สวัสดีครับทุกคน กลับมาเจอกันอีกแล้วนะครับ วันนี้แก้วยังอยู่กับ realme 9 Pro+ แต่ว่า ไม่ใช่รุ่นธรรมดาๆ นะ นี่คือ realme 9 Pro+ FREEFIRE Limited Edition สุดเท่นั่นเอง ซึ่ง realme ได้มีการเป็น Official Partner กับทางตัวเกมโดยตรงเลยนะครับ มีการอัพลุค ปรับ Design มาเอาใจคอ Gamers มากขึ้น เยอะเลย ไปชมรีวิวกันครับ
PACKAGING โคตรเท่ ! DNA จากเกมมาเต็ม
ก่อนจะไปกันถึงตัวเครื่องนะครับ Design ของ ตัวกล่อง และ Packaging ของ realme 9 Pro+ FREEFIRE Limited Edition เป็นจุดเด่นที่กระแทกตาตั้งแต่แรกเห็นเลย เท่มากๆ มาพร้อมกล่องนอก สีเหลืองสดๆ แบบนี้เลย บริเวณด้านบนของตัวกล่องจะมี ตำแหน่งองศาของแผนที่ ที่เราใช้ในการบอกตำแหน่งศัตรูในเกม Battle Royale ให้กับเพื่อนร่วมทีมนั่นเอง
พอแกะกล่องตัวนอกออกมา เราก็จะพบว่า ที่จริงแล้วตัวกล่องนอกเนี่ย อีกหนึ่งด้านของเขา พิมพ์ลายเป็น แผนที่คลาสสิคของเกม FREEFIRE มา แบบสวยงาม และคมชัดมากๆ เหมาะแก่การสะสมมากเลยทีเดียว
ตัวกล่องย่อยสีดำด้านบน จะเป็นกล่องที่เขาจะใส่พวก Sticker และ Card Item Code สำหรับนำไปแลก Item ในเกม ทำมาดูดีมาก บอกตรงๆ ว่าแก้วรู้สึกไม่กล้าจะฉีกออกมาดูกันเลยทีเดียว มันดูเป็นของสะสมจริงๆ
คุณภาพของพวกของ Premium ต่างๆ ที่ให้มาในกล่องเนี่ย สมราคาน่าสะสมมากๆ ครับ งานพิมพ์ Sticker คือ รายละเอียดดี คมกริบเลย
มาเปิดกล่องกันต่อดีกว่า ตัวกล่องชั้นใน ก็จะมีการ Screen รูป Main Character ของเกมลงไป พร้อมกับ ตัวหนังสือบอกชื่อรุ่น realme 9 Pro+ และ โลโก้ FREEFIRE บริเวณด้านล่าง
สำหรับ อุปกรณ์ภายในกล่อง ก็เหมือนกับในรุ่น Standard ครับ มี Case ใสมาให้ มีสายชาร์จ กับ Adapter DartCharge 60W แล้วก็พวกเอกสาร คู่มือการใช้งานต่างๆ ครับ
จุดที่เป็น Detail เล็กๆ แต่ว่าเท่มาก นั่นก็คือ เข็มจิ้มซิมของรุ่นนี้ เป็น รูปมีดในเกม อย่างสวยเลย
DESIGN : งานออกแบบ
เอาล่ะครับ เรามาดูงานออกแบบตัวเครื่อง realme 9 Pro+ FREEFIRE Limited Edition ตัวนี้กันดีกว่าครับ ต้องบอกว่า แค่หยิบออกมาจากกล่อง เห็นลวดลายเป็นฝาหลังนี่ก็ทำให้ ตัวเครื่องดูมีลุคที่ Sport และดูมีความเป็น Gamer มากกว่า สีสันใน รุ่น Standard มากๆ เลย
Design ภาพรวมของตัวฝาหลัง หลายคนที่เล่น Free Fire อาจจะคุ้นตา เพราะมันคือการหยิบ FF Knife ไอเทมภายในเกม มาออกแบบเป็นลวดลายฝาหลัง จะมีความเป็นสีน้ำเงินเข้ม แบบ Glossy ตัดกับ ลวดลายเว้าบริเวณด้านข้างตัวเครื่อง ซึ่งจะสะท้อนเป็นสีรุ้งๆ ด้วย เวลาเล่นแสง คือสวยมากๆ
