สวัสดีครับทุกคนกับมาเจอกับแก้ว และ Smartphone จากทาง realme กันอีกครั้งนะครับ โดยวันนี้ เรายังคงอยู่กับ realme 11 Series เหมือนเดิม แต่ว่าทาง realme ได้ออกรุ่นย่อยมาเพิ่ม สายประหยัด เอาใจสาย Budget นั่นก็คือ realme 11x 5G และ realme 11 5G นั่นเอง ไปชมรีวิวกันครับ
SPECIFICATION
[ Display ]
- realme 11x 5G : LCD IPS 6.72 inches | 2400x1080 | Refresh rate 120Hz
- realme 11 5G : Super AMOLED 6.7 | 2412x1080 | Refresh rate 120Hz
[ Processor ]
- realme 11x 5G : Mediatek Dimensity 6100+ | RAM 8GB ROM 128GB
- realme 11 5G : Mediatek Dimensity 6100+ | RAM 8GB ROM 256GB
[ System & Software ]
- realme UI 4.0 | Android 13 เหมือนกันทั้ง 2 ตัว
[ Battery & Charging ]
- realme 11x 5G : 5,000 mAh | Fast Charging 33W
- realme 11 5G : 5,000 mAh | Fast Charging 67W
[ Connectivity & Speakers ]
- realme 11x 5G & realme 11 5G : 5G Dual SIM Card | Mono speaker
Wi-Fi 6 / Bluetooth 5.2 / microSD Card | Dual Speakers
WHAT'S IN THE BOX
ตัวเครื่อง realme 11x 5G | realme 11 5G
Case กันกระแทกแบบนิ่ม
USB-C Cable
Adapter Charge 33W | 67W
Sim card ejector | Manual Document
ไม่มีหูฟังแบบสายแถมมาให้ในทั้งสองรุ่นย่อยนะครับ
DESIGN งานออกแบบ
เรามาเริ่มกันที่งานออกแบบตัวเครื่องกันก่อนเลยนะครับ วันแรกที่แก้วแกะตัวกล่องออกมา หยิบตัวเครื่อง 2 เครื่อง ขึ้นมาอยู่ในมือครั้งแรก ก็ถามตัวเองว่า นี่คือ สมาร์ทโฟนราคาไม่ข้ามนึ่งหมื่นบาท จริง ๆ หรอ ? เพราะ Design ตัวเครื่องมีความ Unique พอสมควรเลย โดยทาง realme เรียกว่า Glory Halo Design
ขอบตัวเครื่องของ realme 11x 5G และ realme 11 5G นั้น จะทำออกมาเป็นแบบ Flat หรือแบบแบน ซึ่งความหนาจะอยู่ที่ 8.05mm เท่านั้น โดยวิธีการทำสีของเครื่อง จะแตกต่างกันไปตามแต่ละสีนะครับ
สีตัวเครื่องที่แก้วได้มานั้น จะได้มา 2 สีด้วยกันครับ โดย realme 11x 5G แก้วจะได้สีดำ Midnight Black และ realme 11 5G แก้วจะได้สี Glory Gold ซึ่งแน่นอนว่า สีที่เป็น Highlight ในรุ่นนี้ก็คือ สี Glory Gold นั่นเอง
ตัวสี Glory Gold นั้น จะมี Effect ที่ตัวสีฝาหลังที่ค่อนข้างหลากหลาย และซับซ้อนทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสี Base ที่เป็นสีทอง ไล่ Gradient อมส้มนิด ๆ ชั้นถัดมาก็จะเป็น Glitter วิบวับสะท้อนแสงรอบตัวเครื่อง และปิดท้าย Effect แสงสะท้อนสีฟ้าเป็นรูปตัว S ที่ดูดีทีเดียว
ส่วน Module กล้องที่เป็นทรงกลมเหมือนกับรุ่น realme 11 Pro Series ก็จริง แต่ว่าจะขนาดที่เล็กกว่า จุดที่แก้วชอบก็คือ ขอบด้านนอกจะมี Chapter Ring ที่ไล่ Pattern เล่นแสงเหมือนกับขอบ Bezel ของนาฬิกาสวย ๆ เลยครับ
