สวัสดีครับทุกคน รีวิววันนี้แก้วอยู่กับ Smartphone ที่แก้วว่า Xiaomi ทำมาได้ลงตัวและน่าใช้มากๆ นั่นก็คือ Xiaomi 11 Lite NE 5G เครื่องสวย บาง แถมเรื่องของกล้องถ่ายภาพ ทำเอาซะรุ่นพี่ในค่ายตัวเอง เขินเลย ไปดูรีวิวกันครับ
SPECIFICATION
CPU : Snapdragon 778G 5G
Display : 6.55 inches AMOLED | FHD+ | 90Hz
RAM 8 GB / ROM 128 GB + MicroSD 1TB
WIFI 6 | BLUETOOTH 5.2 | NFC
4250mAh | Fast Charge 33W
MIUI 12.5 | Android 11
DESIGN : การออกแบบ
สำหรับการออกแบบใน Xiaomi 11 Lite 5G NE นั้น ก็คง DNA จาก Mi11 ดั้งเดิมที่เราเห็นได้ตั้งแต่ปีเอาไว้อย่างครบถ้วน ทั้ง Layout ของฝาหลัง รูปแบบของฝาหลัง ไปจนถึงตำแหน่งการวางสิ่งต่างๆ โดยจะมีน้ำหนักตัวเครื่องเพียงแค่ 158 กรัม เบาม๊ากก เห็นตัวเลขต่างจากรุ่นพี่หลักสิบกรัม แต่ความรู้สึกเวลาจับถือ มันต่างสุดๆ
แน่นอนว่าเบาแล้ว มันก็ต้องบางลงด้วย ด้วยการที่เขาลดขนาด แบตเตอรี่ลงเล็กน้อย ทำให้ ตัวเครื่องบางลงไปพอสมควรเลย หน้าเพียงแค่ 6.8mm เท่านั้นเอง ไม่ถึง 7mm และตัวขอบตัวเครื่องยังไม่ได้เป็นแบบ Flat เหมือนที่หลายๆ แบรนด์เริ่มทำกันตอนนี้นะครับ จับถือได้มั่นคงดี
สีของฝาหลังตัวเครื่องที่แก้วได้มาทำรีวิวนั้นจะเป็น สี Peach Pink ซึ่งจริงๆ เขายังมีให้เลือกอีก 3 สี ได้แก่ Truffle Black | Bubblegum Blue | Snowflake White ตัวสี Peach Pink นั้น เวลาโดนแสงในองศาเฉียงๆ จะสะท้อนเป็น สีฟ้าน้ำทะเล
บริเวณด้านล่างตัวเครื่องจะไม่มีช่องแบบ 3.5mm มี Port USB-C ถาดใส่ซิมที่ใส่ได้ 2 Sim หรือจะเปลี่ยนมาใส่ microSD Card เพิ่มสักตัวก็ได้ครับ สูงสุด 1TB ลำโพงของ Xiaomi 11 Lite 5G NE เป็นแบบ Stereo หรือลำโพงคู่นะครับ เสียงดีทีเดียว
DISPLAY : หน้าจอแสดงผล
สำหรับหน้าจอแสดงผลใน Xiaomi 11 Lite 5G NE ตัวนี้ จะเป็นแบบ AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว ก็ตามสไตล์การออกแบบที่ต้องการให้พกพาง่าย แต่ไม่เล็กจนเกินไป มี Resolution แบบ FHD+ Refresh Rate 90Hz
ในเรื่องของสีสันเนี่ย สวยมาก สวยพอๆ กับ Mi11T Series เลย รองรับการแสดงผลสีแบบ DCI-P3 และ sRGB 100% ความลึกสี 10 bit ค่า Contrast Ratio 5,000,000 : 1 รองรับ Dolby Vision ด้วย Content ไหนที่รองรับการแสดงผล HDR ก็ใช้ได้ Netflix ได้ L1 ด้วยนะครับ
ออกไปใช้งานกลางแจ้งก็สบายๆ ไม่ว่าจะในหน้าจอปกติ ระหว่างดู Content หรือว่าถ่ายภาพ หน้าจอตัวนี้เอาอยู่ได้สบายๆ ด้วยความสว่าง 800nits เนี่ยก็เพียงพอแล้วละครับ
CAMERA : กล้องถ่ายภาพ
กล้องถ่ายภาพของ Xiaomi 11 Lite 5G NE นั้น มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว ตามสไตล์ Smartphone ระดับกลางของ เกือบทุกแบรนด์ โดยจะมีดังนี้ครับ
MAIN CAMERA 64MP f/1.79
ULTRA WIDE 8MP f/2.2 องศาการรับภาพ 119 ํ
TELE-MACRO 5MP f2.4 ระยะโฟกัส 3 ซม. - 7 ซม.
