top of page
  • รูปภาพนักเขียนแอดมินแก้ว

HUAWEI MatePad Pro 11 | เรือธง จอ OLED สวย ละมุนตา กับประสิทธิภาพที่เหลือล้น

สวัสดีครับทุกคน กลับมาเจอกับแก้ว แล้วก็ Gadget ตัวล่าสุดจากทาง HUAWEI กันอีกครั้งนะครับ สำหรับวันนี้จะเป็น HUAWEI MatePad Pro 11 ซึ่งเป็น Tablet ในระดับเรือธงตัวแรกที่แก้วได้สัมผัสในปีนี้เลย ตอนได้ลองในงานเปิดตัวว่าแจ่มแล้ว พอมาลองใช้งานยาว ๆ ยิ่งประทับใจ แต่จะยอดเยี่ยมแค่ไหน ไปดูรีวิวกันครับ

SPECIFICATION
  • Display OLED FullView 11” | 10-Bit | 2K | Refresh Rate 120Hz

  • CPU : Snapdragon 888 LTE Model | Snapdragon 870 Wifi Model

  • RAM 8 GB | ROM 256GB for LTE | 128GB for Wifi

  • Battery 8,300 mAh | SuperCharge 40W for LTE | 22.5W for Wifi

  • Wifi6 | Bluetooth 5.2 ( 5.1 for Wifi ) | USB-C 2.0

  • Speakers : 6 Stereo Speakers with HUAWEI Sound

  • 4 Stereo Microphone

  • Operation system HarmonyOS 3.0

  • Weight 450g

DESIGN : งานออกแบบ

มาเริ่มกันที่งาน Design ของตัวเครื่องกันก่อนเลยครับ HUAWEI MatePad Pro 11 ตัวนี้ ใช้วัสดุฝาหลังเป็นแบบไฟเบอร์ ที่มีการเคลือบผิว ป้องกันรอยขีดข่วน และป้องกันรอยนิ้วมือ มาให้ค่อนข้างจะดีมากทีเดียว

สำหรับ Dimension ของตัวเครื่องนั้น เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทาง HUAWEI ทำการบ้านมาดีมาก เครื่องที่แก้วนำมารีวิวนี้จะเป็นรุ่น LTE ที่จะมีความหนาเพียงแค่ 5.9 มม.เท่านั้น และน้ำหนักก็อยู่ที่ 455 กรัม เองครับ จับถือนาน ๆ ในการใช้งานเนี่ย สบายเลยล่ะครับ

ตำแหน่งของปุ่ม Power และปุ่ม Volume up | Volume Down ก็อยู่ในตำแหน่งใช้งานที่เราคุ้นเคย ไม่ต้องปรับความรู้สึก และ Muscle Memory อะไรกันมากมายนักครับ

Port การเริ่มต่อบริเวณด้านล่างตัวเครื่องจะมีเพียง USB-C 2.0 แค่ Port เดียวเท่านั้นนะครับ ไม่ได้มีพวก ช่อง AUX หรือช่องเสียบหูฟังแบบสายมาให้นะครับ

DISPLAY : หน้าจอแสดงผล

สำหรับ HUAWEI MatePad Pro 11 นิ้ว เครื่องนี้ Panel หน้าจอจะใช้ OLED ความละเอียดสูง 2K และรองรับขอบเขตสีสูงสุด 10-bit ซึ่งเป็นมาตราฐานใหม่ของ Tablet ยุคนี้แล้ว ว่าจะต้องได้ระดับนี้ใน Product ระดับ Flagship

และด้วยมาตราฐานค่าสีที่เราเจอกันมาตั้งแต่ HUAWEI MatePad Pro ใน Generation ที่แล้ว อย่าง DCI-P3 100% ในรุ่นนี้ก็ยังคงมาตราฐานสูงสุดเอาไว้เหมือนเดิม ทำให้เราสามารถจะมั่นใจได้ว่า เวลาเราเอาหน้าจอตัวนี้ไปใช้ในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับค่าสีต่าง ๆ นั้น จะได้สีสันที่ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด

แก้วเอา HUAWEI MatePad Pro 11 ตัวนี้ไปใช้งาน Lightroom Mobile มา ความเจ๋งก็คือ ตัวหน้าจอ แก้วสามารถจะใช้นิ้วลากซูม ขยายภาพ ไปพร้อม ๆ กับการปรับแต่ง Slider ค่าต่าง ๆ ทางขวา ด้วยการใช้ M Pencil 2nd Gen ได้พร้อม ๆ กัน

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้หน้าจอของ HUAWEI MatePad Pro 11 ตัวนี้ดูคลีน ดูสวยงามไม่รกตา ก็คือ ตำแหน่งของกล้องหน้าแบบ เจาะรูที่อยู่บริเวณมุมซ้ายบนของตัว Tablet เวลาเราวางแนวนอน ทำให้ไม่เกะกะสายตาเวลาใช้งาน ขอบหน้าจอที่บาง ทำให้พื้นที่หน้าจอเต็มตาไปถึง 92% ของตัวเครื่องเลย

ความลื่นไหลของหน้าจอ Refresh Rate 120Hz และการ Touch ที่ติดนิ้วมาก ๆ เนี่ย แก้วไม่มีอะไรจะติจริง ๆ กับการใช้งานหน้าจอของ HUAWEI MatePad Pro 11 เครื่องนี้ น่าจะเรียกได้ว่า คุณภาพหน้าจอเนี่ย ติด Top 3 ของตลาด Flagship Tablet ได้แบบสบาย ๆ เลยครับ

การใช้งานด้าน ENTERTAINMENT

ลำโพง Stereo 6 ตัวจาก HUAWEI Sound พอมาทำงานกับหน้าจอที่มีความละเอียดสูง ๆ แล้ว ทำให้ประสบการณ์ในการใช้งานด้าน Entertainment นั้น ยอดเยี่ยม และไร้ที่ติที่สุดตั้งแต่แก้วเคยใช้ HUAWEI MatePad Pro Series มาเลย

เวลาเอาไปดู Content บน Streaming พลังเสียงกระหึ่ม ออกมา จนเราสามารถสัมผัสได้ถึงพลังเสียงขณะที่เรากำลังถือตัว Tablet ได้ง่ายมาก ๆ Character ของลำโพงตัวนี้นั้น จะเน้นไปทางเสียง Bass เสียงกลางโอเค อาจจะไม่ได้มีเวทีเสียงที่กว้างโปร่งมาก แต่เสียง Bass จะมีความหนักแน่นมาก ๆ ครับ

สำหรับความแรงของ HUAWEI MatePad Pro 11 ด้วยความที่เครื่องที่แก้วได้มารีวิวนั้น CPU จะเป็น Snapdragon 870 และ RAM 8GB อย่างที่หลายคนรู้กันว่า CPU ตัวนี้แรง แต่ประหยัดพลังงาน และจัดการความร้อนได้ดี ซึ่ง Character นั้นก็แสดงออกมาได้ชัดเจน แก้วเอาไป Test เล่นเกมประมาณ 2 เกม อันแรกก็คือ Mir4 ที่ความละเอียด สูงสุด Frame Rate สูงสุด ได้แบบนิ่ง ๆ เลย ไม่มีดรอป

อีกหนึ่งเกมที่แก้วเอาไปลองมาก็คือ Nino Kuni Cross World นั่นเองครับ ปรับ Graphic ได้ที่ Very High Frame Rate สูงสุดที่ 50fps แบบสบาย ๆ นิ่ง ๆ เลย อาจจะมีตอนเข้าเกมมาใหม่ ๆ ต้อง Load Element รอบ ๆ ขึ้นมาใช้เวลาสักหน่อย แต่หลังจาก Load เสร็จ ก็ลื่นปรื๊ดครับ

HIGHLIGHT FEATURES : ฟีเจอร์เด่น

ใน HUAWEI HarmonyOS 3.0 ที่ถูกใส่เข้ามาใน Tablet ตัวนี้นั้น ไม่ได้แค่มีการอัพเดต Software เพิ่ม Performance มาเฉย ๆ แต่ยังมีการเพิ่ม Features การใช้งานเข้ามาอยู่หลายตัวด้วยกันที่น่าสนใจ เราไปดูกันทีละตัวเลยครับ