บริเวณด้านล่างของตัวเครื่องก็จะเป็นที่อยู่ของ Port USB-C 2.0 มีช่องไมโครโฟน ช่องลำโพง ถาดใส่ซิมแบบ Dual Sim ที่เราสามารถจะเลือกใส่ เป็น MicroSD Card ก็ได้นะครับ สูงสุดที่ความจุ 2TB และปิดท้ายด้วยลำโพงเดี่ยวนะครับ
DISPLAY : หน้าจอแสดงผล
ทีนี้เรามาต่อกันที่เรื่องของหน้าจอกันต่อเลยนะครับ และแก้วบอกเลยว่า นี่คืออีกหนึ่งจุดเด่นที่สุดใน Smartphone 2 รุ่นย่อยนี้ เพราะว่าถ้าเราเทียบกับช่วงราคาเดียวกันในปีที่แล้ว อย่าง realme 9i จะได้จอ LCD IPS 90Hz ที่ตัวค่า ppi ของหน้าจอก็ไม่ได้ละเอียดอะไรมากมายนัก
แต่ใน 2 รุ่นย่อยนี้ ได้รับการ Upgrade ขึ้นมาเป็น Panel LCD IPS ที่คุณภาพการแสดงผลดีขึ้น มี Resolution อยู่ที่ที่ Full HD+ มีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 120Hz ที่สามารถ Adaptive ตาม Content ได้หลายระดับ โดยต่ำสุดจะอยู่ที่ 45Hz และค่า PPI สูงขึ้นเป็น 391 ซึ่งถือว่าดีใช้ได้เลยนะ สำหรับช่วงราคาประมาณนี้
ตัวหน้าจอจะเป็นหน้าจอแบบ Flat ที่เป็นแบบ Punch hole design หรือว่าเป็นกล้องเจาะรูแล้ว ทำให้ดู หรูหรามากขึ้น และไม่มีติ่งมาเกะกะสายตา ซึ่ง Smartphone ในระดับราคานี้หลาย ๆ ตัว ยังใช้จอที่เป็นแบบติ่งอยู่เลยนะครับ
สำหรับประสบการณ์ในการใช้งานหน้าจอ ของ realme 11x 5G และ realme 11 5G นั้น ในแง่ของการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน การ Touch ติดนิ้วดีเป็นอันดับต้น ๆ ใน Smartphone ระดับราคานี้เลย เวลาเรา Scroll หน้า Feed ของ Social Media ต่าง ๆ นั้น ก็ลื่น 120Hz ไม่รู้สึกติดขัดใดใดเลย
ในส่วนของการแสดงผล เวลาที่เราใช้งานด้าน Entertainment ประเภทการรับชม Content Streaming ก็ใช้งานได้ดีครับ ให้รายละเอียดของภาพได้คมชัด และสามารถเปิด Resolution Video บน Youtube สูงสุดได้อยู่ที่ 1440p และมี ฟีเจอร์เร่งภาพให้สีสด ด้วย Video color boost
แต่ก็ต้องบอกว่ามันก็ยังคงมี Limit ของความเป็น Panel หน้าจอ แบบ LCD IPS อยู่ ก็คือตัวสีดำ มันดำไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ แต่ยังดีที่เวลาเราดู Content บน Application Streaming ต่าง ๆ เช่น Netflix จะได้ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD หรือ Security Level เป็น L1 นั่นเองครับ
ความสว่างหน้าจอสูงสุด หรือ Peak Brightness แบบ HBM จะอยู่ที่ 680nits ซึ่งสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่เป็น Indoor หรือ ที่ร่มนั้น มันเพียงพออยู่แล้วครับ แต่สำหรับการใช้งานนอกบ้าน หรือ Outdoor ในช่วงที่แดดแรง ๆ นั้น ต้องบอกว่า เรายังมองเห็นได้ว่า บนหน้าจอแสดงผลอะไรอยู่ แต่ Detail จุดเล็ก ๆ ก็เริ่มมองยากแล้วครับ