บริเวณกึ่งกลางด้านล่างของตัวเครื่องจะมีการ Screen คำว่า FREE FIRE ลงไป เป็นแบบ UV สะท้อนแสง
บริเวณมุมซ้ายบนของเครื่องจะมีการ Screen คำว่า BOOYAH !! ซึ่งจะเป็นคำที่จะปรากฏขึ้น เมื่อเราเป็นผู้ชนะในเกม FREE FIRE ใน Match นั้นๆ Detail เล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ ทำดีครับ
นอกจากนั้นรายละเอียดใจส่วนต่างๆ นั้นก็ไม่ต่างจากตัว realme 9 Pro+ ในรุ่นปกติเลยครับ
หน้าจอ SuperAMOLED คมชัดทุกการใช้งาน
ตัวหน้าจอ realme 9 Pro+ ถือว่าเป็นหน้าจอที่ใช้งานได้ดีในทุกๆ ด้านเลยครับ ขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว แบบ SuperAMOLED ความละเอียด FHD+ ตัว Refresh Rate อยู่ที่ 90Hz และ Touch Sampling สูงถึง 360Hz ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะมากกับสมาร์ทโฟนในระดับราคานี้
แน่นอนว่า คุณภาพของหน้าจอ ก็คือ หายห่วงครับ สาย Entertainment ดูหนัง ดู Series คือสบายใจได้เลย แถม Netflix ได้ L1 ภาพคมชัดกันไปเลยนะ ยิ่งผนวกรวมกับ ลำโพงคู่ที่มีระบบ Dolby Atmos มาให้ด้วยนี่ฟินมากๆ เลย
การใช้งานนอกบ้านหรือ Outdoor ก็ทำได้สบายๆ ความสว่างหน้าจอที่เร่งได้ถึง 1,000 nits ถ้าอยู่ในที่ร่มนี่คมชัดมากๆ ถ้าออกแดด ก็อาจจะ Drop ลงไปสักนิดหน่อย แต่ยังใช้งานได้ดีเหมือนเดิมครับ
เป็น FREE FIRE LIMITED EDITION ทั้งที ก็ต้องจัด FREE FIRE กันสัก Match โดยที่ จะเปิดตัวช่วย Game Focus Mode เอาไว้ด้วย เพื่อป้องกัน Noti และการระกวนจากสิ่งต่างๆ ให้เราโฟกัสกับเกมได้เต็มที่
ก่อนจะที่จะเข้าเกม แก้วก็หยิบหูฟังขึ้นมาใส่ พร้อมกับปรับตัว Sound Profile ไปที่เกม ช่วยให้เราสามารถ Track การเคลื่อนไหวของศัตรู ด้วยหูฟังได้ และช่วยให้ Dolby Atmos ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพด้วยนะครับ
ทั้ง Touch Sampling ที่เยอะมากๆ ทำให้การเล็งปืน หรือเคลื่อนที่ในแต่ละครั้ง เป็นไปได้รวดเร็ว ตามใจสั่งเลย รวมไปถึงระหว่างการเล่นเนี่ย ตัวเครื่องสามารถจัดการความร้อน ด้วย Vapor Chamber Cooling System และพลังงานได้ดีมากๆ พร้อมชาร์จเร็ว 60W ไม่ถึง 50 นาทีก็เต็มแล้วครับ
ประสิทธิภาพตัวเครื่องแน่นๆ เหมาะกับการเล่นเกมขนาดนี้ อยู่ที่ฝีมือของเราแล้วล่ะครับ BOOYAH ! อยู่ไม่ไกล
ชุดกล้องหลัง 3 ตัว กับ Sensor ระดับตัว Top
แน่นอนว่าทุกคนคงได้อ่านรีวิวกล้องแบบเต็มๆ จากแก้วไปแล้ว ใน รีวิว realme 9 Pro+ ตัวหลัก รอบนี้เรามาทบทวนกันหน่อยครับ ว่าชุดกล้องหลังทั้งสามตัว เป็นยังไงบ้าง ?
