top of page
รูปภาพนักเขียนแอดมินแก้ว

realme GT 7 Pro | เรือธงตัวแรง อัพ Telephoto มาใหม่ ตีบวกด้วย AI ที่เก่งที่สุดของ realme

สวัสดีครับทุกคน กลับมาเจอกับแก้ว และการรีวิว สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากทางแบรนด์ realme กันอีกครั้งนะครับ และวันนี้เรากลับมาเจอกับ realme GT Series ตัวใหม่ เป็นครั้งที่ 2 แล้วในปี 2024 นั่นก็คือ realme GT7 Pro นั่งเอง กับ Snapdragon 8 Elite ตัวแรกในตลาดประเทศไทย กับกล้องถ่ายภาพที่ยกเครื่องใหม่หมด จาก realme GT6 Pro จะน่าใช้แค่ไหน ? ไปดูรีวิวกันครับ

SPECIFICATION
  • Chipset : Snapdragon 8 Elite

  • RAM 12GB LPDDR5X + 512GB UFS 4.0

  • Display : 6.78-inch AMOLED | FHD+ | 1B colors | 120Hz | HDR10+

    Peak brightness 6000nits | HBM 2000nits | Dolby Vision Supported

  • Operation system : realme UI 6.0 | Android 15

  • Good Quality Stereo Speaker

  • Bluetooth 5.4 | USB Type-C 2.0 | Wifi7 | 360 ํ NFC

  • Battery 6500mAh | 120W Ultra Charge

WHAT'S IN THE BOX : อุปกรณ์ภายในกล่อง
  • ตัวเครื่อง realme GT 7 Pro

  • Case กันกระแทกแบบนิ่ม สีทึบ

  • USB-C Cable | Adapter Charge

  • Sim card ejector | Manual Document

DESIGN : การออกแบบ

การออกแบบตัวเครื่องของ realme GT7 Pro ตัวนี้ ต้องใช้คำว่าฉีกออกจากกรอบเดิม ๆ ที่เราเคยเห็น realme GT เคยทำมาแบบสิ้นเชิงเลย ลดทอนกลิ่นความ Sport ความเท่ แต่ปรับให้ดูหรูหรา เรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ

สีตัวเครื่องที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย จะมีสีเดียวเท่านั้น ก็คือ " สีส้ม Mars Orange " วัสดุของฝาหลังจะเป็นกระจกแบบด้าน ที่ให้การสัมผัสเรียบเนียน แต่มีความติดมือมากกว่า ฝาหลังที่เป็น AG Glass ทำให้ การจับถือทำได้แน่นหนา ต่อให้มือเปียกก็จะไม่ลื่น

ตามชื่อสี Mars Orange เราจะเห็นลวดลายบนฝาหลัง คล้ายกับพื้นผิวดาวอังคาร โดยลวดลายที่เขาใส่มา ไม่ได้ดูเยอะ ดูตะโกนจนเกินไป อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะพอดี เป็น Gimmick ด้าน Design ที่ดูสนุกและลงตัว

Frame ตัวเครื่องแบบเหลี่ยม ใช้วัสดุเป็น Aluminium พร้อมการทำสี ล้อไปตามสีตัวเครื่อง ให้ผิวสัมผัสแบบด้าน ทนรอยขีดข่วนต่าง ๆ ได้ดี พอมารวมกับฝาหลังที่เป็นแบบด้านแล้ว ยิ่งให้ Grip ในการจับถือที่ดีมากขึ้นไปอีก

Build Quality ของตัวเครื่อง สบายหายห่วงในทุกสถานการณ์ ด้วย IP Rating IP68/69 ซึ่งเมื่อความทนทาน และการป้องกันตัวเครื่องดีขนาดนี้ ทำให้ realme ได้ใส่ Mode การถ่ายภาพใต้น้ำเข้ามาให้เราใช้งานกันด้วย

ด้านล่างของตัวเครื่องก็จะเป็นที่อยู่ของ Port USB-C | ช่องไมโครโฟน | ช่องลำโพง และถาดใส่ Sim Card แบบ Dual Slot ที่ไม่สามารถสลับไปใส่ microSD ได้นะครับ ส่วนด้านบนก็จะมี ช่องไมโครโฟน และลำโพงอีกหนึ่งตัว

คุณภาพของลำโพงคู่ จากที่แก้วได้ใช้งานมา 2 สัปดาห์ เรื่องความดัง คือ ดังสะใจสบายหายห่วงแน่นอน แต่ Character ของลำโพง แบบ Standard ที่ไม่ปรับแต่ง Equalizer เลย มันแปลกมาก ให้เสียงกลางที่ดี เสียง Bass ดี เสียงแหลมจะมีความบีบ ๆ และ Sound Stage หรือ มิติเสียงค่อนข้างแบน ซึ่ง พอลองไปปรับ Equalizer ดู ก็เจอว่า ปัญหาเนี่ย มันอยู่ที่ Software Equalizer ที่ชื่อว่า " Smart " แก้วแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ Equalizer สำหรับ Game หรือ Music จะได้ Detail ในทุกย่านที่ครบกว่ามาก ๆ ครับ

DISPLAY : หน้าจอแสดงผล

เราพลิกมาดูกันในด้านของหน้าจอกันบ้างนะครับ realme GT7 Pro จะมีขนาดหน้าจอที่ 6.78 นิ้ว เท่ากับรุ่นก่อนหน้า และใช้ Panel หน้าจอเป็น 8T LTPO OLED Plus ที่พัฒนาร่วมกับทาง Samsung มี Resolution อยู่ที่ FHD+ รูปแบบหน้าจอจะเป็นแบบ Micro Curved ที่ทุกด้านจะโค้งเล็ก ๆ เท่ากันหมด ให้การใช้งานที่เกือบจะเหมือนจอแบน 100% แต่เวลาลากนิ้วใช้ Gesture ตามขอบจอ จะ Smooth กว่า

ในเรื่องของการ Touch ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นใช้งานทั่วไป เล่น Social Media ไปจนถึง การเล่นเกม หน้าจอตัวนี้ ให้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลมาก ๆ ด้วย Refresh Rate 120Hz พร้อมค่า Sampling Rate พื้นฐานที่ 240Hz และ Boost ได้สูงสุดถึง 2600Hz คนเล่นเกมหนัก ๆ ต้องชิงจังหวะเยอะ ต้องชอบจอตัวนี้แน่นอน

คุณภาพในการแสดงผล ตัวหน้าจอมีขอบเขตสีอยู่ที่ 1.07 พันล้านสี รองรับ Content ในรูปแบบ HDR10+ และ Dolby Vision ค่า PPI ของหน้าจอที่ 450 PPI เท่า ๆ กับ Premium Flagship ในปีนี้ หลาย ๆ ตัว และมี Contrast Ratio อยู่ที่ 5000000 : 1 หากใครที่กังวลเรื่องความแม่นยำของสี หน้าจอ ของ realme GT7 Pro มี ค่า DCI-P3 ที่ 120% ใครต้องเช็คงานทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ บนหน้าจอสบายใจได้

