อมต่อ ความเสถียรของสัญญาณ และระยะห่างจะดีขึ้นกว่าเดิมพอสมควร ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของเราในครั้งแรกนั้น ให้เราเปิดฝาตัวหูฟังขึ้นมา แล้ววาง HUAWEI FreeBuds SE2 ไว้ใกล้ ๆ กับอุปกรณ์ที่ต้องการ
หลังจากนั้น ให้เราเอานิ้วแตะที่พื้นที่ควบคุมบนก้านหูฟัง หรือตำแหน่งที่เราใช้ในการออกคำสั่งตัวหูฟัง ทั้ง 2 ข้าง ค้างเอาไว้ 3 วินาที หรือ จนกว่า ไฟสถานะที่ตัว Case จะกระพริบเป็นสีขาว ที่เป็นการแสดงถึงว่า หูฟังพร้อมเข้าสู่ Mode การเชื่อมต่อด้วย Bluetooth แล้ว
หากสมาร์ทโฟนของเรา มีการ Pairing กับ HUAWEI FreeBuds SE2 เอาไว้แล้ว เวลาเราเปิด Case หูฟังขึ้นมา ตัวสมาร์ทโฟน และหูฟัง จะทำการเชื่อมต่อให้เราอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว ที่แก้วลองกับ HUAWEI Nova 10 กับ iPhone 12 ใช้เวลาเพียงไม่เกิน 5 วินาที
WEARABLE EXPERIENCE : การสวมใส่
HUAWEI FreeBuds SE2 เป็นหูฟังในรูปแบบ Openfit ที่ให้การสวมใส่ที่กระชับรูปหูได้ดี ถึงแม้ความแน่นประชับกับรูปหู อาจจะไม่ได้เท่ากับ รุ่นที่มีจุกยางเหมือนกับ รุ่นที่เป็น Semi in-ear หรือแบบ In-ear แต่ก็ไม่หลุดออกมาง่าย ๆ แน่นอนครับ
ด้วยน้ำหนักเพียงแค่ข้างละ 3.8 กรัม เวลาที่สวมใส่นั้น แทบไม่รู้สึกถึงน้ำหนักของตัวหูฟังได้เลย รวมไปถึงทั้งตัววัสดุ งานประกอบ ที่ไม่มีเหลี่ยมมุม ทำให้เวลาใส่ใช้งานนาน ๆ ไม่รู้สึกเจ็บหู บางคนที่ชอบใส่หูฟังเวลานอน แก้วเองได้ลองใส่ตอน นอนตะแคงแล้ว ถึงแม้น้ำหนักจะกดลงใส่ ก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยครับ
เราสามารถ ควบคุม และออกคำสั่งหูฟังได้ด้วยการสัมผัส บริเวณขาด้านนอกของตัวหูฟัง และตอบสนองได้รวดเร็วมาก ไม่ว่าจะเป็นปรับเสียง รับสาย/วางสาย เลื่อน Track ก็ต่อไปก็ทำได้สบาย
QUALITY & SOUND CHARACTER : คุณภาพเสียง
สำหรับในเรื่องของคุณภาพเสียง และ Character เสียงของ HUAWEI FreeBuds SE2 ตัวนี้ เป็นหูฟังที่เน้นโทนเสียงแบบความเคลียร์ ความใสเป็นหลัก แต่ก็มีพลังเสียงในภาพรวมที่ไม่ธรรมดา ด้วย Dynamic Driver ขนาด 10mm ให้เสียงที่ได้รายละเอียดดีในทุกย่านเสียง
ตัวหูฟังจะมีฟีเจอร์ Call noise cancellation หรือ ตัดเสียงรบกวนระหว่างการสนทนามาให้ และสามารถเลือก ปรับโทนเสียงด้วย Multi-EQ ผ่าน Application HUAWEI AI Life ได้ด้วยครับ ตัว Codec ที่ Support อาจจะไม่ได้หวือหวามากนัก จะมีแค่ SBC and AAC เท่านั้นครับ แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานครับ
นอกจากนั้น ถ้าเผลอทำหูฟังหายข้างใด ข้างหนึ่ง นอกจากจะสามารถดู Location ล่าสุดของหูฟังได้แล้ว เรายังสามารถให้หูฟังเล่นเสียง แบบแยกข้างได้ด้วย จะได้รู้ว่า แต่ล่ะข้างอยู่ที่ไหน สะดวกมาก ๆ ครับ
