สวัสดีครับทุกคนกลับมาเจอกันอีกครั้งนะครับ วันนี้แก้วอยู่กับ HUAWEI Freebuds SE เป็นหูฟังไร้สายตัวล่าสุดจากทาง HUAWEI ที่มีจุดเด่นในเรื่องของ การสวมใส่แบบ Semi In-ear และ Dynamic Driver ขนาด 10mm ที่ให้เสียงน่าประทับใจมาก ไปดูรีวิวกันครับ
DESIGN : งานออกแบบ
ในเรื่องของงานออกแบบ ของ หูฟัง HUAWEI FreeBuds SE ตัวนี้ จะให้ความรู้สึกที่ดูสนุก ทรงเคสเป็นแบบ Capsule มน ๆ ตัวเคสเป็นสีขาว เฉดเดียวกับตัวหูฟัง ภายตัดเป็นสีเทาอ่อนๆ ดู Minimal มาก ๆ น้ำหนักตัว Case เพียงแค่ 35.6 กรัม และตัวหูฟังข้างละ 5.1 กรัม เท่านั้นครับ
ตอนเราหยิบตัวหูฟังออกมา ต้องออกแรงประมาณหนึ่ง เพราะแรงแม่เหล็กที่ดูดหูฟังเข้ากับตัว Case ค่อนข้างที่จะแรงนิดหนึ่ง ในส่วนของ ปุ่ม Power On / Off จะอยู่ด้านในตัว Case ความจุ แบตเตอรี่ที่ตัว Case อยู่ที่ 410 mAh ความจุแบตเตอรี่ที่ตัวหูฟังต่อข้าง 37 mAh
บริเวณด้านหลังตัว Case จะมีช่องเสียบชาร์จเป็น USB-C Port ครับ
CONNECTIVITY : การเชื่อมต่อ
มาเริ่มกันตั้งแต่เรื่องของการเชื่อมต่อกันเลยครับ บริเวณด้านในตัว Case เนี่ย จะมี ปุ่ม Power อยู่นะครับ ในการใช้งานครั้งแรก ให้เรากดเอาไว้ประมาณ 5 วินาที เพื่อเข้าสู่ Paring Mode ครับ โดยเราสามารถสังเกตได้ง่าย คือ ไฟ Light Indicator ของตัวเคสจะกระพริบเป็นสีขาว
ถ้าเราใช้อุปกรณ์ของทาง Huawei เนี่ย จะมี เป็นเหมือน Wizard ที่ช่วยในการเชื่อมต่อเด้งขึ้นมา ใช้งานง่ายมาก เช็คไฟที่ตัวเคส เช็คไฟที่หูฟัง ผ่าน Interface ตัวนี้ได้ง่ายมากๆ แต่ถ้าไปใช้กับอุปกณ์ตัวอื่น จะต้องเข้ามาดูใน Connection Menu นะครับ แล้ว
ใช้ Application HUAWEI AI Life เพื่อดูสถานะ และตั้งค่าหูฟัง
เราสามารถที่จะ Custom ท่าทางการสัมผัส ที่ตัวหูฟัง ให้ตอบสนองเป็น Function ที่เราต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการ ตั้งให้ แตะที่หูฟังข้างซ้าย สั่งงาน Function หนึ่ง หรือ แตะที่หูฟังข้างขวา สั่งงาน Function หนึ่ง ก็ทำได้ครับ
WEARABLE EXPERIENCE : การสวมใส่
HUAWEI Freebuds SE มีการสวมใส่เป็นแบบ Semi In-ears ออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับส่วนโค้งของหูชั้นนอก และลดแรงกดที่ช่องหู ให้ความพอดีน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดี นอกจากนั้นแล้ว ยังช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดีในระดับหนึ่ง มีตัวจุกซิลิโคน มาให้ในกล่อง 3 ขนาด ตามรูปแบบหูของแต่ละคน การตัดเสียงแต่อาจจะไม่ได้เท่ากับ Full In-ears ที่จะมีความแน่นมากกว่านะครับ
เวลาใช้งานสวมใส่ออกนอกบ้าน ก็สามารถที่จะยึดกับช่องหูของเราได้ดี ไม่มีหลุดเลย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังให้ความสบายขณะสวมใส่ที่ดีมากๆ ถ้าเอาความรู้สึกแก้วคือ มันแทบจะไม่ต่างจาก HUAWEI Freebuds 4 ที่เป็นแบบ earbuds ธรรมดาๆ เลยในเรื่องของความสบาย