นอกจากนั้น ใครที่มีความจำเป็นต้อง ปรับแต่ง Color Profile ของหน้าจอ เพื่อใช้ในการทำงานต่าง ๆ ก็สามารถจะปรับแต่งได้ง่าย โดยจะมี Screen Color Mode พื้นฐานให้ทั้งหมด 4 โหมด ก็คือ Natural , Vivid , Pro และ Custom ซึ่งใน Custom Mode เราสามารถจูนค่าสีหน้าจอแบบละเอียดได้ด้วยตัวเอง

ทีนี้การแสดงผลเวลาที่เราเอาไปใช้งานในการดู Content Streaming บ้าง จากที่แก้วได้ลอง Test มากับ 3 Platform ที่ดูบ่อย ๆ มีจุดแปลก ๆ อยู่ก็คือ ตอนที่ดู YouTube จะได้ที่ 4K HDR | แต่พอลองดู Disney+ กับ Netflix ความละเอียดจะอยู่ที่ Full HD และ ไม่แสดงสัญลักษณ์ HDR ด้วย

นอกจากนั้นก็จะมีฟีเจอร์ในการปรับปรุงภาพ เวลารับชม Content ต่าง ๆ ให้สวยงามมากขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็น Image Sharper ที่ทำให้ภาพคมชัดขึ้น หรือจะเป็น Video Color Boost ที่ช่วยให้สีสันของภาพบนหน้าจอ มีความอิ่ม และสดใสมากขึ้น

ตัว Fingerprint Scanner เป็นรูปในรูปแบบ Ultrasonic ที่ทั้งรวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูงกว่า Sensor ในรูปแบบ Optical ทั่ว ๆ ไป ตำแหน่งในการจัดวาง Sensor ก็วางมาได้ดี ไม่ต้องเอื้อมนิ้วไกล เวลาใช้ในการยืนยันตัวตน ตอนโอนเงิน หรือใช้ Google Wallet ก็ทำได้สะดวก

และสุดท้ายก็คือ การใช้งานนอกบ้าน ด้วยความที่ให้ High brightness มาอยู่ที่ 2000nits และ Peak Brightness 6000nits ทำให้การใช้งานในทุกสภาวะแสงไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่แก้วแนะนำว่า ให้เข้าไปเปิด Setting ที่มีชื่อว่า " Extra Brightness " ด้วยนะครับ สำหรับคนที่ใช้งานกลางแจ้งเยอะ ๆ

CAMERA : กล้องถ่ายภาพ

ถึงแม้ว่า realme GT Series จะเป็นสมาร์ทโฟนที่โฟกัสไปที่เรื่อง Performance ของตัวเครื่องเป็นหลัก แต่ก็ต้องยอมรับครั้งนี้ ทาง realme ก็ทำการบ้านเรื่องกล้องมาค่อนข้างดีมากทีเดียว ทั้ง Software แล้วก็ Hardware เราไปดู Spec กล้องกันก่อนเลยครับ

  • Main Camera 50MP | f/1.8 | 24mm | IMX906 | PDAF, OIS

  • Ultra Wide Angle 8MP | f/2.2 | IMX355 | 112 ํ | Fix-focus

  • Telephoto 3x 50MP | f/2.65 | 73mm | IMX882 | AF | OIS | Lossless 10x

  • Front Camera 16MP | f/2.45 | Sensor size 1/3.09"

นอกจาก Hardware ตัวกล้องที่ได้รับการอัพเกรดมาแล้ว ในเรื่องของ Software ในการถ่ายภาพ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน อย่างแรกเลยที่เป็น Highlight ของรุ่นนี้ คือการที่มีโหมดการถ่ายภาพใต้น้ำมาให้ โดยเราสามารถเปิด Mode ขึ้นมาด้วยตัวเอง หรือ แค่เอาเครื่องจุ่มน้ำ ก็จะเข้าสู่ Mode ให้เลยในทันที

และ ยุค AI แบบนี้ realme ก็ไม่พลาดที่จะส่งฟีเจอร์ AI ใหม่มาให้เราใช้งานกัน โดยก่อนหน้านี้ จะเป็นการลบวัตถุ Basic ทั่ว ๆ ไป แต่ตัวนี้ ขนมาเพิ่มให้อีก 3 ฟีเจอร์ใหม่ด้วยกันครับ

ฟีเจอร์แรก มีชื่อว่า AI Ultra Clarity เมื่อเรานำภาพที่ Resolution ต่ำ หรือ ตอนถ่ายอาจจะหลุดโฟกัสนิด ๆ มาผ่านฟีเจอร์นี้ AI จะช่วย Generate Pixel เพิ่มเติมในส่วนเบลอ ให้กลับมามีความคมชัดขึ้นได้ ซึ่งแก้วได้ลองแล้ว ใช้งานได้จริง มีประโยชน์จริง ๆ

อีกหนึ่งฟีเจอร์ก็คือ เวลาเราถ่ายภาพ อาจจะมือไม่นิ่ง หรือ Subject ในภาพเคลื่อนไหวไปมา จนเกิด Motion Blur ทาง realme ก็ได้ใส่ฟีเจอร์ Unblur เข้ามาให้ ซึ่งสามารถช่วยแก้ไข Motion Blur ได้ประมาณ 40% - 50% เปลี่ยนภาพเสีย ให้กลับมาเป็นภาพที่ใช้ได้จริง

นอกจากนั้นก็ยังมีฟีเจอร์ Sketch to Image ที่เป็นการใช้นิ้ววาดภาพ Sketch คร่าว ๆ แล้วก็ใช้ Generative AI เปลี่ยนภาพ Sketch นั้นให้กลายเป็นภาพจริงได้ ซึ่ง ความแม่นยำถือว่าโอเค แต่เรื่องของ Resolution ภาพที่ถูก Gen ขึ้นมา อาจจะไม่ได้คมชัด เท่ากับภาพถ่ายเรานะ แต่ใช้งานในจุดเล็ก ๆ หรือ Gen สนุก ๆ ถือว่าใช้ได้

IMAGE POST PROCESSING : คาแร็คเตอร์ภาพ

ลักษณะในการ Process ไฟล์ภาพจาก realme GT7 Pro เครื่องนี้ จะเน้นความสำเร็จรูปเป็นหลักเหมือนเดิม มีการ Post Process ช่วยเหลือค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น การเติมความคม ทั้ง Sharpness และ Character ในระดับที่จบหลังกล้องได้สบาย และแก้วคิดว่า คนทั่ว ๆ ไปน่าจะถูกใจได้ไม่ยาก

และ ถึงแม้จะไม่ได้มีโทนสีมาให้เลือกปรับ เหมือนกับแบรนด์อื่น ๆ แต่ realme ได้ใส่ Filter สี ในสไตล์ Film Look ที่เวลาใช้ถ่ายภาพแล้ว จะให้สีสัน และสไตล์ภาพเหมือนกล้องฟิล์มนั่นเอง โดยจะมี 3 แบบที่เป็น Highlight ได้แก่