ไปดูภาพจากเลนส์แต่ละตัวกันครับ ซึ่งจะบอกว่า แหม่ Mi11T Pro อาจจะเขินได้เลยนะ
MAIN CAMERA : กล้องหลัก 64MP
กล้องหลักความละเอียด 64MP สำหรับกล้องตัวนี้ ในความรู้สึกของแก้ว ที่ได้จับ Xiaomi 11 และ Xiaomi 11T Pro มาในปีนี้ กล้องหลักตัวนี้เป็นรองแค่ Mi11 ตัวหลักเท่านั้นแหละครับ ถึงความละเอียดจะแค่ 64MP แต่ได้มาใช้เลนส์แบบ 6P ( เป็นเกรดของเลนส์พลาสติก ) ทำให้ลดการสูญเสียแสงโดยไม่จำเป็นไปได้เยอะ แล้วดูรายละเอียดจากการ Crop ออกมา คือ ป้ายที่อยู่ไกลๆ ยังอ่านได้ชัดเจนอยู่เลย
Sensor 64MP ตัวนี้ มีศักยภาพเพียงพอที่เราจะนำมาใช้งาน Crop 2x ที่บอกว่าพอ คือ พอจริงๆ คือ มันคงรายละเอียดไว้ได้พอๆ กับ 1x แบบครบถ้วนเลย ไม่ได้เป็น Digital Zoom เข้าไปเฉยๆ ดีงามจริงๆ
ในเรื่องของ Dynamic Range นั้น Character ของกล้องตัวนี้ จะดึงแสงในเงามืดขึ้นมาพอสมควร แต่จะไม่ได้ลด Highlight ลงไปมากนัก อีกจุดหนึ่งที่ทำให้แก้วชอบภาพจากกล้องตัวนี้ก็คือ Noise Reduction หรือ Software จัดการจุดรบกวนนั้น มันทำมาได้ พอเหมาะ พอดี ไม่ได้ลบจนใส แต่รายละเอียดหาย ทำให้ เนื้อไฟล์ของข้างโอเค
ชอบเนื้อไฟล์ของกล้องนี้มากๆ กับ Software ที่ไม่พยายามขุดแสงในเงามืดขึ้นมามาก มันดูเป็นธรรมชาติดี และไฟล์ JPEG ก็ถือว่า ทนทานต่อการนำไปตกแต่งภายหลังได้ดีพอสมควรครับแต่ความคมบริเวณขอบภาพ ในบางสภาพแสง แอบจะมีฟุ้งๆ อันนี้ยังไม่เจอสาเหตุเหมือนกันครับ
ULTRA WIDE ANGLE : กล้องมุมกว้างพิเศษ 8MP
แฟนๆ Mi11T Pro อย่าเพิ่งโกรธกันนะ แต่กล้อง Ultra Wide Angle ของ Xiaomi 11 Lite 5G NE ตัวนี้ มันดีกว่ามาก . . แต่ไม่ใช่ว่าจะดีไปซะหมด ไปชมภาพกันดีกว่าครับ อย่างภาพนี้เนี่ย ด้วยองศาการรับภาพที่กว้าง 119 ํ กว้างพอสมควรเลย
ในเรื่องของ HDR ของกล้อง ULTRA WIDE ANGLE ตัวนี้ ต้องบอกว่า บางครั้งก็ลด Highlight ได้ดี บางครั้ง ก็ปรับขึ้นแต่ Shadow เหมือนว่า Software จะช่วยคิดว่า ควรจะปรับมันออกมายังไงให้พอด ให้ภาพไม่ดูแบนจนเกินไป
สำหรับ Dynamic Range นั้น Ultra Wide Angle ตัวนี้อาจจะสู้ไม่ไหว แต่เวลาถ่ายภาพย้อนแสง Software สามารถที่จะจัดการแสง Highlight และ จุดที่อยู่ในเงามืดได้ค่อนข้างโอเค และ ไม่มีขอบม่วงให้เราเห็นแล้วครับ
