top of page
รูปภาพนักเขียนแอดมินแก้ว

realme 10 Pro Series อัพไซต์หน้าจอ เต็มตากว่าเดิม ตีบวกด้วยกล้อง HyperShot ProLight 108MP

สวัสดีครับทุกคน กลับมาเจอกับแก้ว และ Smartphone จากทาง realme กันอีกครั้งหนึ่งนะครับ ซึ่งคราวนี้ก็ถึงคิวของ realme 10 Pro Series กันแล้ว ความรู้สึกเหมือนเพิ่งจะผ่านความตื่นเต้น และความสนุกที่ได้ถ่ายภาพกับ realme 9 Pro Series เมื่อไม่นานมานี้เอง รุ่นใหม่ก็ออกแล้ว แถมยัง จัดเต็มกล้องหน้าจอ และกล้อง มาเอาใจแฟน ๆ realme อีกด้วย จะยอดเยี่ยมแค่ไหน ไปชมรีวิวกันครับ

SPECIFICATION

[ Display ]

- realme 10 Pro : LCD IPS 6.72 inches | 2400x1080 | Refresh rate 120Hz

- realme 10 Pro + : Super AMOLED 6.7 | 2412x1080 | Refresh rate 120Hz

[ Processor ]

- realme 10 Pro : Snapdragon 695 5G | RAM 8GB ROM 256GB

- realme 10 Pro + : MTK Dimensity 920 5G | RAM 12GB ROM 256GB

[ System & Software ]

- realme UI 4.0 | Android 13 เหมือนกันทั้ง 2 ตัว

[ Battery & Charging ]

- realme 10 Pro : 5,000 mAh | Fast Charging 33W

- realme 10 Pro + : 5,000 mAh | Dart 67W

[ Connectivity & Speakers ]

- realme 10 Pro : 5G Dual SIM Card | Dual Speakers

- realme 10 Pro + : 5G Dual SIM Card | Wi-Fi 6 / Bluetooth 5.2 / NFC | Dual Speakers

WHAT'S IN THE BOX
  • ตัวเครื่อง realme 10 Pro | 10 Pro +

  • Case กันกระแทกแบบนิ่ม

  • USB-C Cable

  • Adapter Charge 33W | 67W

  • Sim card ejector | Manual Document

ไม่มีหูฟังแบบสายแถมมาให้ในทั้งสองรุ่นย่อยนะครับ

DESIGN งานออกแบบ

เรามาเริ่มจากดูงานออกแบบตัวเครื่องของ realme 10 Pro Series กันก่อนเลยครับ ภาพรวมงานออกแบบของ 2 รุ่นย่อยนี้ แทบจะเหมือนกันทั้งหมดเลย ทั้งตำแหน่ง และ Shape ของ Module กล้อง ขนาดตัวเครื่องที่ 6.7 นิ้ว สิ่งที่มีความแตกต่างชัดเจนใน realme 10 Pro Series คือ ขอบตัวเครื่อง และหน้าจอ

ขอบตัวเครื่องของ realme 10 Pro ( เครื่องสีฟ้า ) จะเป็นขอบตัวเครื่องแบบ Flat ที่จะมีความหนาที่ 7.99 mm และน้ำหนัก 192g ในขณะที่ realme 10 Pro + ( เครื่องสีดำ ) นั้น จะเป็นขอบตัวเครื่องแบบโค้ง รับกับหน้าจอ มีความหนาอยู่ที่ 7.78 mm และน้ำหนักเพียง 173g เท่านั้น ซึ่งทั้งคู่มี Battery 5,000 mAh การทำความบางได้ในระดับนี้ ถือว่า ค่อนข้างยอดเยี่ยมแล้ว

สีตัวเครื่องของ realme 10 Pro นั้น จะมีให้เลือก ทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Nebula Blue , Hyperspace และ Dark matter ครับ

สีตัวเครื่องของ realme 10 Pro + นั้น จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 สี เช่นกัน ได้แก่ Dark Matter และ Hyperspace