Fresh : มีความสดของสีน้อยลง และมี Contrast ที่เข้มมากขึ้น สีไปทางโทนเย็น

Emerald : ส่วนเงาของภาพจะย้อมเป็นเขียวน้ำทะเล และ ส่วน Highlight จะออกเป็นสีม่วง

Clear : เวลาถ่ายจะกด Highlight ของภาพลง และ Contrast จะเข้มน้อยลงด้วย

MAIN CAMERA : กล้องหลัก 50MP | IMX906

สำหรับกล้องหลักของ realme GT7 Pro ตัวนี้ จะใช้ Sensor Sony IMX906 มีขนาดเล็กกว่า Sensor ในกล้องหลักของ realme GT6 Pro รุ่นที่แล้วอยู่เล็กน้อย ซึ่งแก้วแอบเสียดายอยู่เหมือนกันนะ เพราะรุ่นที่แล้วได้ใช้ LYT-808 ที่เป็นเทคโนโลยี Sensor ล่าสุดของ Sony เลย แต่ทาง realme บอกว่า IMX906 ตัวนี้ได้มีการ Custom ให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น และมี Performance ด้านวีดีโอที่ดีมากขึ้น ( ซึ่งดีขึ้นจริง ๆ เดี๋ยวไว้ไปพูดในพาร์ท Videography )

Dynamic Range ของภาพที่ได้จากกล้องตัวนี้ ถ้าเอาแบบไม่เปิด Auto HDR ขึ้นมาช่วย ถือว่าค่อนข้างดี จะเน้นไปที่การเก็บรายละเอียดในส่วนเงาเป็นหลัก ในบาง Shot ที่เราถ่าย เลยจะมีอาการ Highlight หลุดให้เราเห็นได้บ้าง

แต่เมื่อ เปิด Auto HDR ขึ้นมาช่วยแล้ว Dynamic Range ของภาพดีขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแสงยาก ๆ เช่น การถ่ายภาพย้อนแสง หรือ ใน Scene ที่มีส่วนเงาในภาพเยอะ ๆ ก็จะเฉลี่ยแสงในแต่ละย่านความสว่างออกมาได้ดีมากขึ้น

เนื้อไฟล์จากกล้องหลักของ realme GT7 Pro ตัวนี้ ถ้าในสภาพแสงปกติ ช่วงกลางวัน คือ ไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ คุณภาพไฟล์ดีมาก Software ในการวัดแสง และ White Balance ทำงานได้เป็นอย่างดี เวลาเรากดถ่ายภาพรัว ๆ สีสันของภาพก็ตรงสม่ำเสมอ ไม่มีเหลื่อมกัน สิ่งที่แก้วรู้สึกว่าดีขึ้นกว่าตอน realme GT6 คือ Detail ในส่วนพื้นผิวเล็ก ๆ ของภาพ เก็บรายละเอียดได้ดีมาก ไม่ได้ Process แบบเน้นภาพใส จน Detail ในจุดเล็ก ๆ ตรงนี้หายไปเลย

อีกหนึ่งจุดที่เป็น Character ของรุ่นนี้ คือ สีของภาพจะมีความ POP ขึ้นมา โดยเฉพาะ สีฟ้า สีเขียว และสีส้ม ทำให้ใครที่เป็นสายชอบภาพสีสด ๆ เอาไว้ถ่ายภาพตอนไปเที่ยว ถ่าย Landscape ที่มีท้องฟ้า มีต้นไม้เป็นส่วนประกอบ ไปจนถึงการร้านกาแฟ ร้านอาหาร ก็จะได้สีสันที่ดูน่ากิน

ส่วนในเรื่องของการถ่ายภาพละลายฉากหลัง ด้วยความที่ขนาด Sensor และรูรับแสง ต่างกันไม่มาก ความต่างของ Depth of field ที่เกิดขึ้นจะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่สิ่งที่ กล้องหลักของ realme GT7 Pro ได้เปรียบกว่ารุ่นที่แล้ว คือ ระยะในการโฟกัสใกล้สุดใกล้ขึ้นพอสมควร เพียงพอที่จะใช้การ Crop zoom 2x ถ่าย Macro ได้

PORTRAIT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพบุคคล

การถ่ายภาพ Portrait ใน realme GT6 เครื่องนี้ เราสามารถใช้งานได้ทั้งหมด 3 ระยะด้วยกัน ได้แก่ 1x | 2x | 3x โดยในระยะ 1x และ 2x จะเป็นการใช้กล้องหลัก และในระยะ 3x จะสลับไปใช้กล้อง Telephoto ที่ทาง realme ได้อัพเกรดเข้ามาใหม่ โดยจะใช้ Sensor เป็น IMX882 และรูรับแสง กว้าง f/2.65 ทำให้สามารถถ่าย Portrait ในที่แสงน้อยได้ดีมากขึ้นด้วย คุณภาพไฟล์ของภาพที่ออกมา ในทั้ง 3 ระยะ ถือว่าทำได้ดีทั้งหมดเลย สีสันในระยะ 1x | 2x จะเหมือนกัน 100% แต่ว่า สีของภาพ Portrait ในระยะ 3x จะมี Saturation หรือความสดของสีสัน ที่ต่ำกว่าเล็กน้อย แต่โทนสีที่ออกมา คือ ไปในทางเดียวกัน

ภาพ Portrait ใน realme GT7 Pro จะค่อนข้างมีความคล้ายกับ realme GT6 ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ก็คือ จะเน้นการ Process ออกมาที่ค่อนข้างสำเร็จรูป แต่จะพยายามคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้ และมีการใส่ Character ในเรื่องของโทนสีภาพที่จะดูมีความเป็น Film Look นิด ๆ

เวลาเราถ่ายภาพย้อนแสง Software HDR จะไม่ได้ขุดส่วนเงาขึ้นมามากนัก แต่จะพยายามรักษา รายละเอียดในส่วน Highlight ไม่ให้หลุดมากกว่า ทำให้ตอนถ่ายย้อนแสงภาพจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าตอน realme GT6 แบบรู้สึกได้

การทำ Bokeh Simulation หรือ การละลายฉากหลังด้วย Software ตัวเม็ด Bokeh จะให้ Shape ที่เป็นวงกลม ยิ่งเวลาเราไปถ่ายภาพใน Background ที่เป็นแสงลอดจากต้นไม้ หรือ กระสะท้อนจากผิวน้ำ Bokeh จะขึ้นง่าย และสวยงามดีทีเดียว

การตัดขอบละลายฉากหลัง ทำได้ค่อนข้างคม เห็นปลายเส้นผม และรายละเอียดเล็ก ๆ ตามเสื้อผ้าได้ดีเลย เวลาเราถ่าย Portrait ที่มีระยะฉากหลังไกล ๆ การไล่ระดับการเบลอ จะดูเป็นธรรมชาติ ถึงแม้เราจะเปิดการจำลองรูรับแสงกว้างถึง f/1.4 หรือกว้างสุด Software ก็จะคอยช่วยปรับให้อัตโนมัติ เพื่อไม่ให้ดูหลอกตาจนเกินไป