Main Camera : IMX766 OIS f/1.8 50MP | Crop 2x ได้สบาย
Ultra wide : 8MP f/2.2 กว้าง 119 ํ
Macro : 2MP F2.4
แก้วก็ได้เอา realme 9 Pro+ ไปถ่ายภาพสวยๆ มาให้ทุกคนได้ดูกัน โดยที่ในครั้งนี้ แก้วจะใช้ STREET MODE 2.0 ล้วนๆ เลย ในการถ่ายภาพรอบนี้นะครับ จะใช้ Filter สีใน Mode ในการตกแต่งภาพด้วย ไปชมกันครับ
ความสามารถในการถ่ายภาพย้อนแสง และเปิด HDR ไปด้วยเนี่ย realme 9 Pro+ ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ พอมารวมกับ Filter ใน Street Mode ที่ชื่อว่า Street โทนภาพ คือ Mood ดีมากเลยครับ ชอบๆ
หยิบอีก Filter ที่แก้วว่า โทนสีเท่มาก ชื่อ Gray มาถ่ายงานสถาปัตยกรรม ที่ต้องการตัดสีสันที่เยอะจนเกินไป ให้เหลือแต่ Shape ที่ชัดเจน และโฟกัสกับสิ่งเหล่านั้น ได้ดีครับ
Filter นี้จะมีชื่อว่า Travel โดยโทนสีจะมีความ Vintage นิดๆ แก้วใช้การ Digital Zoom 2x เข้าไปเพื่อวาง Frame ภาพให้ไม่โล่งจนเกินไป วางสีเขียว สีชมพู ให้ตัดกับฉากหลังของอาคาร และ ท้องฟ้าที่เป็นสี เรียบๆ ได้ลงตัว
Filter นี้จะเป็น Filter ที่ชื่อว่า Forest โดดเด่นที่สุดของ โทนสีเขียว ที่จะสด และเด่นมากๆ รวมกับ คู่สีตรงข้าม ที่เป็น สีเหลือง แบบ ติดแดงหน่อยๆ และ Contrast จะจัดขึ้นมากๆ เลยครับ
มาดูภาพนี้กันบ้าง แก้วใช้ กล้อง Ultra Wide Angle หรือ ระยะ 16mm นั่นเอง ต้องบอกว่า ในหมู่มวลกล้อง Ultra Wide Angle 8MP ในช่วงราคานี้ นั้น realme 9 Pro+ เป็นอะไรที่คุณภาพดีเป็นอันดับต้นๆ เลย
Filter นี้มีชื่อว่า Mist ที่จะให้บรรยากาศแบบดู Noir ดูเย็นๆ โทนสีแบบดูเหมือนอยู่ยุโรป ประมาณนั้นเลย
ความกว้างของกล้อง Ultra Wide Angle ถ้าเราเล็งดีๆ วาง Frame ดีๆ การจะถ่ายทั้งตึกเข้ามาในภาพเดียว ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ และ Filter ที่แก้วใช้ในภาพนี้ก็คือ Film นั่นเองครับ
Filter ขาวดำก็มีครับ แต่ว่าอาจจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง เรื่อง Brightness มาก จะเป็นการดูดสีออกไปเฉยๆ ซะมากกว่าครับ ก็มีให้ก็ดีกว่าไม่มีเนาะ
อีกหนึ่งฟีเจอร์จุดเจ๋งที่แก้วชอบมากใน realme ก็คือ Long Exposure นั่นเองครับ ซึ่งหาได้ยากมากใน Smartphone ระดับกลางเลยนะครับ อย่างภาพนี้แก้วก็เอา Moving Crowded มาใช้ถ่ายน้ำพุ ให้มันดูฟุ้งๆ
และภาพนี้แก้วใช้ Neon trail ที่ไว้ใช้ถ่ายภาพเส้นไฟตอนกลางคืน ซึ่งจะบอกว่า กลางวันก็ใช้ได้นะครับ อย่างภาพนี้แก้วถ่ายภาพ รถไฟฟ้า BTS ให้มันเป็น Motion Blur แบบนี้ครับ
การถ่ายภาพในที่แสงน้อยเนี่ย เหลือๆ เลยครับ สบายใจได้จริงๆ ทั้งกล้องหลัก และกล้อง Ultra Wide Angle realme 9 Pro+ ถ่ายภาพกลางคืนได้สนุกมาก
ความสามารถในการจะ Balance แสง Highlight , Shadow ทำได้เป็นอย่างดี และไม่เติม Clarity เข้ามาจนภาพดูแข็ง ดูไม่เป็นธรรมชาติมากจนเกินไปครับ
ถ่ายภาพบุคคล สวยระดับมืออาชีพ
อย่างที่ทุกคนได้เห็นภาพ Portrait ในรีวิวตัวหลักไปแล้ว ปีนี้ realme จัดหนักจริงๆ ในเรื่องของการถ่ายภาพบุคคล คือพัฒนาขึ้นมาก ทั้ง Skintone ทั้ง Depth of field คือทำมาดีจริงๆ ถ่ายสนุกมากๆ
ด้วย Sensor IMX766 และ Software HDR ทำให้ ภาพที่ได้นั้นมีความเป็นธรรมชาติ แสงนุ่มนวลมาก แทบจะไม่ต้องเปิด Beauty Mode ขึ้นมาช่วยเลย ก็ได้ผิวที่เนียนใส
White Balance ที่แม่นยำกว่าตัว realme 9 Pro รุ่นธรรมดา อยู่พอสมควร ทำให้เมื่อสภาพแสงเปลี่ยน Skintone นั้นยังคงสีสันที่แม่นยำ และเป็นธรรมชาติ ได้เหมือนเดิม โดยที่ไม่ต้องปรับแต่งอะไรมาก
การถ่ายภาพ Macro ใกล้สุด 4 ซม.