DISPLAY : หน้าจอแสดงผล

เรามาต่อกันที่เรื่องของหน้าจอ ใน realme 10 Pro Series กันเลยครับ ในส่วนของหน้าจอนี้ ถือว่าเป็นจุดเด่นมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ในสมาร์ทโฟน 2 รุ่นนี้ เพราะว่าครั้งนี้ ได้รับการอัพเกรดมาใหม่ ทั้ง Design หน้าจอ และ Technology ซึ่งใน 2 รุ่นนี้ก็จะมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร realme 10 Pro จะได้ Panel LCD IPS ส่วน realme 10 Pro + จะได้ Super AMOLED ที่ความละเอียด FHD+ และ Refresh Rate 120Hz เท่ากันทั้งคู่

คุณภาพของหน้าจอ ในแง่ของการใช้งานทั่วไปนั้น ทั้ง 2 ตัวนี้สามารถตอบสนองเราได้เป็นอย่างดี ใครที่ชอบจอ Flat ก็สามารถเลือกใช้รุ่น Pro ส่วนใครที่อยากสุดเรื่อง Quality หน้าจอ และ อยากได้ฟีลลิ่งที่ดู หรูหรามากขึ้นอีกนิด หน้าจอแบบ Curved ของ realme 10 Pro + ก็น่าใช้ไม่น้อยเลยครับ

สำหรับใครที่เป็นสาย Entertainment ดู Streaming Content หรือ เล่นเกม แก้วค่อนข้างแนะนำว่า หน้าจอใน realme 10 Pro + นั้น ให้ Quality ในเรื่องของภาพ แสงสี ได้ดีกว่าพอสมควรเลย นอกจากนั้นในแง่ของความละเอียด Video ที่แสดงได้ realme 10 Pro นั้น แสดงสูงสุดได้ที่ Full HD เท่านั้น ไม่สามารถเลือก 4K ได้นะครับ ทั้งใน Youtube และ Netflix

CAMERA : กล้องถ่ายภาพ

จบเรื่องของตัวเครื่องกันไปแล้ว เรามาดูเรื่องกล้องถ่ายภาพกันต่อเลยครับ ชุดกล้อง ของ realme 10 series นั้น ใน 2 รุ่นย่อยจะมีจำนวนของกล้อง และรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่เหมือนกัน ดังนี้


ชุดกล้อง realme 10 Pro

  • - Main Camera ความละเอียด 108 MP | f/1.75

  • - Depth Camera ( Portrait ) 2MP | f/2.4

  • - Front Camera 16MP | f/2.45

ชุดกล้อง realme 10 Pro+

  • - Main Camera ความละเอียด 108 MP | f/1.75

  • - Depth Camera ( Portrait ) 2MP | f/2.4

  • - Macro Camera 2MP | f/2.4

  • - Front Camera 16MP | f/2.45

จากที่เราเห็น Spec ตัวกล้องกันไป ว่าใช้กล้อง 108MP เหมือนกัน แต่อย่าเพิ่งคิดว่า คุณภาพ ของภาพที่ได้นั้น จะเท่ากัน หรือเหมือนกันนะครับ 2 ตัวนี้มีอะไรที่ต่างกันเยอะพอสมควร ไปชมภาพกันครับ

MAIN CAMERA : กล้องหลัก 108MP | ISOCELL HM6

เรามาเริ่มดูจากกล้องหลักของ realme 10 Pro+ กันก่อนเลย การที่ realme เลือกหยิบ Sensor ISOCELL HM6 จากทาง Samsung มาใช้นั้น ค่อนข้างจะเป็น Move ที่แก้วแปลกใจ Character ของภาพที่เราจะได้จากกล้องตัวนี้คือ ความละเอียดสูง Dynamic Range กว้าง และ Linear Contrast ก็คือ ส่วน Shadow จะมีการไล่ระดับไม่ เงาจะไม่เข้มมาก

โทนสีของภาพที่เราจะได้จากกล้องตัวนี้ จะมีความติดอมสีเหลืองนิด ๆ คล้าย ๆ กับ IMX766 โดยเราจะสังเกตได้จากส่วนของท้องฟ้า ที่สีฟ้ามันจะไม่ได้ฟ้าเข้ม ๆ ฟ้าชัด ๆ แต่จะมีความนวล ๆ อมเหลืองอยู่พอสมควรเลยครับ