CAMERA : กล้องถ่ายภาพ
จบเรื่องรายละเอียดของตัวเครื่องกันไปแล้ว เรามาดูในส่วนของกล้องถ่ายภาพกันบ้างดีกว่านะครับ กล้องถ่ายภาพด้านหลัง ของ realme 11x 5G และ realme 11 5G นั้น จะมีจำนวนกล้องเท่านั้นที่ 2 ตัวนะครับ แต่ Sensor จะต่างกันนะครับ
ชุดกล้อง realme 11x 5G
- Main Camera ความละเอียด 64MP | f/1.79 | Lossless Zoom 2x ตัว Sensor ของกล้อง จะเป็น Omnivision OV64B
- Depth Camera ( Portrait ) 2MP | f/2.4
- Front Camera 8MP | f/2.05
ชุดกล้อง realme 11 5G
- Main Camera ความละเอียด 108 MP | f/1.75 | Lossless Zoom 3x ตัว Sensor ของกล้อง จะเป็น ISOCELL HM6s
- Depth Camera ( Portrait ) 2MP | f/2.4
- Front Camera 16MP | f/2.45
ซึ่งในจุดนี้ถ้าเรามองกันเผิน ๆ เราจะรู้ได้เลยว่า 2 ตัวนี้นั้น แตกต่างกันเพียงแค่ในเรื่องของ ระยะการ In-Sensor Zoom แบบ Lossless แต่จริง ๆ แล้วในส่วนของ Software ก็แตกต่างกันอยู่พอสมควรนะครับ ไปดูภาพตัวอย่างกันเลยครับ
realme 11x 5G : กล้องหลัก 64MP | OV64B
งั้นเรามาเริ่มดูภาพจาก realme 11x 5G ที่ใช้ Sensor OV64B จากทาง Omnivision กันก่อนเลยนะครับ ลักษณะของภาพที่เราจะได้จากกล้องตัวนี้นั้น จะมีการ Process ออกมาโดยเน้นให้ถ่ายง่าย ได้ภาพที่ค่อนข้างสำเร็จรูปนำไปลง Social Media ได้เลยทันที
โดยตัวกล้องจะมีการเติม Sharpness เข้ามาในภาพ ให้ภาพดูคมขึ้น แต่ไม่ได้เติมเยอะมาก และถ้าเราเปิด Auto HDR เอาไว้ Dynamic Range ของภาพที่ได้ ก็ถือว่า ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจมากทีเดียว คือ Software จะมีการขุด Detail ในแต่ละย่านความสว่างของภาพ ในระดับที่กำลังดี
โทนสีของภาพก็ออกมาในแนวที่เน้นความสดใส ถ่ายอะไรก็จะได้สีสันที่ดูค่อนข้างฉูดฉาดมาก โดยเฉพาะสีท้องฟ้า และสีต้นไม้ ซึ่งเป็นแนวที่แก้วเชื่อว่าน่าจะถูกใจคนส่วนใหญ่แน่นอน แต่ถ้าใครรู้สึกว่าสีมันสดเกินไป หรือไม่ชอบโทนแบบนี้ แก้วแนะนำให้ลองใช้ Filter ที่มีชื่อว่า Natural จะทำให้ภาพดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นครับ
แต่สิ่งที่แก้วแอบ Surprise ในรุ่นนี้ ก็คือ สมมุติว่า เรามีการถ่ายภาพเน้นเจาะรายละเอียด เช่น การใช้ In-Sensor Zoom เพื่อถ่าย Macro แก้วพบว่า Detail ในส่วนของพื้นผิว หรือว่า Texture นั้น realme 11x 5G ทำออกมาได้ดีกว่า realme 11 5G ที่ใช้ Sensor 108MP เฉยเลย ไม่ธรรมดาจริง ๆ
realme 11 5G : MAIN CAMERA 108MP | ISOCELL HM6