BATTERY LIFE : ระยะเวลาการใช้งาน
ในส่วนของ Battery Life ของ HUAWEI FreeBuds SE2 ในหูฟังแต่ละข้าง มี Battery มาให้ 41 mAh และที่ตัว Case 510 mAh เมื่อไฟ Indicator ที่ตัวเคสเปลี่ยนเป็นสีแดง หมายความว่า Battery ที่เคสนั้นใกล้หมดแล้วนะครับ
ซึ่งตัว Battery นี่แหละที่เป็น อีกหนึ่ง Highlight สำคัญของรุ่นนี้ เพราะเราสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานมากถึง 9 ชั่วโมง และเมื่อใช้งานร่วมกับ Charging Case จะอยู่ที่ 40 ชั่วโมง กันเลยทีเดียว ถือว่ายาวนานมาก ๆ เลยครับ
Overview & Opinion
ในมุมมองของของแก้ว HUAWEI FreeBuds SE2 ตัวนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อคนที่มีความจำเป็นจะต้องใช้หูฟัง แทบจะตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปแบบ Lifestyle Use ที่พกติดกระเป๋าเอาไว้ใช้งานได้ทุกเมื่อที่ต้องการ โดยที่ไม่รู้สึกว่า ถ่วงกระเป๋า หรือพกพาลำบาก เพราะน้ำหนักเบามาก ๆ
รวมไปถึงคนที่มีความจำเป็นจะต้องใช้หูฟังในการทำงานอยู่ตลอด คนที่ต้องประชุมออนไลน์บ่อย ๆ หรือมีลูกค้าโทรหาทั้งวัน เราสามารถจะใส่หูฟังตัวนี้เอาไว้ได้ตลอดทั้งวัน โดยที่ไม่รู้สึกรำคาญ หรือรู้สึกเจ็บเลย เพราะมีการทดสอบกับรูปหูของคน มากกว่า 300,000 รูปแบบ ใส่สบาย แต่กระชับไม่หลุดร่วงได้ง่าย
ในแง่ของ Sound Character ที่ทำออกมา เน้นความใส เน้นการใช้งานในภาพรวมที่ดีนั้น ก็ทำได้ดี ส่วนคนที่ต้องการ Experience ในการฟังเพลงที่ดีมาก ๆ แก้วแนะนำให้เลือก HUAWEI FreeBuds 5i หรือ HUAWEI FreeBuds Pro 2 ไปเลยจะจบกว่าครับ
ส่วน Battery Life นั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่เด่นที่สุดแล้ว ใน HUAWEI FreeBuds SE2 ตัวนี้ เพราะว่า สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดอยู่ที่ 9 ชั่วโมง และเมื่อร่วมกับ Charging Case จะอยู่ที่ 40 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว ยิ่งสำหรับคนที่รีบ ๆ เนี่ย ชาร์จแค่ 10 นาที ก็ฟังเพลงต่อได้ยาว ๆ 3 ชั่วโมงกันไปเลยครับ
ราคาวางจำหน่ายของ HUAWEI FreeBuds SE2 อยู่ที่ 1,499 บาท เท่านั้น
มาพร้อมดีลเด็ดออนไลน์ 9.9 ในราคาสบายกระเป๋าเพียง 799 บาท จากราคาปกติ 1,499 บาท และรับฟรี กระเป๋า Storage Bag มูลค่า 470 บาท เมื่อสั่งซื้อในวันที่ 9 กันยายน 2566 ที่ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee
link ช่องทางการสั่งซื้อ
Shopee: https://bit.ly/45OfgWc
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]
IG : kaew.ravie