นอกจากการทำ Bokeh Simulation แล้ว ใน realme GT 7 Pro ตัวนี้ ได้มีการใส่ Feature ใหม่เข้ามา คือ ที่มีชื่อว่า Soft Light เป็นการจำลอง Mist Filter หรือ Filter ที่ให้แสงในภาพมีความฟุ้ง แบบที่เราเห็นได้ใน ภาพยนตร์ หรือ Music Video ต่าง ๆ และเขาให้มาถึง 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ Misty | Glowy | Dreamy ซึ่งทั้งระดับความฟุ้ง และสีสันจะต่างกันด้วยนะครับ

ซึ่งถ้าถามว่าแก้วชอบใช้อันไหนมากที่สุด ขอตอบเป็น 2 สถานการณ์ละกันนะครับ ถ้าอยู่กลางแจ้ง แดดแรงมาก ๆ จะชอบใช้ Dreamy แสงจะฟุ้งที่สุด ให้ฟีลภาพแบบ Summer ดีมีความนวล ๆ ชวนฝัน พอมารวมกับโทนสี ที่ดู Film Look นิด ๆ Mood ภาพที่ได้จะต่างจาก Portrait ในกล้องสมาร์ทโฟนในตลาดเลย Character ชัด

ส่วน Misty จะมีความฟุ้งกลาง ๆ เวลาถ่ายออกมาแล้ว จะช่วยลดทอนความเป็น Digital Sharpness ของภาพให้นุ่มนวลขึ้น แต่เส้น Outline ของสิ่งต่าง ๆ ในภาพจะยังมีความชัดเจนดีอยู่

ส่วน Glowy ก็จะมีความฟุ้งน้อยที่สุด ให้ Contrast ที่เข้ม และสีสันที่สดกว่า Filter Soft Light ตัวอื่นครับ

เวลาเราถ่ายภาพ Portrait ในช่วงที่แสงน้อย ทาง realme ได้ Upgrade Software ให้ Night Mode ทำงานร่วมกับ Mode Portrait ได้ด้วย ทำให้เวลาเจอที่แสงน้อย ก็ยังสามารถถ่ายภาพ Portrait ออกมาได้สว่าง สวยเหมือนเดิม ( ให้สังเกตรูปพระจันทร์ขึ้นที่มุมซ้ายของจอ ขณะถ่าย )

สำหรับแก้วเรื่องเดียวเลยที่อาจจะเป็น Issue ได้ก็คือ เมื่อเราถ่ายภาพ Portrait กลางแจ้งที่อากาศร้อน ๆ แล้วกด Snap รัว ๆ ทีละหลายภาพ จะมีบางภาพที่ Bokeh Software ประมวลผลออกมาพลาดได้บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณเส้นผม หรือจุดที่มีความซับซ้อน ตรงนี้ก็บอกไว้เป็นข้อพิจารณานะครับ

TELEPHOTO 3x กล้องเทเลโฟโต้ 50MP | IMX882

ก่อนอื่นเลย สิ่งที่แก้วอยากพูดถึงกล้อง Telephoto ตัวนี้ คือ Structure การวางเลนส์ จะไม่ใช่แบบ Periscope Telephoto แบบดั้งเดิม ที่เบ้าของเลนส์จะลึก และหน้าเลนส์ เป็นทรงเหลี่ยม ทาง realme ได้ Design โครงสร้างที่ใช้พื้นที่ในการวางโครงสร้างน้อยกว่าเดิม น้ำหนักเบากว่าเดิม ซึ่งนั่นแลกมาด้วย ระยะโฟกัสใกล้สุด จะไม่ได้ใกล้นัก อยู่ที่ประมาณ 2 ฟุต หรือ 60 ซม. ทำให้ใครที่คิดว่าจะเอาไปใช้ในการถ่ายภาพ Macro เอากล้องจ่อกับวัตถุนั้น ตัวนี้ทำแบบนั้นไม่ได้นะครับ

ซึ่งข้อพิจารณาของเลนส์ Telephoto ตัวนี้ ก็มีแค่นั้นแหละ ที่เหลือ คือ จัดว่าเด็ดเลย ! ใครที่เป็นคนชอบถ่ายภาพ ทิวทัศน์ | สถาปัตยกรรม | Street หรือ ภาพ Portrait ( ที่ได้เห็นกันไปแล้ว ) กล้อง Telephoto 3x ที่ใช้เซนเซอร์ตัวนี้ ถือว่าคุณภาพดีที่สุดเท่าที่ realme พัฒนาขึ้นมาแล้ว

เริ่มกันที่ตัวเซนเซอร์ ในกล้อง Telephoto 3x ตัวนี้ ใช้เป็น IMX882 ที่มีขนาดใหญ่กว่า และเทคโนโลยีการผลิตที่สูงกว่า ISOCELL JN5 ที่เคยใช้อยู่ในกล้อง Telephoto 2x ของ realme GT 6 รุ่นที่แล้ว ทำให้มี Dynamic Range ที่กว้างมากขึ้น แม้จะเปิด Auto HDR ก็ตาม และความเร็วในการลั่น Shutter ไม่มีอาการ Lag มากวนใจเลยครับ

และ เมื่อมาประกบคู่กับเลนส์ ที่มีค่ารูรับแสงกว้างใช้ได้เลย อยู่ที่ f/2.65 ทำให้การถ่ายภาพละลายฉากหลังทำได้ง่ายกว่าตอน realme GT 6 แบบหนังคนละม้วนเลย เราสามารถเล่นกับ Depth of field ที่ฉากหน้า และฉากหลังได้ง่ายมากขึ้น ภาพก็จะดูมีมิติมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องพึ่ง Software Bokeh เลยด้วยซ้ำ แต่เวลาถ่ายย้อนแสงอาจจะมี Chromatic Abberation ที่เป็นขอบเขียวให้เห็นได้บ้าง ในบางสภาพแสงนะครับ

และ อีกหนึ่งข้อดีที่หลายคนอาจจะลืมไป กล้อง Telephoto ที่เป็นโครงสร้างแบบ Periscope แบบเก่า มักจะมี Design หน้าเลนส์ที่เหลี่ยมกว่ากล้องตัวอื่น ซึ่งนั่นทำให้ เวลาถ่ายภาพออกมาแล้ว Bokeh ที่เกิดก็จะดูมีความเหลี่ยมไปด้วย แต่ Telephoto ตัวนี้ เราจะได้ Bokeh ที่กลมสวยกว่า ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ต้อง Trade off กันไป กับระยะโฟกัสที่ไกลขึ้นนะครับ

ระยะ Zoom ไกลสุดที่กล้อง Telephoto ตัวนี้ทำได้ คือ 120x ซึ่งจะมีใกล้เคียงกับเรือธง หลาย ๆ ตัว ที่ให้ระยะกล้องมา 5x แต่ระยะ Zoom ไกลสุดได้แค่ 100x ตอนแรกแก้วมีความคิดว่า ระยะ Zoom Lossless เต็มที่ ไม่น่าเกิน 10x แต่พอได้ลองใช้จริง จะอยู่ที่ 30x เลย และยังมีตัว Software ที่มาช่วยประคอง Frame ภาพให้นิ่งมากขึ้นด้วย ซึ่งดีกว่าตอน realme 12 Pro+ พอสมควรเลย