ทีนี้เรามาดูกล้องหลักของ realme 11 5G ที่ใช้ Sensor ISOCELL HM6 ตัวนี้กันบ้างนะครับ จากประสบการณ์ส่วนตัวของแก้วนะ realme เป็นแบรนด์ที่หยิบ Sensor จากทาง Samsung มาทำการจูนได้น่าประทับใจเป็นอับดับต้น ๆ ของ Smartphone ในระดับ Entry level ไปจนถึง Mid-range เลย
คุณภาพของตัวไฟล์ภาพ ในแต่ละสภาพแสง ไปจนถึง Dynamic Range และ Software ในการ Post Process ตัวไฟล์ภาพ ทั้ง Auto HDR และ Filter สีสันต่าง ๆ ทำออกมาได้ดี อยู่ในระดับเดียวกับ realme 10 Pro+ 5G เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว
ตัวสีสันของภาพ แน่นอนว่ายังคงเน้นออกมาในแนวทางที่เป็น " สำเร็จรูป " เน้นถ่ายง่าย กดแล้วจบ ไม่ต้องเอามาแต่งต่ออะไรมากมายนัก มี AI Scene Recognition ช่วยประมวลผลภาพ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีทีเดียว
ZOOM PERFORMANCE | ความสามารถในการ ZOOM
แน่นอนว่า realme 11x 5G และ realme 11 5G เป็น Smartphone จากทาง realme ในปี 2023 แบบนี้ ก็จะได้รับการอัพเกรด ในเรื่องของการ Crop zoom หรือ ที่ทาง realme เรียกว่า In-sensor zoom มาใหม่ ให้สามารถ Zoom ได้ใกล้ขึ้น โดยที่สูญเสียรายละเอียดน้อยที่สุด
โดยใน realme 11x 5G ที่ใช้ Sensor OV64B ความละเอียด 64MP นั้น จะสามารถ Zoom แบบ Lossless ได้สูงสุดอยู่ที่ 2x ซึ่งหลังจากที่แก้วได้ลองถ่ายมา ในหลาย ๆ สถานการณ์ ถือว่าเนื้อไฟล์ที่ได้ในระยะนี้ ใช้งานได้จริง
Texture ไม่เละ ไม่ได้มีการอัด Sharpness หรือ Clarity เข้าไปเพิ่ม ให้ภาพดูคมขึ้น แต่เนื้อไฟล์ช้ำ ไม่มีอะไรแบบนั้นเลยครับ เรียกได้ว่า สามารถใช้งาน ระยะ 2x นี้ โดยที่คุณภาพเหมือนกับการถ่ายเต็ม Sensor 1x ได้แบบสบายใจ
สามารถเอาไปถ่ายเจาะสิ่งต่าง ๆ แทนกล้อง Macro ได้ดีมาก ๆ ได้ Depth of field ที่สวย และรายละเอียดของส่วนพื้นผิวนั้นก็คมชัด อย่างเวลาแก้วเอาไปถ่ายนาฬิกา หรือเครื่องประดับ พวกตัวอักษรบนหน้าปัด รายละเอียดบนเข็ม เก็บมาได้ดีมาก
มาทางฝั่ง realme 11 5G ที่ใช้ Sensor ISOCELL HM6 กันบ้างนะครับ โดยเราสามารถจะ Lossless Zoom ได้ไกลสุดอยู่ที่ระยะ 3x ซึ่งสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพ Landscape , Cityscape ไปจนถึง Street น่าจะชอบระยะนี้มาก ๆ
เพราะเราสามารถจะเก็บบรรยากาศ หรือเรื่องราวของผู้คนที่อยู่ในระยะไกล ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยที่ไม่ต้องเข้าไปใกล้ เสมือนมีกล้อง Telephoto ระยะ 3x จริง ๆ เลย
แต่แก้วก็มีข้อสังเกตให้เรื่องหนึ่งนะครับ คือ เวลาที่เราถ่ายภาพด้วยระยะ In sensor zoom 3x จะมีการ Post Process ไฟล์ภาพเพิ่มในเรื่องของ Sharpness และ Clarity เยอะเป็นพิเศษ ซึ่งกับการถ่ายภาพระยะไกล ๆ เราแทบจะไม่เห็นความต่างมากนัก หลาย ๆ คนอาจจะชอบด้วยซ้ำ