ไหน ๆ อัพ Sensor มาใหม่ทั้งที ขอมาลองถ่ายภาพใน Mode Hi-Res ดูสักหน่อยครับ ที่ความละเอียด 108MP เวลากดถ่ายภาพนั้น อาจจะมีการรอประมวลผลภาพสักครู่หนึ่ง ไม่สามารถจะกดถ่ายต่อเนื่องรัว ๆ ได้ใน Mode นี้นะครับ กำลัง CPU ไม่ถึง ในแง่ของรายละเอียด และความคมของภาพ ทำได้เหนือกว่า realme 9 Pro + ที่ใช้ IMX766 อยู่พอสมควร อาจจะมีแค่เรื่อง ของ Dynamic Range นี่แหละ ที่ยังรู้สึกว่า IMX766 ทำได้ดีกว่า HM6

ทีนี้เรามาดูภาพจากกล้องใน realme 10 Pro 5G รุ่นธรรมดากันบ้างครับ ว่า เป็น 108MP เหมือนกัน แต่ถ่ายออกมาแล้วเหมือนกันไหม ? หลังจากที่ลองถ่ายมาเยอะพอสมควร ก็พบว่า มีทั้งส่วนที่เหมือน และส่วนที่ไม่เหมือนครับ

ส่วนที่กล้องหลักใน 2 รุ่นย่อยนี้เหมือนกัน ก็คือเรื่องของ Hardware ตัวกล้อง ที่เป็น HM6 เหมือนกัน ทำให้ความละเอียดภาพที่ได้ ความคมที่ได้นั้น ค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่ว่า Character ของภาพที่ได้ โทนสีที่ได้ ค่อนข้างจะต่างกันอยู่พอสมควร โดยใน realme 10 Pro โทนสีจะติดอมแดงมากกว่า realme 10 Pro+ อยู่พอสมควรครับ และ Software HDR นั้น อาจจะยังทำงานได้ไม่ดีเท่า

Quality ของการถ่ายภาพ ใน Mode Hi-res นั้นก็ทำออกมาได้ค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่ว่าใน realme 10 Pro นั้น ถ้าเราสังเกตดี ๆ เราจะเห็นว่า มี Noise มากกว่าอยู่เล็กน้อย และ Dynamic Range นั้น เราต้องวัดแสงเองดี ๆ แก้วลองปล่อยให้กล้องวัดแสงให้ ผลปรากฏว่า Detail ในส่วน Highlight นั้น จมไปพอสมควร มาจากการที่กล้องวัดแสงติด Over นั้นเองครับ

MAIN CAMERA 108MP | Crop Zoom 3x ที่โหดเอาเรื่อง

โดยปกติแล้วใน Smartphone ที่มีขนาด Sensor 50MP หรือ 64MP ตัว Software กล้องจะมีระยะการ Crop Zoom 2x แบบ Lossless ที่ประมาณ 2x แต่พอ realme 10 Pro Series เปลี่ยนมาใช้ Sensor HM6 108MP ทำให้ การ Zoom แบบ Lossless นั้น อัพขึ้นไปเป็น 3x ในทั้งสองรุ่นย่อยเลย

Quality ของไฟล์หลังจากการ Crop Zoom 3x นั้น ยังนำไปใช้งานต่อ และไว้ใจได้ ในทั้ง 2 รุ่นย่อย Software ช่วยเหลือ ในการใช้ถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็น HDR หรือ AI Scene ก็ยังทำงานเหมือนเดิม

โดยปกติแล้ว ในการใช้งานระยะนี้ แก้วมักจะไปใช้ใน Street Mode เพราะเราสามารถจะคุมทั้ง Filter สีสันต่าง ๆ และ คุมระยะโฟกัสได้ง่ายดั่งใจ ไม่ต้องพึ่ง Auto Focus ไปซะตลอดเวลา ผลลัพท์ที่ได้นั้น ก็ค่อนข้างจะน่าพอใจมาก ๆ เลยล่ะครับ

เป็นระยะที่เกิดมาเพื่อถ่าย Street Photography จริง ๆ ไม่มีกล้อง Medium Telephoto ก็เหมือนมี