ซึ่งสาเหตุที่ทำได้แบบนั้นเพราะว่า เวลาที่เราถ่ายภาพแบบ Zoom ไกล ๆ ทะลุ 30x-50x ขึ้นไป realme ได้ใส่ AI ตัวหนึ่งเขามา โดยมีหน้าที่ในการทำ Pixel Reproduction เติมรายละเอียดให้กับภาพที่เราถ่ายแบบอัตโนมัติเลย ยิ่งในระยะ Zoom สุด 100x - 120x แก้วได้ลองถ่ายเทียบกับ เรือธงราคา 30,000 บาท บอกเลยว่า ตัวนี้สู้ได้สบาย

ULTRA ANGLE : กล้องมุมกว้าง 8MP | IMX355

ตอนนี้เราก็มาถึงกล้องที่ น่าจะเป็นข้อพิจารณาหลัก และน่าเสียดายที่สุดในสมาร์ทโฟนเครื่องนี้กันแล้ว ก็คือ กล้อง Ultra Wide Angle ที่ยังคงใช้ ตัวเดียวกับใน realme GT 6 นั่นก็คือ IMX355 ความละเอียดเพียงแค่ 8MP เท่านั้น โดยจะให้ Focal Length มาอยู่ที่ 16mm ซึ่งก็กว้างกลาง ๆ ไม่ได้กว้างมาก

องศาในการรับภาพของกล้อง UItra Wide Angle ตัวนี้ก็ไม่ได้กว้างอะไรมากนัก อยู่ที่ประมาณ 112 ํ เพียงพอที่จะสามารถถ่าย อาคาร ถ่ายสถาปัตยกรรม ให้ดูยิ่งใหญ่ขึ้นได้ Distortion จัดการมาได้ดี แต่ Chromatic Abberation ยังเจอขอบม่วงได้บ้าง ในตอนที่เราถ่ายภาพย้อนแสงตรง ๆ

คุณภาพไฟล์ ของกล้อง Ultra Wide Angle 8MP ตัวนี้ เอาจริง ๆ ไม่ต้องพูดอะไรกันเยอะ ก็ตามมาตรฐานของ Ultra Wide Angle 8MP ที่เราคุ้นเคยกันนั่นแหละ คือ ถ้าถ่ายภาพในสภาพแสงที่มันสว่างเพียงพอ ก็ใช้ได้นะ มี Dynamic Range ที่โอเค และ แก้วแนะนำให้เปิด Auto HDR เอาไว้ตลอด ภาพที่ออกมา ก็เอาไปใช้งานลง Social Media ตามปกติ แต่แน่นอนว่า Ultra Wide Angle 12MP หรือ 50MP อยู่แล้ว

โทนสีภาพของกล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้ ถือว่าทำออกมาได้ใกล้เคียงกับกล้องหลักพอสมควร สักประมาณ 90% สีสันสดพอ ๆ กับกล้องหลัก แต่ว่าในบางสภาพแสง White Balance ในกล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้ จะค่อนข้างไปทางสีโทนฟ้า กว่ากล้องตัวอื่นอยู่เล็กน้อย

LOW LIGHT PHOTOGRAPHY | การถ่ายภาพในที่แสงน้อย

ทีนี้เรามาต่อกันที่การถ่ายภาพในที่แสงน้อย ของ realme GT 7 Pro ตัวนี้กันเลยนะครับ สามารถใช้งาน Night Mode ได้ในกล้องทุกตัวเลย ตั้งแต่ กล้องหลัก | Telephoto | Ultra Wide Angle ไปจนถึงกล้องหน้า

ลักษณะในการ Process ไฟล์ภาพใน Night Mode ของ realme GT 7 Pro ตัวนี้ จะเน้นไปที่ความใสของภาพ และสีสันที่สวยงาม และมีการเติม Sharpness ให้ภาพดูคมเข้ามาพอสมควร ส่วนการ Boost ความสว่างขึ้นมานั้น จะเพิ่มในทุกช่วงความสว่าง และในระดับที่เท่า ๆ กัน ทำให้ภาพที่ออกมา ยังดูเป็นกลางคืนอยู่ ไม่ถูกเร่งความสว่างขึ้นมา จนผิดธรรมชาติ

ในเรื่องของคุณภาพไฟล์ แน่นอนว่ากล้องหลัก ที่ใช้ Sensor IMX906 นั้น ทำได้ดีที่สุดอยู่แล้ว Shutter เปิดไม่นาน ได้ความสว่าง ความคมกำลังดี สีสวย ตัว Software ในการจัดการจุดรบกวน จะทำงานในระดับที่พอเหมาะ ไม่ได้พยายามจะทำให้ภาพดูใส แต่สูญเสียรายละเอียดเล็ก ๆ ในส่วนพื้นผิว ซึ่งจูนมาดีกว่าตอน realme GT 6 แบบรู้สึกได้ถึงความต่าง

แต่ที่แก้วค่อนข้าง Surprise เลยนะ คือ Night Mode ในกล้อง Telephoto ที่นอกจากระยะเวลาในการลาก Shutter จะนานกว่ากล้องหลัก แค่นิดเดียวเท่านั้น คุณภาพไฟล์ และสีสันที่ออกมา คือ แทบจะเหมือนกัน เป็นอีกกล้อง Telephoto ที่ถ่ายกลางคืนเพลินมาก

กันสั่น OIS ในกล้อง Telephoto ก็ช่วยให้เราถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องกลัวว่าจะมี Motion Blur ถึงแม้ว่าจะยกถ่ายด้วยมือข้างเดียวแบบ Casual ก็ยังได้ภาพที่คมชัดอยู่

และ อย่างที่ทุกคน เดากันได้ไม่ยากครับ Night Mode ในกล้อง Ultra Wide Angle คือ คุณภาพไฟล์ ธรรมดาที่สุดเมื่อเทียบกับกล้องตัวอื่น แต่เราเอาไปเทียบกับ Ultra Wide Angle 8MP ในพวก Midrange ไม่ได้นะ เพราะ ISP ประมวลผลภาพใน Snapdragon 8 Elite มันช่วยได้เยอะพอสมควร ไฟล์ภาพจะใสกว่า สีสันออกมาดีกว่า

แต่ยังไงแก้วก็ขอแนะนำว่า ถ้าอยากถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้วยกล้อง Ultra Wide Angle จริง ๆ ให้เลือก Scene ที่มี แหล่งกำเนิดแสงอยู่บ้าง อาจจะเป็นแสงไฟอาคาร หรือ ช่วงก่อนที่ท้องฟ้าจะมืดสนิท จะให้ผลลัพท์ที่เรานำไปใช้งานจริงได้มากกว่า

นอกจาก Night Mode แล้ว realme ก็ยังใส่ Features ในการถ่ายภาพช่วงกลางคืนมาให้ ครบใช้ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น Mode Long Exposure ถ่ายน้ำตก ถ่ายเส้นไฟ โดยที่เราสามารถ จะปรับระยะเวลาในการเปิด Shutter ได้ และสามารถถือถ่ายด้วยมือเปล่าได้เลย ไม่ต้องพึ่งขาตั้งกล้องครับ