ขยายขนาด Widget และนำมา Pin ไว้ที่ Home Screen
เปิด Application พร้อมกันได้สูงสุด 3 Apps โดยที่ไม่หน่วงเลย
WIRELESS PROJECTION ส่งภาพหน้าจอจาก Tablet ไปขึ้นบน Desktop Display หรือ หน้าจออื่น ๆ ก็ได้

ยิ่งถ้าใครที่มี Device อื่น ๆ ของทาง HUAWEI อยู่ด้วยล่ะก็ จะสามารถเชื่อมต่อ ส่งข้อมูลต่าง ๆ ในการทำงานได้แบบสะดวก และไร้รอยต่อมาก ๆ ครับ จะใช้ HUAWEI Share ก็ได้ หรือว่าจะใช้ HUAWEI SUPER DEVICE ก็ได้เช่นกันครับ

ADD-ON GADGET : อุปกรณ์เสริม

SMART MAGNETIC KEYBOARD

  • ยกระดับการทำงาน ให้คล้ายกับ Personal Computer ที่เรานั้นคุ้นเคย ด้วย Stoke ของปุ่มที่ลึกกว่า Layout ของตัวปุ่มที่มีการปรับปรุงมาให้ แต่ละปุ่มนั้น ไม่ชิด และไม่ห่างกันเกินไป ช่วยให้ คนที่พิมพ์สัมผัสนั้นใช้งานได้ง่าย ให้ Feeling ในการกด คล้ายกับการพิมพ์บน Laptop Keyboard แล้ว

ระดับความชันของ Typing Angle นั้น อยู่ในระดับที่ค่อนข้างใช้งานได้ง่าย แต่อาจจะไม่ได้มีร่อง ในการปรับ Typing Angle มาให้แบบ Keyboard case สำหรับ HUAWEI MatePad Pro ใน Generation ก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้ มาพร้อม Feature ใหม่ครับ

ตัว Keyboard นั้นสามารถแยกตัวออกจากฐานตั้ง Tablet ได้ ทำให้เราสามารถตั้งระยะในการวาง Tablet และ Keyboard ได้ตามใจเรา ช่วยให้มี Space ในการทำงานมากขึ้น สะดวกมากขึ้นเยอะจริง ๆ หรือ ถ้าใครใช้ Keyboard ที่คิดมากับ Case ตัวนี้ไม่ถนัด ก็สามารถเอาไปต่อ Bluetooth กับ Keyboard ไร้สายรุ่นอื่น ๆ ได้เช่นกันครับ

STYLUS HUAWEI M Pen 2nd Gen

  • แก้วเองเป็นคนที่ใช้ Tablet ร่วมกับ HUAWEI M Pen มายาวนานมาก ๆ ตั้งแต่ HUAWEI MatePad Pro ใน Generation แรก สิ่งที่สัมผัสได้ก็คือ นี่คือ M Pen ที่มีความไหลลื่น และน้ำหนักของเส้นในการเขียนที่เป็นธรรมชาติที่สุด เท่าที่เคยใช้มาแล้ว

เราสามารถใช้ Stylus M Pen Gen 2 แตะที่บริเวณมุมขวาบนของหน้าจอ แล้วจะปรากฏเครื่องมือ ในการ Short Note แบบรวดเร็วออกมาเรียกว่า Annotate ซึ่งอันนี้แก้วว่าเป็นประโยชน์จริง ๆ เพราะทำงานได้รวดเร็วมาก ๆ

โดยที่เราสามารถจะเขียนลงไปบนหน้าจอได้เลย เมื่อจดเสร็จแล้ว จะมีตัวเลือกให้เราสามารถจะ Save เก็บเอาไว้เป็นไฟล์ก็ได้ หรือจะ Share ไปให้เพื่อน หรือที่ Device อื่น ๆ ของเราก็ทำได้เช่นกันครับ

CAMERA : กล้องถ่ายภาพ

ใน HUAWEI MatePad Pro 11 นั้น จะมีกล้องหลังมาให้ทั้งหมด 2 ตัว และกล้องหน้า 1 ตัว ได้แก่