เมื่อนำความกว้างของตัวเลนส์มาเปรียบเทียบกับ กล้องหลัก ก็จะเห็นความต่างที่ชัดเจนในเรื่องของมุมมองภาพครับ แต่ต้องยอมรับว่า ไฟล์ทำมาดีจริงๆ คุณภาพใกล้เคียงกันมาก แค่โทนสีของ Ultra wide angle นั้นจะติดเหลืองนิดๆ
แต่ก็ใช้ว่าจะมีแต่เรื่องดีๆ นะครับ กล้อง Ultra wide angle ตัวนี้ กว้างมาก กว้างจน โค้งเลย การจัดการ Distortion ทำได้ไม่ดีนัก เวลาเราเอามาถ่ายภาพปกติ จะไม่ค่อยเห็น Effect นี้หรอก แต่ถ้าถ่ายอะไรที่เป็นเส้นระนาบชัดเจนละก็ เห็นชัดเลยครับ
PORTRAIT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพบุคคล
นี่คือจุดที่ทำให้ Smartphone เครื่องนี้น่าสนใจมากๆ มันถ่าย Portrait ได้แบบ ดีแบบ ดีเลย ไม่รู้จะหาอะไรมาติจริงๆ ทั้ง Skintone ที่ตรงตามสภาพแสงที่เราถ่าย การจัดการ Beauty Mode ที่ค่อนข้าง จะเกลี่ยได้เนียนมากๆ และการตัดขอบละลายฉากหลัง คือ กริ๊บสุด
เลือกเอา Cinematic Light Effect มาใช้เพิ่มลูกเล่นให้กับภาพถ่ายได้
ลองใช้ Filter สีที่มีมาให้ในเครื่อง ร่วมกับ Cinematic Light Effect แล้วก็เบลอฉากหลัง นี่ขนาดว่าเจอกระจกข้างหลัง ยังตัดขอบได้เนียนกริ๊บมากๆ
การเบลอฉากหลังที่เราเห็นการไล่ระดับได้ชัดเจนจากหลังตัวแอดมินไปยังจุดที่อยู่ไกลสุดในภาพ
FRONT CAMERA : กล้องหน้า 20MP
กล้องหน้าของ Xiaomi 11 lite 5G NE นี่มัน ดีอีกแล้ว ที่ความละเอียด 20MP ก็ถือว่ากลางๆ ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่สิ่งที่ได้ออกมานี่แบบ ไว้ใจได้มากๆ ภาพคม รายละเอียดครบ การเกลี่ยผิวหน้าเป็นธรรมชาติ รักษารายละเอียดพวกรูขุมขนเอาไว้ได้ดี ถึงแม้เวลาจะเปิด Beauty Mode ก็ตาม
Cinematic Light Effect ก็ยังเอามาใช้ในกล้องหน้าได้เหมือนเดิมครับ
ลองปรับ Bokeh ของกล้องหน้าให้ละลายฉากหลังมากขึ้น ในใจนี่คิดว่า เละแน่ๆ ตัดขอบไม่น่าจะเอาอยู่ แก้วคิดผิดไปถนัดเลยครับ Software ในการเบลอฉากหลังเนี่ย ทำดีจริงๆ ตัดได้กริ๊บสุดๆ เหมือนกล้องหลังไม่มีผิด
ผู้ชายน่าจะชอบกล้องของ Xiaomi 11 Lite 5G NE ตรงที่แบบ Beauty มันดูไม่หลอก มันยังรักษา Skintone ดั้งเดิม กับรายละเอียดของผิวเราเอาไว้ ไม่ได้พยายามทำให้เนียนไปซะหมด ปรบมือให้เลย เก่งจริงๆ ตัวแค่นี้
TELE-MACRO | กล้อง เทเลมาโคร 5MP