จากที่แก้วได้ลองใช้ในการถ่ายเส้นไฟมา ตั้งเอาไว้ที่ระยะเวลาสักประมาณ 4 - 5 วินาทีก็เพียงพอ สำหรับถนนที่รถขับเร็วกันสักหน่อย ความต่อเนื่องของเส้น อาจจะไม่ได้เนียนกริ๊บ แต่เพียงพอที่จะใช้ในการสร้างความน่าสนใจให้กับภาพของเราได้ครับ

อย่างภาพนี้แก้วถ่ายที่ Kuala Lumper ที่มุมสุดฮิต Petronas Twin Tower แก้วเปิด Long Exposure : Traffic Light ใช้เวลา 5 วินาที ก็ได้ภาพนี้ออกมาแล้วครับ นอกจากจะทำให้ได้เส้นไฟรถสวย ๆ ยังช่วยเคลียร์ความกวนตา ของรถ และคนจำนวนมาก ๆ ใน Frame ออกไปได้ด้วย

ไปจนถึงการถ่ายภาพดวงจันทร์ ที่เราไม่ต้องเปิด Mode อะไรแยกเป็นพิเศษเลยครับ แค่ Zoom ไปที่ดวงจันทร์ให้เห็น Shape ชัด ๆ Software และ AI ของกล้องก็จะ Process ให้เราเอง

RAW FILE PERFORMANCE : ประสิทธิภาพของ RAW FILE

เรามาต่อกันที่ RAW File Performance ของ realme GT 7 Pro ตัวนี้กันเลยนะครับ เราสามารถใช้งาน RAW File ได้ใน 2 รูปแบบด้วยกัน ก็คือ Sensor RAW และ RAW+ หรือ Computational RAW ซึ่งสามารถใช้งานได้กับกล้องหลังทุกตัว แม้กระทั่งกล้อง Ultra Wide Angle

RAW File ในกล้องหลัก มีคุณภาพไฟล์ดีที่สุด ทั้งในแง่ของ การเก็บ Dynamic Range และความยืนหยุ่นเมื่อนำมา Process ต่อ สามารถเก็บ Detail ในส่วน Shadow มาได้ดีมาก เวลาเราเอาไฟล์มาขุดต่อ โอกาสเกิด Noise ก็ค่อนข้างต่ำครับ แต่ในส่วน Highlight ถ้าเราวัดแสงมาไม่ดี โอกาสที่ Highlight จะหลุดก็มีโอกาสเช่นกัน พยายามวัดแสงในจุดที่ความสว่าง กลาง ๆ ไม่มืดไป ไม่สว่างไป

สิ่งที่แก้วชอบใน RAW+ ของ realme คือ ถึงแม้จะเป็น Computational RAW ที่มีการใช้ Software Process ช่วย ในบางแบรนด์จะมีการเกลี่ย Noise ออกไปมากจนเกินไป ทำให้ภาพสูญเสียรายละเอียดเล็ก ๆ แต่ realme Balance ตรงนี้มาได้ดี เน้นขยาย Dynamic Range เป็นหลักมากกว่า และ ขนาดไฟล์ RAW โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 30mb ซึ่งถือว่าใหญ่พอตัวสำหรับ Resolution 12MP

ทีนี้มาดู RAW File ในกล้อง Telephoto กันบ้างครับ อันนี้มีจุดที่ ทำได้ดีมาก และจุดที่คิดว่า ทาง realme สามารถปรับให้มันดีกว่านี้ได้ . . . เรื่องที่ดีก็คือ ทั้งคุณภาพไฟล์ รายละเอียดเล็ก ๆ ไปจนถึง Dynamic Range ของกล้องตัวนี้ แทบจะไม่ต่างจากกล้องหลัก จูน IMX882 ออกมาได้ดีจริง ๆ เอาไปถ่ายภาพ Landscape ที่มีช่วงความต่างของแสงมากๆ แล้วมาขุดไฟล์ที่หลังได้สบาย

นอกจากนั้น เราเห็นว่า Setup กล้องมี Telephoto ตัวเดียวใช่ไหมครับ ? แต่เวลาเราใช้ RAW File เรากลับมี ระยะ Telephoto ให้ใช้ถึง 2 ระยะด้วยกัน ก็คือ 3x | 6x ซึ่งตอนแรกแก้วคิดว่า ต่อให้เลือก 6x ไปถ่ายออกมาก็น่าจะเป็น 3x แหละ . . แต่พอถ่ายจริง อ้าว 6x ใช้งานได้จริงเฉย แล้วเวลาเอามา Process ต่อ ไม่ได้รู้สึกว่าคุณภาพไฟล์ ลดลงไปจาก 3x เลย ข้อนี้ Surprise มากครับ

แต่จุดที่รู้สึกว่าอยากปรับให้ดีกว่านี้อีกนิด คือ ความแม่นยำของ Auto White Balance คือ โอเคแหละว่า RAW File มันเอามาแก้อุณหภูมิสีที่หลังได้ก็จริง แต่ไฟล์ต้นทาง สีสันมันแอบต่างจากกล้องหลักเยอะพอสมควร จะมีความอมเขียวนิด ๆ อยู่ตลอด ทั้งที่ใน Mode Auto ปกติที่เป็นไฟล์ JPEG ตัว White Balance ยังตรงกันได้ RAW File ก็ควรจะได้เหมือนกัน

ส่วน RAW File ในกล้อง Ultra Wide Angle แก้วขอให้ทุกคนไม่ต้องไปคาดหวังกับมันเยอะนะ ถ้าถ่ายในที่ที่แสงดี ๆ ก็ออกมาโอเค Process ต่อได้ดีประมาณหนึ่ง มีการจัดการ Distortion มาให้แล้วในเบื้องต้น

แต่ถ้าจะถ่ายย้อนแสง หรือถ่ายภาพใน Scene ที่มีความต่างระหว่างแสงเยอะ ๆ ไม่แนะนำเลยครับ เพราะนอกจาก Noise ในส่วนเงาจะมีทั้ง Luma Noise และ Color Noise แล้ว เวลาเอามาขุดจริง ๆ รายละเอียดที่ได้มันก็ไม่คมชัดอะไรนัก อย่างว่าแหละ IMX355 ความละเอียด 8MP มันไม่พอแล้วในยุคนี้

FRONT CAMERA : กล้องหน้าความละเอียด | 16MP

ทีนี้เรามาต่อกันที่กล้องหน้า ของ realme GT 7 Pro กันบ้างนะครับ โดยจะมีความละเอียด 16MP และรูรับแสงกว้าง f/2.2 องศาในการรับภาพ ไม่แคบ แต่ก็ไม่ได้กว้างมากนัก อยู่ในระดับกลาง ๆ ถ้าเราต้องการ Selfie ให้ได้มุมมองสักครึ่งตัว หรือ Selfie กับเพื่อนก็อาจจะต้องยื่นแขนออกไปไกลเกือบสุดแขนเหมือนกัน