PORTRAIT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพบุคคล

เรามาต่อกันที่เรื่องของการถ่ายภาพ Portrait กันบ้างนะครับ โดยที่แก้วขอเริ่มที่ realme 10 Pro + ก่อนเลย ด้วยความที่ Character พื้นฐานของภาพ ไฟล์มันค่อนข้างจะใส โทนสีอมเหลืองนิด ๆ เหมาะกับภาพ Portrait มันเลยทำให้ การถ่ายภาพ Portrait ใน realme 10 Pro + นั้น ให้ผลลัพท์ที่ดีมาก ๆ ทั้งความคม และ Dynamic Range ของภาพ คือ ลงตัว

ทีนี้ เรามาดูภาพ Portrait จาก realme 10 Pro ตัวธรรมดากันบ้างครับ จุดที่แตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน แบบสังเกตได้ง่ายที่สุด คือ โทนสีครับ ด้วยความที่ realme 10 Pro นั้น จะติดอมม่วงนิด ๆ ทำให้ Skintone ของตัวแบบ จะไปคนละทางกับ realme 10 Pro + เลย

ยิ่งเวลาเราเอามาวางคู่กัน เราจะสังเกตุได้ถึงโทนสีในภาพได้ค่อนข้างจะชัดเจนมาก ๆ ใครชอบความใส ๆ ผิวเนียน ๆ ก็ไปทาง realme 10 Pro + แต่ถ้าใครชอบสกินโทนสีสด อมแดงหน่อย ๆ ก็มาทาง realme 10 Pro แต่มีจุดหนึ่งนะครับ ที่รุ่นน้อง ทำได้ดีกว่ารุ่นพี่ ก็คือ เรื่องของการตัดขอบ นั่นเองครับ

ถึงแม้ว่าฉากหลังจะค่อนข้างรก แต่ด้วย Depth Camera หรือ Portrait Len ที่ใส่มาให้ใน realme 10 Pro นั้น สามารถ Perform มาช่วยให้การตัดขอบทำได้ค่อนข้างคม ไม่ได้มีเส้นผม หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย หลุดให้เราเห็นได้เลย

แต่ก็ไม่ใช่ว่า การถ่ายภาพ Portrait ใน realme 10 Pro + ที่ไม่มีกล้อง Depth Camera จะตัดขอบได้แย่นะครับ แค่ในบาง Lighting Situation เช่น การถ่ายภาพย้อนแสง โดยที่เราปิด HDR ปล่อยฉากหลังขาว ๆ มันก็อาจจะมีบางจุดที่มีอาการตัดขอบหลุดให้เราเห็นได้บ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ

แก้วมีข้อสังเกตให้ทุกคนนิดหนึ่ง ก็คือ ในช่วงกลางวันเวลาเราใช้ realme 10 Pro ในการถ่ายภาพย้อนแสง Software HDR นั้น ไม่สามารถดึง Detail ในส่วนของ Highlight กลับมาได้มากนัก ต้องรอให้แดดเบาลงหน่อย เช่น ช่วงเย็น Software ก็จะสามารถดึงรายละเอียด ส่วน Highlight กลับมาได้ครับ

สำหรับ Low Light Portrait Photography ในมุมมองของแก้ว แก้วยกให้ realme 10 Pro+ ทำได้ดีกว่า realme 10 Pro ตัวธรรมดา เรื่องหนึ่งที่ต่างกันมากก็คือ White Balance และความสามารถในการรักษา Skintone จริง ๆ เอาไว้ แม้จะเจอ Ambience Light โดยรอบเข้ามากวนเยอะ

เพราะว่าถ้าเป็นใน realme 10 Pro นั้น เราจะเห็นความพยายามในการแก้ White Balance ของกล้อง แต่มันก็ยังให้ผลลัพท์ที่ ยังไม่น่าพอใจเท่าไหร่ คือจริง ๆ ในภาพนี้ ไฟบริเวณนั้น จะเป็นสีอมเหลือง กล้องพยายามปรับ White Balance ไปในทางโทนเย็น แต่ว่า Tint นั้น ยังติดม่วงเหมือนเดิม