มากันที่กล้องตัวสุดท้ายจาก Xiaomi Mi11 Lite 5G NE ก็คือกล้อง Tele-macro นั่นเองครับ เหมือนเดิมครับ มันยังคงเป็นกล้อง Macro ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ในหมู่กลุ่ม Smartphone ตลอดปี 2021 นี้
มันเป็นเลนส์ Macro ที่นอกจากจะถ่ายง่าย ให้คุณภาพไฟล์ที่ดีแล้ว โบเก้มันโคตรสวยเลยครับ
ด้วยระยะโฟกัสที่ไม่ได้เป็นแบบ Fix โดยจะไกลสุดที่ 7cm และใกล้สุด 3cm ทำให้เราสามารถที่จะจัด Compose ได้หลากหลายมากกว่าในการถ่ายภาพ
ใครจะมีเครื่องประดับ หรือ ทำงานเกี่ยวกับเครื่องประดับ อยากเอามือถือมาถ่ายรูปส่งให้ลูกค้าดู จัดตัวนี้ไปเลยครับ ไม่มีผิดหวัง สวยมากจริงๆ ชอบ
NIGHT TIME PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพในที่แสงน้อย
สำหรับ Night Mode ในกล้อง Ultra Wide Angle ก็ต้องบอกว่า พอได้เท่านั้น มันยังไม่ได้สามารถรักษารายละเอียดเอาไว้ได้มากเท่าไหร่ มีการเพิ่ม Clarity เข้ามาพอสมควร แต่เฉลี่ยแสงในภาพได้โอเค
แต่พอเป็นกล้องหลักนั้น ทำได้ดีสามารถจะเก็บรายละเอียดในส่วนต่างๆ มาได้ จัดการ Noise ลงไปได้พอสมควร และลดแสงสว่างที่อาจจะ Over เกินไปลงมาได้
แต่พอมีแสงสว่างในภาพ สักนิดหน่อยรายละเอียดในภาพก็ดีขึ้นแบบ ผิดหูผิดตาเลยล่ะครับ
เรื่องของ White Balance ในการถ่ายภาพด้วย Night Mode ก็ทำได้ดีครับ ให้สีสันที่ดูจริง และค่อนข้างจะแม่นยำ และเท่าที่สังเกต ถ้าหากอยู่ในภาพแสงที่เพียงพอ Software จะไม่อัด Clarity เข้าไปต่อ จะให้ เนื้อไฟล์ที่ใกล้เคียงกับ โหมดการถ่ายภาพปกติครับ
VIDEOGRAPHY | การถ่าย Video
สำหรับในเรื่องของถ่าย Video ก็ให้ฟังค์ชั่นมาค่อนข้างครบนะครับ ไม่ว่าจะเป็น Resolution ใหญ่สุดได้ที่ 4K 30fps และ กันสั่นจะทำงานดีที่สุดที่ 1080p 60fps คุณภาพของวีดีโอใช้ได้เลย การ Focus การวัดแสงทำได้รวดเร็วและเป็นธรรม แต่ตัวกันสั่นต้องบอกว่า การ Jerk ในแนวตั้งนั้น อาจจะยังทำมาได้ไม่สมูทเท่าไหร่ มันมีจังหวะที่ภาพมันเด้งๆ ให้เราเห็นได้เหมือนกัน
ในส่วนของกล้องหน้า อันนี้ดีมาก ชอบ ถ่ายได้ที่ Resolution 1080p 60fps การ Focus ใบหน้าทำได้ดีมากการเฉลี่ยแสงอาจจะ ไม่ไหวเวลาที่เจอ แสงแรงๆ เช่นแดดตอนเที่ยง หรือบ่าย จะมี Over เกิดขึ้นได้บ้าง Mode การถ่ายวีดีโอพวก Dual-View หรือ Cinematic ก็มีมาให้เหมือนรุ่นพี่ครับ