แต่เมื่อ เราจะนำระยะนี้มาใช้ในการถ่ายภาพ Macro พวกดอกไม้ พวกเครื่องประทับ สิ่งที่แก้วเจอก็คือ มัน Over sharpness เกินไปหน่อย และ มีการทำ Noise Reduction หรือการลดจุดรบกวนที่มากเกินไป ทำให้รายละเอียดในส่วนพื้นผิวจะหายไปเยอะพอสมควร ซึ่งแก้วแนะนำว่า ถ้าต้องการถ่าย Macro ให้ซูมไม่เกิน 2x นะครับ
PORTRAIT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพบุคคล
เรามาต่อกันที่เรื่องของการถ่ายภาพ Portrait กันนะครับ realme 11x 5G และ realme 11 5G นั้น สามารถจะถ่ายภาพ Portrait ได้ในระยะเดียวก็คือ 1x เท่านั้น ซึ่งแอบเสียดายเหมือนกันนะครับ เพราะรุ่นพี่ก็ได้ ระยะ 2x แถมตัวเองก็เด่นในเรื่อง In sensor zoom แต่ไม่ใส่มาใน Mode Portrait ซะงั้น ไม่แน่อาจจะเป็นข้อจำกัดของตัว Chipset ก็ได้
ลักษณะของสีสันตัวภาพ ในการถ่ายภาพ Portrait ของทั้ง 2 ตัวนี้ จะมีความแตกต่างไปจากการถ่ายภาพใน Mode Auto ปกตินิดหน่อย ก็คือ ส่วนของสีแดง และสีส้ม ที่เป็นเฉดของสีผิวนั้น จะมีความสดที่มากขึ้นเล็กน้อย
และก็จะมีจุดหนึ่งนะครับรุ่นน้องอย่าง realme 11x 5G นั้น แอบทำได้ดีกว่ารุ่นพี่ realme 11 5G ก็คือ ในเรื่องของการตัดขอบละลายฉากหลังนั่นเองครับ คือ ส่วนตัว Bokeh ที่ขึ้นมันสวยพอ ๆ กันนะ แต่การเก็บขอบตามเส้นผม หรือ Detail ในจุดเล็ก ๆ realme 11x 5G ทำได้ดีกว่าครับ
Software HDR ก็ทำงานใน Mode Portrait นี้ด้วยนะครับ ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่า ถ้าถ่ายภาพย้อนแสงแล้ว จะออกมาหน้ามืด หรือ Dynamic Range จะแคบ จุดนี้สบายใจได้เลย
ในส่วนของ ตัว Beauty Mode แก้วแนะนำว่า อย่าเปิดเกิน 20% เพราะว่า ถ้าเปิดมากกว่านั้น การเกลี่ยผิวจะดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติแล้วครับ Texture ของผิวมันจะหายไปเยอะ แล้วภาพที่ได้จะดูลอย ๆ เกินไปหน่อย
realme STREET MODE
มากันถึง Mode การถ่ายภาพเอกลักษณ์จากทาง realme อย่าง Street Mode กันบ้างนะครับ ในภาพรวม ฟีเจอร์ใน Mode นี้ของทั้ง 2 รุ่น จะมีความคล้าย ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น สามารถเลือกจุดโฟกัสได้เอง เลือกระยะเลนส์ตาม Focal Length
แต่ Street Mode ใน realme 11 5G นั้น จะมีลูกเล่นที่เรียกว่า Auto Zoom เหมือนกับ รุ่นพี่ realme 11 Pro Series ใส่มาให้ด้วย เราสามารถจะแตะที่หน้าจอ แล้วกล้องจะทำการ Zoom พร้อมกับจัด Compose ให้เราอัตโนมัติเลย
ตัวเลือกในเรื่องของลายน้ำ ใน Street Mode ก็จะมีความพิเศษมากกว่า การถ่ายภาพใน Mode ปกติ เพราะจะได้ ลายน้ำที่เป็นสไตล์กรอบภาพสวย ๆ ซึ่งเอาจริง ๆ มีความคล้ายกับตัว Lonely Planet ใน realme 11 Pro Series 5G อยู่เหมือนกันนะครับ