ULTRA WIDE ANGLE CAMERA : กล้องมุมกว้างพิเศษ 8MP

สำหรับกล้อง Ultra wide angle นั้น จะมีเพียงแค่ใน realme 10 Pro + เท่านั้นนะครับ มาในความละเอียด 8MP แบบ Fix focus คุณภาพของไฟล์ภาพที่ได้นั้น ถือว่า ค่อนข้างโอเคในระดับราคาของมัน ตามขอบภาพ อาจจะมีฟุ้ง ๆ บาง ประมาณ 5% รอบภาพ

โทนสีที่ได้จากกล้องตัวนี้ ก็ค่อนข้างจะมีความใกล้เคียงกับกล้องหลัก ใน realme 10 Pro + โดยที่มี Software HDR ทำงานควบคู่กันไปด้วย ทำให้เรื่องของการถ่ายภาพย้อนแสงนั้น ทำได้แบบไม่มีปัญหาเลย แต่เวลา HDR เติมแสงในส่วน Shadow ขึ้นมาก็ระวัง Noise ไว้สักนิดหนึ่งนะครับ

เอามาถ่ายภาพ Portrait ก็พอใช้ได้ เพราะว่าในกล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้ เราสามารถที่จะเปิด Beauty Mode ควบคู่กันไปได้ด้วยนะครับ

ในบางครั้งเวลาที่เราถ่ายภาพย้อนแสงด้วยกล้อง Ultra Wide Angle นั้น อาจจะมี Flare โผล่มาบริเวณขอบภาพ ซึ่งน่าจะมาจาก การ Coating หน้าเลนส์ที่ตัดแสงไม่หมด มองว่าเป็น Character เป็นเสน่ห์ละกัน เพราะถ้าเราจัดวางดี ๆ Flare พวกนี้ ก็ทำให้ภาพสวยขึ้นได้เหมือนกันครับ

LOW LIGHT PHOTOGRAPHY การถ่ายภาพในที่แสงน้อย

มาดู Night Mode ในกล้องหลักของ realme 10 Pro + กันก่อนเลยครับ เราจะเห็นว่าตัว Software กล้อง มีการเพิ่ม Clarity เข้ามาเพื่อให้ภาพดูคมขึ้น แต่ยังอยู่ในปริมาณที่รับได้ ลักษณะของ Night Mode คือ ไม่ได้พยายามจะ Boost ในทุกส่วนของภาพขึ้นมา แต่เติมแสงเฉพาะในจุดที่มีความสว่างอยู่แล้ว

มาต่อกันที่ Night Mode ในกล้อง Ultra Wide Angle ของ realme 10 Pro + กันบ้างครับ ตัว Night Mode มีการเพิ่ม Clarity และ Boost แสงสี ในส่วนต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะพอสมควร และ Software Noise Reduction ก็พยายามลบ Noise ออกไปมากเกินไปหน่อย

มาต่อกันที่ Night Mode ใน realme 10 Pro รุ่นธรรมดากันบ้างครับ ต้องบอกว่า แก้วมองไม่เห็นความแตกต่างกับรุ่นพี่ของเขา อย่างในนัยยะสำคัญ ในการถ่ายภาพแบบ Low Light Photography ถือว่า ทำได้ดีทั้งคู่ ทั้งการ Balance แสง Highlight จากไฟ และการเติมแสงส่วน Shadow

พวก Filter สีใน Night Mode ก็มีมาให้ทั้ง 2 รุ่นย่อย เอาไว้เพิ่มลูกเล่นให้ภาพถ่ายกลางคืนได้ดี

FRONT CAMERA : กล้องหน้า 16MP

ทีนี้เราพลิกมาลองกล้องหน้า ความละเอียด 16MP ที่เราคุ้นเคยกันบ้างครับ realme ใช้กล้องหน้าตัวนี้มายาวนานเหลือเกิน ซึ่งใน 2 รุ่นย่อยของ realme 10 Pro Series นั้น ก็จะใช้กล้องหน้าตัวนี้ทั้งคู่นะครับ แต่บอกเลยว่า Hardware เดียวกัน ผลลัพท์ต่างกันนะครับ ความคมของภาพ และรายละเอียด realme 10 Pro + จะทำได้ดีกว่าอยู่เล็กน้อย และโทนสีคล้าย ๆ กับ โหมด Portrait ในกล้องหลัง