PERFORMANCE | ประสิทธิภาพ
ถึงแม้ว่าจะเป็น Snapdragon 778G แต่การใช้งานนั้นต้องบอกว่า ลื่นไหลมากๆ สามารถจะเปิด Application พร้อมกันได้หลายๆ ตัว โดยที่ไม่ต้องกังวลเลย เล่น Social ได้แบบลื่นๆ สบายๆ
สำหรับคนที่อยากได้ไปเล่นเกม ถ้าเป็นพวกเกม RPG อย่าง Ragnarok Origin | Ragnarok X Generation หรือ Sprite Fantasia CPU ตัวนี้เอาอยู่ครับ สามารถจะเปิด เกมได้ที่ 60fps และ Graphic แบบ High ขนาดมีคนอยู่ในหน้าจอเยอะๆ ก็ไม่เป็นปัญหาครับ
และ ในเรื่องของแบตเตอรี่ Life นั้น ด้วยความที่แบตเตอรี่อาจจะดูไม่เยอะมาก ถ้าใช้งานทั่วไป รวมถึงถ่ายภาพนั้น ค่อนข้างที่จะโอเค สามารถจะใช้งานได้จนจบวัน แต่ถ้าเล่นเกมด้วยละก็ ต้องบอกตามตรงว่า ไม่น่าจะพอครับ แต่ด้วยใช้ Fast Charge มา 33W สามารถจะได้ 100% ที่ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
OVERVIEW & OPINION
สำหรับแก้วแล้ว Xiaomi 11 Lite 5G NE นั้นเป็น Smartphone ที่น่าใช้มากๆ เป็นอันดับต้นๆ จากทาง Xiaomi ในปีนี้เลย ถ้าเราไม่ได้มองแค่ตัวเลข Spec นะ แต่มาดูผลลัพท์ในการงานด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ตัวเครื่องที่บางเบา ได้ Design ที่หรูหราเหมือนรุ่นพี่ Mi11 แบตเตอรี่อาจจะไม่ได้อึดมาก แต่ถ้าคนตัดสินใจจะซื้อรุ่นนี้ก็คงไม่ใช่คนใช้งานหนักๆ อยู่แล้ว
หน้าจอที่สวยงามในการใช้งานได้ทุกรูปแบบ ดู Content Streaming เล่น Social Media ทั่วไป หรือจะเอามาแต่งรูปก็ให้ค่าสีที่ค่อนข้างจะสวยและแม่นยำเหมือนรุ่นพี่ รวมไปถึง ความสว่างของหน้าจอ ก็สู้แสงแดดแรงๆ ได้สบายครับ
ในเรื่องของกล้อง ขอปรบมือให้เลย เป็น Smartphone ระดับกลางที่ไฟล์กล้องดีมากๆ ดีทุกเลนส์เลย Ultra wide angle นี่ดีกว่า Mi11T Pro ซะอีก ในเรื่องของคุณภาพไฟล์ และการจัดการ Software แก้ chromatic aberration มาได้ดีไม่มีขอบม่วงเลย HDR ก็ทำงานได้ดีครับ
กับราคาตัวเริ่มต้นที่ 6GB+128GB ราคา 10,990 บาท เท่านั้นเอง เป็น Smartphone รุ่นกลางที่ครบเครื่องมากๆ อีกหนึ่งตัวจาก Xiaomi เลยครับ
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ] Fanpage : https://www.facebook.com/mobile.fotographer
IG : kaew.ravie
Comments