คุณภาพไฟล์ในกล้องหน้าตัวนี้ ไม่ได้รู้สึกแตกต่าง หรือด้อยกว่า กล้องหน้า 32MP ใน realme GT 6 แต่อย่างใด Detail ส่วนผิวก็เก็บมาได้ครบถ้วนดี ส่วน Dynamic Range ในกล้องหน้าค่อนข้างน่าประทับใจเหมือนกันครับ ซึ่งเอาจริง ๆ ไม่ได้คาดหวังว่า Hardware ประมาณนี้จะทำได้ดี แก้วคิดว่า realme น่าจะใช้ Software ช่วยเยอะ

ฟีเจอร์ Soft Light ที่ให้ฟีลฟุ้ง ๆ นวล ๆ ก็มีให้เราเลือกใช้งานในกล้องหน้าด้วย และในเรื่องของการ ตัดขอบละลายฉากหลัง ถึงแม้อาจจะยังตัดไม่ได้กริ๊บ และไม่ได้ไล่ระดับสวย เท่า Mode Portrait จากกล้องหลัง แต่ทำได้ดีขึ้นกว่าตอน realme GT 6 แน่นอน

Skintone ในกล้องหน้าของ realme GT 7 Pro ตัวนี้ ค่อนข้างจะต่างจากกล้องหลังอยู่นิดหน่อย คือ Contrast และ ความสดของสีในกล้องหน้า จะไม่ได้เข้มมาก ให้ความรู้สึกดูเป็นธรรมชาติมากกว่า Software Beauty Mode ก็ให้มาค่อนข้างครบ ตั้งแต่ ปรับหน้าเรียว ผิวเนียน ปรับแต่งได้เยอะพอสมควร

VIDEOGRAPHY : การถ่ายวีดีโอ

การถ่ายวีดีโอของ realme GT 7 Pro ตัวนี้ Resolution สูงสุดที่เราถ่ายได้ก็คือ 8K 24fps ในกล้องหลัก เท่านั้น และใช้ 4K 60fps ได้ในกล้องหลัก และกล้อง Telephoto ส่วนถ้าต้องการใช้กล้อง Ultra Wide Angle Resolution จะลดลงไปอีก อยู่ที่ Full HD 30fps เท่านั้น

สิ่งที่ทาง realme Upgrade เรื่อง Video ขึ้นมาเยอะมาก ๆ คือ การทำงานของ Software ช่วยเหลือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายแบบ HDR ที่รองรับ Dolby Vision หรือจะเป็น Software กันสั่นพิเศษ ที่ช่วยเพิ่มความนิ่งให้กับ Video ทั้ง 2 อย่างนี้ สามารถเปิดใช้งานได้ใน Resolution 4K 60fps ในกล้องหลัก และกล้อง Telephoto 3x ซึ่ง realme ไม่เคยให้ประสิทธิภาพการถ่าย Video สูงขนาดนี้มาก่อน

Bitrate ของ Video 4K จะอยู่ที่ประมาณ 42mbps - 50mbps ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว การ Process เนื้อไฟล์ Video เป็นอีกจุดที่ realme มาถูกทางแล้ว การบีบอัด หรือ Compress ไฟล์น้อยกว่าตอน realme GT 6 มาก ๆ ไปจนถึง ไม่ได้มีการ อัด Sharpness เพื่อเพิ่มความคมให้กับภาพมากจนเกินไป ความยืดหยุ่นของไฟล์ เวลาเอาไป Grading สีต่อ ก็ถือว่าโอเคเลย


จุดที่แก้วแอบเสียดาย ก็คือ ใน Mode ภาพยนตร์ ที่เราสามารถตั้งค่ากล้องได้เอง ปรับ ISO ปรับ Shutter Speed แต่ดัน Lock อัตราส่วน Video เอาไว้เป็น 21:9 ซึ่งโอกาสจะได้ใช้มันน้อยมาก อยากให้ปรับเป็น 16:9 ได้ด้วยจะดีมากๆ เลยครับ

PERFORMANCE : ประสิทธิภาพตัวเครื่อง

สำหรับ Performance ตัวเครื่องในการใช้งานจริงของ realme GT 7 Pro เครื่องนี้ ที่มีขุมพลังเป็น Snapdragon 8 Elite ตัวแรกที่วางจำหน่ายในไทยตัวนี้ สำหรับการใช้งานทั่วไป คือ ไม่มีอะไรจะต้องพูดกันเยอะ สามารถใช้งาน Daily use ทั่ว ๆ ไปได้ลื่นไหลดี ไม่มีปัญหาอะไรเลย หรือ สำหรับ Creator แบบแก้วก็จะใช้ App พวก Canva , Lightroom Mobile , Capcut ก็ใช้งานได้ลื่นไหลไม่ได้รู้สึกหน่วงแต่อย่างใด เวลาแก้วแต่งภาพไฟล์ RAW บน Lightroom การ Preview ภาพก็ขึ้นเร็วมาก

ทีนี้ ประสิทธิภาพในการรับสัญญาณของ realme GT 7 Pro ตัวนี้ | การรับ Wifi ทำได้ดีมาก ๆ ทั้ง Speed และความเสถียร ต่อให้แก้วจะอยู่ห่างจาก Router หนึ่งชั้น แล้วต่อ Wifi ที่เป็น 5G ที่ปกติการกระจายสัญญาณจะไม่กว้างมากนัก แต่ตัวนี้ก็สามารถจับได้ดี

การจับสัญญาณ 5G จับได้ดีมาก แม้จะอยู่ในอาคารที่ปิดทึบ ถ้าไม่ได้อยู่ใต้ดิน จะได้สัญญาณที่เต็มตลอดเวลา ไปจนถึงเรื่องของการใช้งาน GPS ในการนำทางนั้น Response รวดเร็ว แม่นยำ ใครเอาไปใช้เปิด Map เดินทางบ่อย ๆ ตัวนี้สบายใจได้

มาถึงเรื่องที่เป็นทีเด็ด ของ realme GT 7 Pro ตัวนี้แล้ว ก็คือ การเล่นเกมนั้นเองครับ แก้วได้ทดสอบจากเกมที่แก้วเล่นอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Diablo Immortal | Zenless Zen Zero | Need for Speed : No Limit | Gran Blue เราสามารถปรับ Graphic Setting ได้ในระดับสูงสุด และ Frame Rate สูงสุดเช่นกัน โดยที่ไม่จำเป็นต้องเปิด GT Mode ขึ้นมาด้วยซ้ำ

อย่างเกมล่าสุดที่เพิ่งลง Server Global อย่าง Gran Blue ที่เป็น MMORPG และ ก่อนหน้านี้เครื่อง Spec ไม่แรงจะเจอปัญหา Frame Rate Drop เสมอ แต่กับ realme GT 7 Pro ที่ต่อให้เราปรับ Graphic Setting สูงสุด ยังเหลือ Device Load อีกเพียบ ทำให้การเล่นต่อเนื่องทำได้สบาย ๆ ใช้ Battery ต่อชั่วโมงที่ประมาณ 9% เท่านั้น