สำหรับกล้องหน้าใน realme 10 Pro ตัวธรรมดานั้น โทนสีจะออกสดใสมาก ๆ การตัดขอบ Blur ฉากหลัง ทำได้ค่อนข้างใกล้เคียงกัน รายละเอียดอาจจะด้อยกว่า ในรุ่นพี่ Pro+ อยู่เล็กน้อย ชนิดที่ถ้าไม่ซูมดู แยกแทบไม่ออกเลยล่ะครับ

MACRO PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพมาโคร

การถ่ายภาพ Macro ใน realme 10 Pro Series นั้น จะมีแค่ realme 10 Pro+ เท่านั้น ที่จะได้ กล้อง Macro 2MP มา ซึ่งก็ตามที่แก้วพูดไปเสมอนะครับว่า ไปใช้กล้องหลัก แล้ว Crop Zoom เอา ได้ Quality ที่ดีกว่ามาก ๆ

ยิ่งใน realme 10 Pro Series นั้น ได้กล้องหลักที่มีความละเอียด 108MP ที่มาพร้อมความสามารถในการ Crop Zoom 3x ซึ่งใกล้กว่า 2x ขึ้นไปอีก ทำให้การถ่ายภาพ Macro นั้น ทำได้ง่ายกว่าเดิม และมีคุณภาพที่ดีกว่าใน realme 9 Pro Series

โดยที่ระยะโฟกัสใกล้สุดของกล้องหลักจะอยู่ที่ประมาณ 10 ซม. นั่นก็เพียงพอมาก ๆ แล้ว กับการ การถ่ายภาพ Macro ในระยะ Crop Zoom 3x

VIDEOGRAPHY : การถ่ายวีดีโอ

ในการถ่ายวีดีโอ นี่จะเป็นจุดที่ 2 รุ่นย่อยใน realme 10 Pro Series นี้ จะแสดงความแตกต่างออกมาชัดเจนครับ เพราะใน realme 10 Pro ตัวธรรมดานั้น กล้องหลังถ่ายวีดีโอ ความละเอียดสูงสุดได้เพียง 1080p เท่านั้น ซึ่ง ใน Generation ที่แล้ว อย่าง realme 9 Pro ยังถ่าย 4K ได้อยู่เลย สำหรับใครที่ต้องการใช้งานวีดีโอ จำเป็นจะต้องเลือก realme 10 Pro + เป็นไฟต์บังคับเลย เพื่อที่จะได้ 4K 30fps และฟังค์ชั่นในการถ่าย Video ส่วนอื่น ๆ แต่ก็มีข้อพิจารณานะครับ เวลาเราถ่ายที่ 4K 30fps กันสั่นไม่ทำงาน ทำให้ภาพที่ได้ จะสั่นไหวกว่า 1080 60fps ค่อนข้างชัดเจน ส่วนในกล้องหน้านั้น จะสามารถถ่าย วีดีโอได้สูงสุดที่ 1080 30fps ทั้งคู่เลยครับ แต่ฟีเจอร์พวก เปิด Beauty Mode และ ละลายฉากหลัง realme 10 Pro+ จะให้ความละเอียดได้สูงสุดที่ 1080 30fps ครับ

PERFORMANCE | ประสิทธิภาพ

สำหรับ realme 10 Series จะใช้ CPU ที่แตกต่างกัน ทำให้ Performance บางส่วนอาจจะต่างกันบ้าง โดยที่ realme 10 Pro นั้นจะใช้ Snapdragon 695 5G และตัว realme 9 Pro+ จะใช้ Mediatek Dimensity 1080 5G จะมีการเพิ่ม Virtual RAM ได้สูงสุด 8GB ทั้งคู่ ซึ่งกับการใช้งานทั่วไปนั้น ผ่านทั้งคู่ เล่น Social Media ดู Entertainment ได้สบาย

สำหรับการเล่นเกมนั้น แก้วลอง Test กับ Game TRAHA ที่เป็น Action RPG สิ่งหนึ่งที่ทำเอา Surprise ก็คือ realme 10 Pro 5G ที่ใช้ CPU Snapdragon 695 5G นั้น สามารถจะเล่นเกมนี้ได้ที่ 60fps ใน Setting Graphic แบบ Low ซึ่งแก้วเคยลองเกมนี้ กับ Smartphone รุ่นอื่นที่ใช้ CPU ตัวเดียวกัน พบว่า Frame Rate นั้นทำได้ไม่ดีเท่านี้

