สวัสดีทุกคนครับ วันนี้แก้วได้เจ้า HUAWEI Mate Pad Pro 12.6-inch ตัวแรงประจำปี 2021 จากทาง Huawei มารีวิวให้เพื่อนๆ ชม แถม ตัวนี้ยังได้ใช้ Harmony OS เป็นตัวแรกของทางค่ายด้วยนะ จะน่าสนใจแค่ไหน ไปชมกันครับ
HUAWEI Mate Pad Pro 12.6-inch มาพร้อมกับ CPU Kirin 9000E ด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบ 5nm ให้ความแรง และ Battery Efficiency ที่ยอดเยี่ยมมากกว่าที่เคย และรันด้วย Harmony OS Version 2.0
SPECIFICATION
OLED FullView Display ขนาด 12.6” ความละเอียด 2K QHD+ (2560 x 1600 พิกเซล) refresh rate 60Hz
CPU : Kirin 9000E (5nm)
GPU : Mali-G78 MP22
RAM : 8GB
ROM : 256GB (รองรับ NM-Card 256GB)
แบตเตอรี่ : 10,050mAh
ระบบชาร์จ : HUAWEI SuperCharge 40W (แบบสาย) Quick Charge 27W (แบบไร้สาย) 10W รองรับการใช้งาน Reverse Wireless Charge
ชุดกล้องหลัง : 3 ตัว
13MP กล้องหลัก f/1.8
8MP กล้อง Ultra Wide angle มุมกว้าง 120° f/2.4
ToF 3D Camera
กล้องหน้า : 8MP f/2.2
ลำโพง : 8 ชุด Stereo Speaker จูนเสียงโดย Harman/Kardon ไมโครโฟน 4 ชุด
ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS 2.0
น้ำหนัก : 609 กรัม
PREMIUM DESIGN
ฝาหลังแบบสีด้าน ทนต่อการจับของรอยนิ้วมือได้ดีในระดับหนึ่ง สีที่แก้วได้มานี้เป็นสี Matte Grey จริงๆ จะมีอีกสีหนึ่งที่สวยไม่แพ้กันอย่าง Olive Green ผิวสัมผัสที่เรียบเนียน แต่ไม่ลื่น ช่วยให้เมื่อจับถือสามารถจะจับได้ค่อนข้างง่ายเลยทีเดียว
ด้วยดีไซน์แบบพิเศษ ที่ทาง Huawei ได้ซ่อนเสาอากาศเอาไว้ ทำให้ตามขอบเครื่องเนี่ย ไม่มีเส้นของเสาอากาศให้เห็นเลย ช่วยให้งานดีไซน์ดูเรียบหรูมากขึ้นไปอีก
เรื่องของความหรูหราในเรื่องวัสดุ และงาน Design เนี่ย สู้คู่แข่งในตลาด ในระดับเดียวกันได้สบาย พร้อมขอบตัวเครื่องที่บางเพียง 6.7mm
ลำโพงสุดกระหึ่ม 8 ตัว เสริมพลังโดย harman/kardon
ใน Huawei Mate Pad Pro ตัวที่แล้วเนี่ยว่า สุดยอดมากแล้วในเรื่องของเสียงตัวนี้เทพขึ้นอย่างน่าตกใจ มิติเสียงของลำโพงทั้ง 8 ตัวคือทำออกมาได้ดีมากๆ ในทุกระยะ ไม่ว่าเราจะอยู่ไกลจาก Tablet หรืออยู่ใกล้ แบบยกมือถือไว้ติดตัว คุณภาพแทบไม่ต่างกัน
ทดสอบความดังและมิติเสียง ระหว่าง iPad Pro 10.5 กับ HUAWEI Mate Pad Pro 12.6-inch
Display ใหญ่เต็มตา OLED FullView Display และ ลำโพงสุดกระหึ่ม สำหรับการชม Entertainment อย่างแท้จริง
ด้วยความละเอียดหน้าจอถึง 2K และขนาดหน้าจอที่มีความกว้างมากถึง 90% ของพื้นที่ ทำให้เราเวลาเราดู Entertainment ต่างๆ ดู Youtube Netflix มันจะใหญ่เต็มตามากๆ พอมาเป็นหน้าจอที่เป็น OLED สีดำ ก็คือดำสนิทจริงๆ