กล้องตัวสุดท้ายที่มีมาให้ใน realme 9 Pro+ นั้นก็คือ กล้อง Macro หรือกล้องถ่ายภาพระยะใกล้นั่นเองครับ โดยจะสามารถโฟกัสใกล้สุดได้อยู่ที่ 4 ซม. พร้อมความละเอียดกล้อง 2MP ครับ
หรือจะใช้กล้องหลักเอามากด Crop2x ก็ยังใช้งานได้คุณภาพดีแบบสบายๆ เลยครับ
กล้องหน้าความละเอียด 16MP กว้างกำลังดี ตัดขอบเฉียบ
กล้องหน้าถึงแม้อาจจะไม่ได้เป็นจุดเด่นที่ถูกชูขึ้นมา แต่ใช้ได้เลยนะ ทั้งการตัดขอบ Skintone ความกว้างขององศากล้องหน้า ทำได้ดีเลยทีเดียวครับ แถมใส่แมสไว้ Beauty Mode ยังทำงานได้ดีด้วยนะ
ขนาดว่าไม่ได้เปิด Beauty Mode ช่วย แต่ Skintone ของกล้อง การ Balance แสงที่ตัวเรา กับฉากหลัง ทำได้ดีมากเลย อาจจะน่าเสียดายไปหน่อยเดียว ที่ Pixel ในกล้องหน้ามันแค่ 16MP เท่านั้นครับ
OVERVIEW & OPINION
realme 9 Pro+ FREE FIRE Limited Edition เป็น Smartphone ที่ออกมาเพื่อเอาใจสาย Gamer และสาย Collector นักสะสมของลิมิเตด ด้วยประสิทธิภาพตัวเครื่องที่หายห่วง ทั้งการใช้งานปกติ และ การเอาไปใช้งาน Entertainment ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ก็ทำได้ดีมากๆ
ใครที่กำลังมองหา Smartphone ระดับกลางที่ครบเครื่อง และยิ่งถ้าเป็นแฟนเกม FREE FIRE แล้วล่ะก็พลาดไม่ได้จริงๆ ครับ กับราคาวางจำหน่าย realme 9 Pro+ FREE FIRE Limited Edition ที่ 12,499 บาท และ เมื่อซื้อบนช่องทาง Shopee รับราคาพิเศษไปเลยแค่ 11,999 บาท รับฟรี ของแถมมูลค่า 3,000.- พร้อมโค้ดรับเงินคืน 500 Coins เฉพาะช่วง 20-30 เมษายน 2565 นี้ เท่านั้นนะครับ ยังไม่หมด พิเศษสุด 600 คนแรกจะได้รับ realme FansGift มูลค่า 3,000 บาท ไปด้วยนะครับ
หรือ ถ้าหาก พรีออเดอร์วันที่ 12 เม.ย. - 22 เม.ย. 65 รับฟรี realme Gaming Set มูลค่า 2,000.- ผ่าน realme Brand Shop หรือจะเอา realme Gift Box แทนก็ได้นะครับ
จัดหนักจัดเต็ม ราคาดีขนาดนี้ จะรอออะไรอยู่ล่ะครับ ไปจองกันเลย
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ] Fanpage : https://www.facebook.com/mobile.fotographer
IG : kaew.ravie