Sensitivity ในการแตะที่ตัวหูฟังเพื่อออกคำสั่งต่างๆ ก็ทำได้ดี ไม่ต้องใช้แรงเยอะ ที่ตัวหูฟังมี G Sensor ที่เมื่อเราหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ เพลงจะเล่นให้อัตโนมัติเลย หรือ เมื่อถอดออก เพลงก็จะหยุดลงชั่วคราวครับ
QUALITY & SOUND CHARACTER : คุณภาพเสียง
ในเรื่องของคุณภาพเสียง HUAWEI Freebuds SE มาพร้อมกับ Dynamic Driver ขนาด 10mm ที่จะให้โทนเสียงไปในทาง Clear ใส ย่านกลาง และย่านสูง ให้ Detail ที่ยอดเยี่ยม มี Sound Stage ที่ค่อนข้างกว้าง และเสียง Bass ที่ออกมาในทาง Warm ฟังสบาย ไม่หนักมาก
จะเอาไปใช้งานฟังเพลงจาก Source ที่อาจจะไม่ได้มีความละเอียดในเรื่องเสียงสูงมาก ก็ยังให้คุณภาพเสียงและประสบการณ์การใช้งานที่ดีเหมือนเดิมครับ หรือ จะใช้ในการคุยโทรศัพท์ หรือ Video call ต่างๆ ก็ให้คุณภาพเสียงที่ดีครับ
BATTERY LIFE : ระยะเวลาการใช้งาน
ในส่วนของ Battery Life ของ HUAWEI FreeBuds SE ในหูฟังแต่ละข้าง มี Battery มาให้ 37 mAh และที่ตัว Case 410 mAh ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง HUAWEI Freebuds 4 เลย เมื่อไฟ Indicator ที่ตัวเคสเปลี่ยนเป็นสีแดง หมายความว่า Battery ที่เคสนั้นใกล้หมดแล้วนะครับ
เปิดฟังเพลงต่อเนื่อง 6 ชม. เมื่อชาร์จร่วมกับเคสจะได้ 24 ชม.
โทรศัพท์ หรือ สนทนาต่อเนื่อง 4 ชม.
Overview & Opinion
ภาพรวมของหูฟัง HUAWEI Freebuds SE ตัวนี้ เป็น หูฟังที่ให้คุณภาพเสียง งานออกแบบ และ Battery Life ที่คุ้มค่า เกินราคาค่าตัวมากๆ การสวมใส่ที่เป็นแบบ Semi In-ear ที่สวมใส่สบาย และ ตัดเสียงได้ในระดับหนึ่ง แม้จะไม่มี Active Noise Cancellation
Sound Character ของ Freebuds SE จะเป็นในแนวเน้นเสียงใสๆ Sound Stage กว้างๆ ย่านโทนเสียงสูง เสียงกลางจะมีความชัดเจน และ Detail ดีมากๆ เสียง Bass อาจจะไม่ได้โดดเด่นมาก แต่ให้ความรู้สึก Warm เหมาะกับฟัง POP , Jazz , Soul เพลงที่มีเสียง Vocal เยอะๆ หลากหลายระดับ
Battery คือ ทนมากๆ บางทีแบบแก้วนอนอ่านหนังสือ แล้วเปิดเพลงฟังไปด้วย เผลอหลับไป ตื่นเช้ามาอีกที Battery ยังเหลืออยู่เลย จำนวนชั่วโมงการใช้งาน 6 ชั่วโมงนั้น ใช้งานได้จริงครับ
--------------------
ราคาตัวของ HUAWEI FreeBuds SE ตัวนี้จะเปิดตัวที่ 1,899 บาท
วางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 ทางช่องทางออนไลน์เท่านั้น สามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 18-27 พฤษภาคม 2565
Pre-order Promotion
HUAWEI Store: ชำระค่ามัดจำ 100 บาท รับ Code ส่วนลดมูลค่า 800 บาท ระหว่างวันที่ 18-27 พฤษภาคม 2565 และสามารถใช้ Code ส่วนลดได้ในระหว่างวันที่ 22-27 พฤษภาคม 2565
Lazada / Shopee: สามารถพรีออเดอร์ในราคา 1,099 THB ระหว่างวันที่ 18-27 พฤษภาคม 2565
Thisshop: วางจำหน่ายในวันที่ 28 พฤษภาคม 2565
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]
IG : kaew.ravie