แถมยังได้รับรองการแสดงเฉดสีได้ 100% ตามมาตรฐาน DCI-P3 เทียบเท่าสีที่ใช้ในวงการมือถือ ไม่ว่าจะด้านแต่งภาพ หรืองานภาพยนตร์อีกด้วยครับ
และเมื่อนำมาเทียบกับ Tablet ใน Tier เดียวกัน ทั้ง Contrast และความสดของสีภาพ ผมค่อนข้างจะชอบ Huawei Mate Pad Pro มากกว่าครับ
บอดี้ใหญ่กว่า แต่น้ำหนักที่มันเบามากกว่าที่ตาเห็น เพียง 600 กรัม นิดๆ ช่วยให้เราจับถือได้สบายมากขึ้น
Camera กล้องถ่ายภาพ
ไม่น่าเชื่อว่า แม้กระทั่ง Tablet Huawei ก็ยังไม่เคยทิ้ง DNA ความเป็นผู้นำในเทคโนโลยีการถ่ายภาพ จัดชุดกล้องมาให้ครบถ้วน ใช้งานได้ดี มีกล้องหลัก ความละเอียด 13MP กล้อง Ultra Wide Angle ความละเอียด 8MP และกล้องหน้า ความละเอียด 8MP
ขนาดว่ากล้องใน Tablet ยังจะให้มาดีขนาดนี้ Huawei นี่แบบไม่ทิ้งลายจริงๆ ครับ
กล้อง Ultra Wide Angle 8MP ตอนแรกนึกว่าจะเฉยๆ กว้างใช้ได้เลยครับ แต่อาจจะไม่ได้มี HDR Software หวือหวามาให้นะ แค่พอเพียงต่อการใช้งานเท่านั้นครับ
กล้องหน้าก็ยังจะใส่ Beauty Mode มาให้ สำหรับความละเอียด 8MP บางคนอาจจะรู้สึกว่าดูน้อย แต่แค่นี้เอามา Con Call ได้สบายๆ ละครับ
Harmony OS ตัวแรกของ Huawei
ก่อนหน้านี้หลายคนคงทราบแล้วว่า ทาง Huawei ได้ พัฒนา OS ของตัวเองขึ้นมา เพื่อใช้ในอุปกรณ์ต่างๆ เดี๋ยวเรามาดูกันว่า มีอะไรน่าสนใจใน OS ใหม่ตัวนี้บ้างครับ
เวลาเราลากนิ้วลงบริเวณมุมขวาบน จะปรากฏ Station สำหรับการควบคุมอุปกรณ์ ซึ่งเรียกว่า ครบจริงๆ ทีเดียวแทบจะคุม General Setting ที่จำเป็นได้เกือบทุกอย่าง
เมื่อลากนิ้วลงบริเวณมุมซ้ายบนนั้น จะเป็นการแสดง Notification ของตัวเครื่องครับ
มีการเพิ่ม Application Dock ด้านล่างขึ้นมา เพื่อให้เราสามารถเข้าใช้งาน Application ที่ใช้บ่อยๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้นครับ แต่ว่า มันมีช่องให้จำกัดนะ ไม่สามารถยัดเข้ามาได้เรื่อยๆ Icon ล็อกขนาดไว้
สามารถที่จะเปิด Application พร้อมๆ กันได้มากถึง 4 App ใน 1 หน้าจอ แต่แอดมินแก้วชอบ Layout การใช้งานแบบนี้ที่สุดแล้วครับ One Big One Small อ่าน Feed Facebook ไป ฟังเพลงไป สบาย
Huawei Share & Screen Collaboration
เราสามารถที่จะเชื่อมต่อ Mate Pad Pro เข้ากับ Notebook หรือ อุปกรณ์อื่นๆ ของ Huawei ได้ เพื่อที่จะสามารถ ทำ Screen Collaboration ใช้งานร่วมกันเป็นจอเสริม
อาจจะใช้เพื่อ เพิ่มพื้นที่ทำงาน หรือ Mirror หน้าจอเพื่อ ย้ายตำแหน่งการทำงาน เช่นเราเปิด Notebook ไว้ที่โต๊ะ แต่ไปนอนแต่งภาพบนเตียงผ่าน Tablet ซึ่งอันนี้แอดมินชอบมาก ด้วยค่าสีของจอที่มีความตรงสีค่อนข้างสูง
