สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนครับ เจอกับแอดมินแก้วอีกแล้ว วันนี้แก้วอยู่กับ #HuaweiMate30Pro สมาร์ทโฟนตัวล่าสุดจาก Huawei ที่สร้างกระแสฮือเอามากๆ ในวันเปิดตัว วันนี้เรามาดูไปพร้อมๆ กันครับว่า กล้องของ Mate 30 Pro เนี่ย มันน่าสนใจขนาดไหน และทำอะไรได้บ้าง ? ไปชมกันเลยครับ
เริ่มกันที่ตัวเครื่องก่อนเลยครับ หน้าจอด้านหน้าของ Mate 30 Pro นั้น เป็นแบบจอโค้ง โดยปกติแล้วเวลาจอมันโค้งเนี่ย จริงที่ตามมาคืออาการ ลื่นหลุดมือได้ง่าย แต่ Mate 30 Pro นั้น ไม่มีปัญหาครับ โอเคเลย
ตัวเครื่องมี Grip ในการจับที่ค่อนข้างพอดีมือ
[ กล้องหลัง 4 ตัว: เป็น Leica Co-engineering ]
- กล้องตัวแรกเป็นเลนส์ SuperSensing Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล, F/1.6 (OIS) - กล้องตัวที่สองเป็นเลนส์ Ultra-Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล,F/1.8 - กล้องตัวที่สามเป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, F/2.4 (3x optical zoom) - ตัวสุดท้ายเป็นกล้อง 3D Depth Sensing
[ กล้องหน้าเซลฟี่ ]
- ความละเอียดกล้องหลัก 32 ล้านพิกเซล
- เลนส์ ultra-wide + เซนเซอร์ ToF
เอาล่ะไม่เสียเวลา เราไปชมภาพกันดีกว่าครับ ต้องบอกก่อนว่า แก้วมีเวลาอยู่กับมันแค่สัปดาห์เดียว เลยจะมีภาพจากหลายๆ สถานที่รวมกันนะครับ ไม่ได้เป็น Set จากที่เดียว
เลนส์ Ultra Wide Angle ของ Mate 30 Pro นี่ไม่ได้มาเล่นๆ จริงๆ คุณภาพไฟล์ดีกว่ารุ่นก่อนพอตัว
ถึงองศารับภาพของกล้องอาจจะไม่กว้างมากนัก แต่อยู่ในขอบเขตที่ Distortion
(การบิดเบี้ยวของภาพ) จะต่ำลง ทำให้สัดส่วนภาพดูสวยงามเป็นธรรมชาติมากขึ้น
เลื่อนภาพตัวอย่างอื่นๆ จาก Ultra Wide Angle เลนส์บน Huawei Mate 30 Pro ได้ด้านล่างนี้ครับ
มากันที่เลนส์ระยะ Normal กันบ้างครับ สิ่งที่เห็นได้ชัดของระยะ Normal ในเลนส์ตัวนี้คือ ระยะ การเบลอ และ Dynamic Range ที่ดีขึ้นกว่าตอน P30 series ซะอีก ที่บอกได้ชัดเจนเพราะว่า แอดมินใช้ P30 อยู่ทุกวัน เล่นซะอยากเปลี่ยนมาตัวนี้เลย
เลนส์ระยะ Normal เนี่ย ต่อให้เอามาใช้ร่วมกับ Aperture โหมด
ก็ยังให้ความคม และเก็บรายละเอียดได้ดีเหมือนกัน
เส้น Perspective ของภาพนี้ตรงมาก คมมาก ไม่มีอาการ Distort เกิดขึ้นให้เห็นเลย
มากันที่ เลนส์ Telephoto กันบ้างครับ จริงๆแล้วตั้งแต่รุ่น P30 Pro เลนส์ Telephoto ก็ทำได้ดีมากแล้ว รุ่นนี้มีการปรับแต่ง Software บางอย่างเข้าไป ให้จังหวะในการสลับเลนส์ทำได้เร็ว และเนียนมากขึ้น