และใน 2 รุ่นนี้ ยังได้ 3 Filter ภาพสตรีทใหม่มาใช้งาน ได้แก่ Crisp | Cinematic | Tranquil ซึ่งส่วนตัวแล้ว แก้วชอบ Cinematic ที่สุด เอาไปถ่ายภาพสตรีท ได้ลุคเหมือนภาพยนตร์มากทีเดียวครับ
LOW LIGHT PHOTOGRAPHY การถ่ายภาพในที่แสงน้อย
เรามาต่อกันที่การถ่ายภาพในที่แสงน้อยกันนะครับ โดยใน realme 11x 5G และ realme 11 5G นั้น เราสามารถใช้งาน Night Mode ได้ใน 2 ระยะด้วยกันนะครับ ก็คือ ระยะ 1x และ 2x โดยที่คุณภาพนั้นไว้ใจได้เลย
ลักษณะการ Process ไฟล์ภาพใน Night Mode ของทั้ง 2 รุ่น จะมีการ เติม Sharpness และ Clarity เข้ามาภาพ สูงกว่าใน Mode Auto อยู่พอสมควร และจะมีการเติมความสว่างเข้ามาในส่วน Midtone เยอะที่สุด ดึงรายละเอียดในส่วน Highlight กลับมา แต่จะไม่ขุดรายละเอียดในส่วนเงาขึ้นมามากนัก
ในส่วน Software Noise Reduction หรือ การจัดการจุดรบกวน โดยของ realme 11 5G นั้น จะทำงานได้ดีกว่า realme 11x 5G อยู่เล็กน้อย คือ จะสามารถจัดการกับจุดรบกวนออกไปได้หมดจดกว่า และรักษา Detail เอาไว้ได้ค่อนข้างดี ใครชอบถ่ายกลางคืน ได้ไฟล์ ใสใส ต้อง realme 11 5G เลย
ในขณะที่ไฟล์ภาพของ realme 11x 5G นั้น ความสว่าง และรายละเอียดจะเก็บมาได้พอ ๆ กัน แต่จะมีจุดรบกวน ในส่วนมืดของภาพ ที่มากกว่าอยู่พอสมควรครับ ซึ่งอันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะ บางคนก็ชอบให้มี Noise บ้างเล็ก ๆ ภาพดูเป็นธรรมชาติดี ไม่ดูปรุงแต่งมากเกินไป
พวกลูกเล่น Filter สีสันต่าง ๆ ก็มีมาให้เลือกใช้งานกันพอสมควรครับ
RAW FILE PERFORMANCE
นี่คือจุดที่แก้วค่อนข้าง Surprise มาก และถือว่าเป็นจุดเด่นที่ ไม่คิดว่าจะหาได้จากสมาร์ทโฟน ราคาไม่ข้าม 10,000 บาท ก็คือ ในทั้ง 2 รุ่นย่อยสามารถถ่าย RAW File ได้ แถมยังเป็น RAW File ที่คุณภาพ ทำออกมาได้ค่อนข้างดีมากด้วยนะ
ความยืดหยุ่นของตัวไฟล์ สามารถจะเก็บรายละเอียด ในแต่ละย่านความสว่างมาได้ดี สามารถดึง Detail ส่วน Highlight กลับมาได้พอสมควร แต่ส่วนมืดนี่ขุดได้เยอะมาก และที่แก้วชอบมากคือ เป็น Sensor RAW ที่ ไม่มี Color Noise เลย Process โคตรง่าย ใช้คำว่า โคตรง่าย
ตอนที่แก้วไปเที่ยวกระบี่ เอาไปถ่ายภาพวิว อาทิตย์ตกมา สัญชาตญาณ มันบอกว่า จังหวะนี้ยังไงก็ต้องถ่าย RAW เผื่อไว้ก่อน ซึ่งไม่ผิดหวังจริง ๆ ครับ กลับมาถึงห้องที่โรงแรม เอามา Process ต่อทีหลัง ได้ภาพที่ถูกใจมาก ๆ
ใครที่รู้สึกว่าเบื่อกับการถ่ายภาพใน Mode Auto ปกติ อยากจะเปลี่ยนรสชาติ มาสัมผัส ฟีลลิ่งของภาพที่ Professional มากขึ้น การมาของ realme 11x 5G และ realme 11 5G เป็นสิ่งที่น่ายินดีมาก ๆ ว่า สมาร์ทโฟนราคาไม่ถึง 10,000 บาท มี RAW File คุณภาพดี ๆ ให้คนงบน้อย ฝึกถ่าย ฝึก Process กันแล้ว