แต่ถ้าเราต้องการจะเล่นเกม จริง ๆ จัง ๆ แก้วแนะนำให้ไป realme 10 Pro+ 5G ไปเลยครับ สามารถจะเล่น TRAHA ได้ที่ 60fps ใน Setting แบบ High เลย อาจจะมี Frame Rate ดรอปลงมาบ้างเวลาเครื่องร้อน ถ้าอยากให้นิ่ง ๆ เลย ปรับ Graphic สัก Medium ครับ

สำหรับในเรื่องของ Battery นั้น realme 10 Pro Series นั้น การจัดการพลังงานนั้น ทำได้ดีพอ ๆ กัน เพราะด้วยปริมาณ Battery ที่ให้มาทั้งหมด 5,000 mAh เท่ากันทั้งคู่ แต่ CPU แตกต่างกัน ทั้งระดับความแรง และ ความสดใหม่ของ เทคโนโลยี ทำให้เมื่อลองใช้งานหนัก ๆ จริง ๆ แล้วจะพบว่า realme 10 Pro+ 5G จัดการพลังงานได้ดีกว่าอยู่เล็กน้อยครับ

OVERVIEW & OPINION

สำหรับ realme 10 Pro Series ในมุมมองของแก้วแล้ว 2 รุ่นย่อยนี้ มีความแตกต่างกันอยู่ ในหลาย ๆ เรื่อง อย่างมีนัยยะสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น Design ภายนอก ที่แยกมาเลยสำหรับคนที่ชอบ จอ Flat และคนที่ต้องการความหรูหรามากขึ้น ไปอีกด้วย จอโค้ง

Performance ตัวเครื่อง ที่ห่างชั้นกันพอสมควร เวลาเราใช้งานทั่วไปนั้น เราอาจจะไม่สามารถจับความต่างได้ชัดเจนมากนัก แต่เมื่อเริ่มใช้งานหนักขึ้น เช่น ถ่ายภาพใน Mode Hi-Res หรือ เล่นเกม Graphic สูง ๆ ความต่างระหว่าง Snapdragon 695 5G และ Mediatek Dimensity 920 5G จะเริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อย ๆ

ในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ เราอาจจะเห็นว่า ความละเอียดของ Sensor ในกล้องตัวนี้อยู่ที่ 108MP เท่ากัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว Quality ของภาพที่ได้ และ Character ของภาพที่ได้นั้น แตกต่างกันอยู่พอสมควร สืบเนื่องมาจาก ตัวหน่วยประมวลผลในชุด Chipset ที่ ห่างชั้นกันพอสมควร ทำให้ใครที่จะเน้นทั้งการถ่ายภาพ และ วีดีโอ ไฟต์บังคับว่า realme 10 Pro+ 5G คือ ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด


แต่ถ้าหากเราเป็นคนใช้งานทั่วไป เน้น Entertainment ถ่ายรูปนิดหน่อย ไม่ได้ Serious กับ Quality ของไฟล์ภาพมานัก realme 10 Pro 5G ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะครับ กับราคาเปิดตัวที่

  • realme 10 Pro 5G (8+256GB) ราคา : 11,999 บาท

  • realme 10 Pro+ 5G (12+256GB) ราคา : 15,999 บาท

realme 10 Pro + 5G พรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 8-16 ธันวาคม รับส่วนลดสูงสุด 1,500 บาท

จัดจำหน่ายวันแรกวันที่ 17 ธันวาคมนี้ ใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้ทาง : realme brand shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พิเศษ ‼️ Exclusive เฉพาะทาง Shopee ที่เดียวเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 12-25 ธันวาคม


realme 10 Pro 5G พรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 8-16 ธันวาคม รับส่วนลดสูงสุด 1,000 บาท

จัดจำหน่ายวันแรกวันที่ 17 ธันวาคมนี้ ใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้ทาง : realme brand shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ : Shopee, Lazada และ JC Central

 

[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]

IG : kaew.ravie

0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page