Response ของหน้าจอก็รวดเร็วดี พอมาเป็นหน้าจอแบบ Micro Curved ก็ช่วยลดอาการลั่นตามขอบจอลงไปได้เยอะ หรือ ใครที่ชอบต่อกับ Joy Stick ที่เป็น Bluetooth แก้วได้ลองแล้ว อาการ Delay ไม่รู้สึกเลย ใช้เล่นพวกเกม Action RPG หรือ เกม Racing ได้แบบเนียน ๆ ให้ประสบการณ์ที่ดี

หลังจากที่แก้วลองเล่นเกม หลาย ๆ เกม ที่เป็น 3D MMORPG Graphic สูง ๆ ต่อเนื่องหนึ่งชั่วโมง ในห้องที่ไม่ได้เปิดแอร์ เปิดแต่พัดลมเท่านั้น อุณหภูมิสูงสุดที่เจอ จะอยู่ที่ประมาณ 44 ํC โดยที่อาจจะเจอ Frame Rate ตกได้เล็กน้อย เฉลี่ย 2-3 เฟรมเท่านั้น สายตาเราสังเกตยาก แยกไม่ค่อยออกเท่าไหร่

BATTERY LIFE & SCREEN ON TIME

การจัดการ Battery และ Screen on time ของ realme GT 7 Pro หลังจากผ่านการอัพเดต Software มาแล้ว 1 ครั้ง และ ใช้งานต่อเนื่องมา 2 สัปดาห์ จนตัวเครื่องได้เรียนรู้ลักษณะการใช้งานของเราแล้ว ถือว่าทำได้ดีมากทีเดียว ถ้าเป็นวันที่เราใช้งานทั่วไป เน้นใช้งานในที่ร่ม ไม่ได้ใช้แสงหน้าจอเยอะ Battery SOT ที่ทำได้ คือ 8 ชั่วโมง กลาง ๆ แต่ถ้าเราใช้งานหนัก เล่นเกมเยอะ จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7 ชั่วโมงกลาง ๆ ครับ ไม่ต้องกังวลไปว่า Snapdragon 8 Elite ที่แรงขนาดนี้ จะกินแบตเตอรี่ตลอดเวลา Software ในการบริการจัดการ Battery ทำมาดีทีเดียวครับ

OVERVIEW & OPINION

สำหรับแก้วแล้ว realme GT 7 Pro เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ มีศักยภาพจะตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายได้ครอบคลุม แม้จะ Positioning เป็นเรือธงสาย Performance ก็ตาม ขุมพลังที่ใช้ขับเคลื่อน realme GT 7 Pro เครื่องนี้ ก็คือ Snapdragon 8 Elite ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่เปิดตัว และวางจำหน่ายในประเทศไทยก่อนใคร . . แน่นอนว่าหลายคนคงกังวลเรื่องความแรง ที่มาพร้อมความร้อน

ซึ่งเรื่องนี้ ทาง realme ก็ให้ความสำคัญ และทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ด้วยการขยาย vapor chamber ให้มีขนาดใหญ่ 11480 ตารางมิลลิเมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดในอุตสหกรรม ณ เวลานี้แล้ว และ หลังจากที่ได้ใช้งานมาแล้ว 3 สัปดาห์เต็ม ๆ สิ่งที่เห็นก็คือ Software ในการบริหารจัดการทรัพยากร และ ประสิทธิภาพตัวเครื่องทำงานได้ดีมาก ตอนใช้งานเบา ๆ เล่น Social ดูหนัง ฟังเพลง GPU / CPU ทำงานแค่ 10% - 15% เท่านั้น ความร้อนก็จะไม่เยอะ ใช้แบตเตอรี่น้อย


ส่วนเมื่อต้องการรีดศักยภาพออกมา ใช้ในการประมวลผลในการทำงานหนัก ๆ เช่น การตกแต่งภาพ การตัดต่อ Video ไปจนถึงการเล่นเกม ก็จะปลดปล่อยประสิทธิภาพที่แท้จริงออกมา แก้วลองเอาไปเล่นเกม Mobile AAA ไม่ว่าจะเป็น Zenless Zen Zero | Wuthering Waves | Diablo Immortal | Gran Saga ได้กราฟิก Setting ระดับสูงสุด โดยที่ Device Load ยังเหลือด้วยซ้ำ ทำให้เวลาเราเล่นเป็นระยะเวลานาน ๆ ความร้อนสะสมก็จะไม่เยอะ ช่วยให้ได้ Frame Rate ที่นิ่ง และปริมาณแบตเตอรี่ที่ลดลงอย่างสมเหตุสมผล พูดง่าย ๆ ก็คือ แบตไม่ไหลนั่นแหละ


ส่วนในเรื่องของกล้อง อันนี้ต้องพูดกันตามตรงว่า ถึงแม้จะมีบางจุดที่ คิดว่า realme น่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อีกว่า สิ่งที่ให้มีในรุ่นนี้ ศักยภาพมันก็เกินคาด และดีกว่าสมาร์ทโฟนหลาย ๆ ตัวในระดับราคาเดียวกันด้วยซ้ำ ทั้งเรื่องของการถ่ายภาพ Portrait ที่ไฟล์ดี ละลายหลังสวย ยังมีการใส่ Filter Softlight มาทำให้ภาพดูนวลตามากขึ้นอีกด้วย หรือ ใครที่เป็นสาย Pro แก้วบอกเลยว่า ได้ลองไฟล์ RAW+ ในกล้องหลัก และ Telephoto จะติดใจ รายละเอียด และ Dynamic Range สายขุดไฟล์สนุกแน่นอน ไปจนถึง งาน Video นี่คือรุ่นที่ ถ่ายวีดีโอ ดีที่สุดแล้วจาก realme ถ่าย 4K 60fps แบบ HDR พร้อมเปิดกันสั่นพิเศษ ได้ในกล้องหลัก และ Telephoto กันสั่นก็ดีขึ้นมาก ๆ อาจจะยังมีเรื่องโฟกัสในกล้อง Telephoto ที่อยากให้ปรับ Response ให้ทันใจกว่านี้นิดหนึ่ง นอกนั้น โอเคแล้ว

ราคาวางจำหน่าย realme GT 7 Pro

realme GT 7 Pro วางจำหน่ายเพียงความจุเดียว เท่านั้น ก็คือ RAM 12GB + 512GB และสีตัวเครื่องสีเดียวเช่นกัน ก็คือ สี Mars Orange ในราคา 29,999 บาท เท่านั้น และ พิเศษ! Exclusive เฉพาะช่องทาง Shopee ในวันที่ 18 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม และ หากสั่งซื้อในวันที่ 18 - 25 พฤศจิกายน รับทันที Voucher ลดสูงสุด 2,000 และ realme Buds Air 6 มูลค่า 1,999 บาท

 

[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ] Fanpage : https://www.facebook.com/mobile.fotographer    IG : kaew.ravie #Mobilephotographer #โมบายโฟโตกราฟเฟอร

0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page