ทีนี้ถ้าให้เทียบกัน ระหว่าง RAW File จาก ตัวไหนเจ๋งกว่ากัน แก้วก็ขอยกให้ realme 11 5G มีคุณภาพของ RAW File ที่ดีกว่า เพราะ Dynamic Range กว้างกว่าพอสมควร Process ส่วน Highlight ดึงกลับมาได้มากกว่านั่นเองครับ
FRONT CAMERA | กล้องหน้า 8MP / 16MP
ตัวกล้องหน้า เป็นอีกจุดที่มีความแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจนมากใน 2 รุ่นย่อยนี้ เพราะทั้งคุณภาพของ Sensor และความละเอียดของไฟล์ภาพนั้น realme 11 5G เหนือกว่าอย่างชัดเจน
ส่วนในกล้องหน้าของ realme 11 5G นั้น ทั้ง Beauty Mode และ Software การละลายฉากหลัง Overall แล้วทำออกมาได้ดีกว่าหมดเลยครับ ใครที่จำเป็นต้องใช้กล้องหน้าบ่อย ๆ แนะนำให้ไปรุ่น realme 11 5G ไปเลย จะจบกว่าครับ
แต่ไม่ใช่ว่ากล้องหน้าของ realme 11x มันแย่จนใช้การไม่ได้นะ มันก็เพียงพอต่อการ Selfie ทั่ว ๆ ไป หรือจะใช้ในการ Video Call ต่าง ๆ ก็ทำได้ตามปกติ
ในกล้องหน้าของ realme 11x เราก็สามารถ Selfie แบบละลายฉากหลัง พร้อมกับ เปิด Beauty Mode ควบคู่กันไปด้วยได้ การตัดขอบถือว่าค่อนข้างแม่นยำเลยนะครับ แต่การละลายฉากหลังอาจจะดูแบน ๆ ไปนิดหนึ่ง
VIDEOGRAPHY : การถ่ายวีดีโอ
สำหรับในเรื่องของการถ่ายวีดีโอนะครับ realme 11x 5G และ realme 11 5G นั้น สามารถจะถ่าย Video ได้ Resolution สูงสุดคือ 1080p 30fps ทั้งในกล้องหน้า และกล้องหลัง เนื้อไฟล์วีดีโอ อยู่ในระดับที่พอใช้งานได้ตามปกติ ไม่เด่นอะไรมากนัก ตัวกันสั่น Video ในกล้องหลังของ realme 11 5G ที่เป็นในรูปแบบ EIS นั้น จะนิ่งกว่า realme 11x 5G อย่างชัดเจน และกันสั่น Video ในกล้องหน้า ของ realme 11 5G ก็นิ่งกว่า realme 11x 5G เช่นกันครับ
PERFORMANCE : ประสิทธิภาพของตัวเครื่อง
สำหรับ Performance ของตัวเครื่อง realme 11x และ realme 11 5G นั้น ต้องบอกว่า ในภาพรวมนั้น ทำออกมาได้ค่อนข้างจะใกล้เคียงกัน ในแง่ของการใช้งานทั่วไป เพราะใช้ Chipset ตัวเดียวกัน ก็คือ Dimensity 6100+ จะต่างกันที่ RAM เท่านั้น
ในการใช้งานทั่ว ๆ ไป มันตอบสนองเราได้ค่อนข้างดีมากอยู่แล้ว แต่ใน Software ติดเครื่อง แก้วเจอเรื่องหนึ่งก็คือ realme 11 5G เวลาเราใช้งาน Mode การถ่ายภาพ Street จะมี Shutter Lag ที่มากกว่า realme 11x 5G อยู่นิดหน่อย