Calibrate หน้าจอ Huawei Mate Book D15 2021 ให้มีสีตรงกับ Mate Pad Pro ก็ใช้งานร่วมกันได้แล้ว
M-Pencil 2nd Generation ดีขึ้น แต่ยังดีไม่สุด
สำหรับ M-Pencil เป็น Stylus ที่ทาง Huawei ออกมาคู่กับตัว Tablet Mate Pad Pro ตัวแรกในช่วงปีที่แล้ว เรายังรู้สึกได้ถึงความหน่วงในการเขียนเล็กๆ น้อยๆ อยู่ แต่ในตัว M-Pencil ตัวนี้ ถือว่าตอบสนองได้ไวขึ้นมากๆ
จะสามารถใช้งานได้ลื่นไหล ใกล้เคียง กับ Stylus เจ้าตลาด ในบาง Application ในบาง App ยังรู้สึกหน่วงๆ ได้อยู่บ้าง
สามารถเอามาทำงาน เอกสาร งานจด Note หรือ กึ่ง Sketch ได้ยอดเยี่ยม แต่ยังไม่สามารถทำงานละเอียดๆ มากได้อย่างเป็นธรรมชาติมากนักนะครับ เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด
มาดู Keyboard กันบ้างครับ เนื่องจาก Keyboard ตัวนี้เนี่ย มี Travel Distance ของปุ่มที่ค่อนข้างจะเยอะทำให้เวลาที่พิมพ์ลงไปเนี่ยมันมีความคล้ายกับ แป้นพิมพ์บน Note ช่วยให้เราพิมพ์สัมผัสได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
ตำแหน่งการวาง Keyboard ถึงแม้จะตัด Numpad ออกไปแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับการใช้งานเลย
สามารถที่จะเอามาใช้พวกในการพิมพ์บน Note , EverNote หรือ Application อื่นๆ ได้สะดวกมากๆ
Battery อึดมาก แถม Charge ไวสุดๆ ถึง 40W และรองรับ Wireless Charge ถึง 10W ซึ่งหายากมากใน Tablet
สามารถเอาสมาร์ทโฟนที่มี Wireless Charge มาวางบริเวณด้านหลังเครื่องเพื่อใช้ในการ Wireless Reverse Charge ได้อีกด้วย
OPINION & OVERVIEW
สำหรับผมว่า ผมคิดว่า HUAWEI Mate Pad Pro 12.6-inch ตัวนี้ เป็น Hi-end Tablet ที่เหมาะกับการใช้งาน เรียกได้ว่าทุกรูปแบบจริงๆ ไม่ว่าจะใช้งาน Entertainment ก็มี เรื่องของ ลำโพง harman/kardon 8 ตัว และ Battery Life ที่ยาวนานมา Support
หรือ จะเอามาใช้ในการทำงาน เป็น Creator หรือ เป็นจอเสริม ก็มี Huawei Multi Screen Collaboration ได้อย่างดี และมี M-Pencil Gen 2 และ Magnetic Keyboard Case ที่ทำออกมาได้ดีขึ้น ตอบสนองการใช้งานได้หลากหลายมาขึ้น กับราคาค่าตัว 28,990 ที่จบเลย อุปกรณ์มีมาให้ครบๆ ไม่ต้องไปซื้อแยก อย่างคุ้ม
HUAWEI Mate Pad Pro 12.6-inch เปิดตัวราคา 28,990 บาท เปิดจองแล้วตั้งแต่วันที่ 8 – 17 มิถุนายน 2564 ของแถมเป็น HUAWEI Smart Magnetic Keyboard, M-Pencil, HUAWEI Cloud, HUAWEI VDO, WPS VIP, FilmoraGo VIP รวมมูลค่า 11,517 บาท
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]
IG : kaew.ravie