ในระยะ 3X ยังคงรายละเอียดไว้ได้ค่อนข้างดี แต่โทนสีอาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากค่า F ของเลนส์
พอ Zoom 5X เราเริ่มเห็นได้ชัดเจนว่า เลนส์ชิ้นนี้เวลาเจอแสงฟุ้งๆ ภาพจะไม่คมเท่าไหร่
แต่หากใช้ถ่ายสิ่งที่ไม่มีการสะท้อนแสงกลับมาเข้าเลนส์มากๆ ภาพจะยังคมเหมือนเดิมครับ
และแน่นอนครับพลาดไม่ได้ที่จะลองถ่าย ชัดถึงดวงจันทร์เหมือนเดิมจ้า ( Night Mode )
เอาล่ะได้เวลามาลองถ่ายคนกันบ้างครับ การมาของ 3D Depth Sensing เนี่ย ทำให้ Artistic Bokeh สวย และเนียนขึ้นเยอะ เยอะจริงๆ นะ เยอะกว่าตอน P30 pro มากๆ
ในภาพแสงที่แต่งต่างกัน ทั้งบนตัวนางแบบ และบริเวณฉากหลัง 3D Depth Sensing สามารถแยกแยะ ระยะของวัตถุออกมาได้เป็นอย่างดี ทำให้การเก็บขอบเนี่ย หลุดน้อยมาก แทบแยกไม่ออก
มาลองถ่ายกันกลางแดดจ้าดูบ้าง จะเห็นว่าพอสภาพแสงเหมาะสม Software และ Hardware ที่ถูกเพิ่มเข้ามา ก็ได้ทำหน้าที่ของมันได้อย่างดี ผมที่โดนลมพัดขึ้นมา ยังคงถูกเก็บเป็นเส้นๆ ในขณะที่ฉากหลังโดนเบลอ
ดูตัวอย่างภาพ Portrait ได้ด้านล่างนี้ครับ
เอาล่ะสิ่งที่พลาดไม่ได้ครับ เรามาลองถ่ายอาหารกันดูบ้างว่า จะออกมาเป็นยังไง ?
เริ่มกันด้วยใช้ Ultra Wide Angle เลนส์ สังเกตได้เลยว่า สีจะดูซีดๆ ลงไป
สำหรับแก้ว เลนส์ที่เหมาะจะใช้ถ่ายอาหาร ก็คือ เลนส์หลัก ความล่ะเอียด 40 MP นี่แหละครับ
ความล่ะเอียดสูง ภาพคม สีสด ละลายฉากหลังได้โดยไม่ต้องใช้ Software ช่วย
สำหรับใครที่ไม่ชอบให้สีสันอาหารสดมากเกินไป ก็ปรับ Profile สีของกล้องลงมาได้ครับ Soft Color
สาวๆ คงชอบนะครับ ถ่ายของหวานได้หน้ากินมากทีเดียว
มาปิดท้ายกันด้วย รีวิวกล้องหน้ากันบ้างนะครับ แก้วลองมาให้ชมในหลายๆ สภาพแสง
รู้สึกเสียดายเบาๆ ว่า Huawei น่าจะทำกล้องหน้าในรุ่น Flagship ได้ดีกว่านี้สักหน่อย พอเปิด Beauty Mode รายละเอียดบนผิวหน้าก็หายไปเลย ดูหลอกตาไปนิด
สำหรับใครที่อยากดูตัวอย่างวีดีโอ Slow Motion ที่ถ่ายด้วย Huawei Mate 30 Pro กดตรงนี้นะครับ
กับ Huawei Mate 30 Pro เนี่ย สิ่งที่ Huawei ให้มาในรุ่นนี้คือแบบ จัดเต็มแบบที่ค่ายไหนก็ไม่กล้าให้แน่ๆ ในราคาเท่านี้ ใครที่เน้นถ่ายรูปเป็นหลัก คือจะไม่ผิดหวังจริงๆ ส่วนเรื่อง GMS ก็มาลุ้นกันต่อไปครับ ว่าจะมี Return มั้ย ? หรือ HMS จะผงาดไวกว่าที่เราคาดกันไว้
----------------------------------------------------------------------------------------
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]
IG : kaew.mobilefoto