สำหรับในเรื่องของการเล่นเกม realme 11x 5G และ realme 11 5G นั้น เราสามารถจะเล่นเกมที่กราฟิกอยู่ในระดับทั่วไป ไปจนถึงระดับกลางได้ แบบลื่น ๆ อย่างเกมที่แก้วนำมาลองเล่น ก็จะเล่น Tower of God และ Immortal Kingdom ซึ่ง ตัว Tower of God จะสามารถใช้ Graphic Setting ระดับสูงสุด และ Frame Rate 60fps ได้เลย อาจจะมี Drop บ้าง เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นบนหน้าจอเยอะ ๆ
ส่วน Immortal Kingdom นั้น จะสามารถปรับ Graphic Setting ได้ในระดับ High ถ้าต้องการ 60fps นิ่ง ๆ แต่ถ้าจะเอาให้สวยสุด ก็สามารถปรับ Ultra ได้ แต่ Frame Rate โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 45fps นะครับ
ในเรื่องของแบตเตอรี่ ถ้าเป็นวันที่เราใช้งานทั่ว ๆ ไป ไม่ได้เล่นเกม หรือ เล่น Social Media เยอะ แบตคือ สามารถอยู่ได้ เกือบ ๆ 2 วันเลยทีเดียว แบตถึกมาก ๆ ส่วนถ้าวันไหน ออกนอกบ้านบ่อย เปิดใช้แสงหน้าจอเยอะ ก็จะได้อยู่ที่ 8-9 ชั่วโมง สบาย ๆ และ ส่วนการชาร์จเร็ว แน่นอนว่า realme 11 5G จะเร็วกว่า อยู่ที่ 67W ส่วน realme 11x 5G จะอยู่ที่ 33W ครับ
OVERVIEW & OPINION
สำหรับแก้วแล้ว realme 11x 5G และ realme 11 5G นั้น ถูกออกแบบมาให้เป็น Smartphone ในรุ่นคุ้มค่า ที่ให้ Spec ในส่วนต่าง ๆ มาค่อนข้างจะเกินราคา ไม่ว่าจะเป็น Design ตัวเครื่อง ที่ดูยังไง ก็เทียบชั้น Smartphone ระดับราคาหลักหมื่นได้เลย
หรือ จะเป็นตัวหน้าจอ LCD IPS ที่มีคุณภาพสูง มีความสว่างหน้าจอที่สูงแสงแดดได้ค่อนข้างดี มีการแสดงผลสีสันที่คมชัด สามารถเอาไปใช้งานในชีวิตประจำวัน เล่น Social Media ใช้ Application ต่าง ๆ ได้จากลื่นไหล ด้วย Refresh Rate 120Hz
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพ ถึงแม้ว่าใน 2 รุ่นย่อยนี้ จะให้ Sensor มาคนละตัวกัน แต่ต้องบอกเลยว่า Software ตัวกล้องนั้น ทำมาได้ดีทั้งคู่ การจูนสีสัน และ Dynamic Range ออกมาเน้นความสำเร็จรูป ถ่ายปุ๊บ ลง Social Media ได้ปั๊บ อะไรแบบนั้น แต่ทีเด็ดที่ทาง realme แอบซ่อนไว้
ก็คือ นี่น่าจะเป็น Smartphone ระดับ High Entry ที่ถ่าย RAW File ได้ แถมคุณภาพ ยังสู้รุ่นกลางราคา 10,000 ถึง 16,000 ได้สบาย ๆ ความยืดหยุ่นในการนำไฟล์มา Process ต่อ คือไว้ใจได้ เรียกได้ว่า realme ได้นำประสบการณ์ในการถ่ายภาพในระดับ Mid Range มาให้คนงบน้อยได้สัมผัสได้ถ้วนหน้า จุดนี้ดีมาก ๆ ครับ
ราคาวางจำหน่าย realme 11 Pro Series 5G ทั้ง 2 รุ่นย่อยดังนี้
realme 11x 5G วางจำหน่าย 1 ความจุ 8+128 : 6,999 บาท
realme 11 5G วางจำหน่าย 1 ความจุ 8+256 : 8,999 บาท
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ] Fanpage : https://www.facebook.com/mobile.fotographer IG : kaew.ravie #Mobilephotographer #โมบายโฟโตกราฟเฟอร์#ถ่ายรูปด้วยมือถือ #realme #realme115G #realme11x5G
Comments