  • กล้องหลัก 13MP | f/1.8

  • กล้อง Ultra Wide Angle 8MP | f/2.2

  • กล้องหน้า 16MP | f/2.2

คุณภาพของกล้องหลักนี่ ทำได้ดีมาก ๆ เลยครับ ถึงแม้ Depth of field จะไม่ได้มีอะไรน่าสนใจมาก แต่ความคมชัด และการรับแสงให้เห็นรายละเอียดได้ดีนั้น ใช้งานได้ดีมากครับ

Digital Zoom เข้าไป 2x ก็ยังให้รายละเอียดของภาพถ่ายที่ดีอยู่ เอาไปใช้แทนกล้อง Macro ได้เลย

สำหรับกล้อง Ultra Wide Angle 8MP จริง ๆ ก็ต้องบอกว่า คล้าย ๆ กับกล้อง Ultra Wide Angle ที่อยู่ใน Nova Series นั่นแหละ คุณภาพใช้งานได้ แต่เป็นแบบ Fix Focus นะครับ เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป

Video ในกล้องหน้า ความละเอียด 1080p สามารถจะใช้เป็นกล้องหน้าในการประชุม การ Video call ได้ยอดเยี่ยม เสียงไมค์โครโฟนที่ให้มา 4 ตัว ทำงานได้ดี ได้ยินเสียงชัดเจน ไม่แห้ง ไม่อื้อ ครับ
OVERVIEW & OPINION

HUAWEI MatePad Pro 11 สำหรับแก้วที่เป็นคนใช้ Tablet จากทาง HUAWEI มาไม่ต่ำกว่า 2 รุ่นแล้ว ทั้งรุ่นธรรมดา และรุ่น Pro สามารถจะพูดได้เต็มปากเลยว่า นี่คือ Tablet จาก HUAWEI ที่น่าใช้ที่สุดในปีนี้ ทั้งเรื่องช่วงราคา และประสิทธิภาพที่ให้


ในแง่ของการเอาไปใช้ในการทำงานนั้น ตอบสนองได้ดี ด้วย อุปกรณ์เสริม 2 อย่าง คือ Smart Magnetic Keyboard และ HUAWEI M Pen Gen 2 ตัว Keyboard มีความอเนกประสงค์มากขึ้น ด้วยการที่สามารถ ถอดตัว แท่นวาง Tablet ออกจาก ตัว Keyboard ได้ ช่วยให้ มี Space ในการจัดวางที่อิสระมากขึ้น และ M Pen Gen 2 ที่มีความไหลลื่นในการเขียน และการลงน้ำหนัก ที่ดีงามมาก ครับ ๆ แบตเตอรี่ชาร์จใช้ไปเลยยาว ๆ เป็นสัปดาห์


สำหรับการใช้งานด้าน Entertainment ถึงแม้ว่า ลำโพงทั้ง 6 ตัวในครั้งนี้ จะไม่ได้เป็น Sound by Harman/kardon เหมือนรุ่นก่อน แต่บอกเลยว่าพลังเสียงในครั้งนี้ จูนมาเอาใจคนดูหนังเล่นเกมโดยเฉพาะเลย เสียง Bass กระหึ่มสะใจมาก ๆ และตัว CPU Snapdragon 870 ก็ Perform ให้กับคนที่ชอบเล่นเกมได้อย่างดี แรง เสถียร ไม่ร้อนมาก ไม่กินแบตจนเกินไป


สำหรับ Tablet ในช่วงราคาไม่เกิน 25,000 ที่จะให้ Feature ครอบคลุมขนาดนี้ ใช้ทำงาน ใช้แทน PC Like หรือจะเป็นการเอาไปใช้งานด้าน Entertainment เจ้า HUAWEI MatePad Pro 11 มาเป็นอันดับต้น ๆ เลยครับ

HUAWEI MatePad Pro 11 นิ้ว มีให้เลือก 2 รุ่นคือ Wifi และ LTE ซึ่งก็จะมีความต่างในเรื่องของความจุ และ CPU ที่ใช้งานครับ
  • รุ่น Wifi Snapdragon 870 | 8GB + 128GB : ราคา 24,990 บาท

  • รุ่น LTE Snapdragon 888 | 8GB + 256GB : ราคา 29,990 บาท

 

[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]

0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page