top of page
  • รูปภาพนักเขียนแอดมินแก้ว

Redmi Note 10S รุ่นสุดคุ้ม กล้องดีใกล้รุ่นพี่ พร้อมจอ AMOLED และชาร์จไว 33W

เรียกได้ว่า ออกกันไม่หยุดเลยนะครับ สำหรับ Smartphone จากทาง Redmi และวันนี้แก้วก็ได้อีกรุ่นหนึ่งมาอยู่ในมือแล้วครับ นั่นก็คือ Redmi Note 10S น้องคนกลาง ที่กล้องดีไม่แพ้พี่ และ CPU เอาเรื่องกว่ารุ่นน้องเยอะเลยทีเดียว

Redmi Note 10S Specification
  • AMOLED DotDisplay กว้าง 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ Screen Brightness 1100 นิต, Contrast ratio 4,500,000:1

  • CPU : MediaTek Helio G95 Octa Core ความเร็ว 2.05GHz

  • GPU: ARM Mali-G76 MC4

  • RAM 8GB LPDDR4X

  • ROM 128GB UFS 2.2

  • Operation System Android 11 with MIUI 12.5 ( ตัวล่าสุด )

  • ใส่ NanoSIM ได้ 2 ซิม

  • Wi-Fi 2.4G + 5G, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C

  • Battery Capacity 5000mAh รองรับ 33W Fast Charge (แบตอย่างโหด)

Design งานออกแบบ

มันก็ยังให้ความสวยงาม หรูหรา ไม่ต่างจาก Redmi Note Series ตัวอื่นๆ สีที่แก้วได้มานี้เป็นสี Onyx Grey ซึ่งจริงๆ ยังมีให้เลือกกันอีก 2 สี คือ Pebble White และ Ocean Blue สวยหมดเลยทุกสี ฝาหลัง ค่อนข้างจะเกิดรอยน้ำมือได้ยาก ตัวผิวสัมผัสฝาหลัง ไม่ได้ลื่นมาก ทำให้บางที จะมีฝุ่นติดบริเวณ โมดูลกล้องอยู่บ้าง ต้องคอยทำความสะอาดบ้าง

ปุ่ม Power และ ปุ่ม Volume Up-Down จะอยู่ทางด้านขวา จะเห็นว่าตัวเครื่องค่อนข้างบาง และน้ำหนักเบาเพียง 178 กรัมเท่านั้นเอง สามารถจะจับถือได้สะดวกแน่นอนครับ

Port การเชื่อมต่อด้านล่างก็จะเป็น USB-C และมีช่อง Aux 3.5mm มาให้ด้วยนะครับ แถมรุ่นนี้ มีลำโพงคู่มาให้บนล่างเลยนะครับ เสียงดัง มิติเสียงกลางๆ Bass พอใช้ได้ ดูหนังฟังเพลงได้เพลินๆ เลยละครับ

Display หน้าจอ

หน้าจอ AMOLED DotDisplay ขนาด 6.43 Inches ในระดับราคาแค่ 7 พันกว่าบาท ก็ได้หน้าจอ AMOLED มาใช้ละนะ Redmi จัดให้ ถึงแม้ Refresh Rate จะยังเป็น 60 Hz อยู่ แต่ความละเอียด และคุณภาพจอ เนี่ย ดีงามมากครับ

ตัว Auto Brightness สามารถปรับแสงหน้าจอให้เหมาะกับแสงในห้องได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ

หรือเวลาที่จะต้องเอาออกไปถ่ายภาพ ไปสู้ แดดที่สว่างมาก พอเป็นหน้าจอ AMOLED สู้แสงได้สบาย

Camera กล้องถ่ายภาพ

เรียกได้ว่าสิ่งที่ชูโรงให้รุ่นนี้ ก็คือชุดกล้องหลัง 4 ตัว ที่มีความคล้ายคลึงกับรุ่นพี่อย่าง Redmi Note 10 Pro เพราะได้กล้องหลักที่ความละเอียดสูงสุดมาถึง 64MP กันเลยทีเดียว น้อยกว่ารุ่นพี่ก็จริง แต่ประสิทธิภาพ คุ้มราคาทีเดียว

  • Main Camera 64MP f/1.79

  • Ultra-Wide Angle 8MP f/2.2 มุมมองกว้าง 118 องศา

  • Macro 2MP f/2.4

  • Depth 2MP f/2.4

กล้อง 64MP ใน Redmi Note 10S

อย่าได้ไปดูถูกมันเชียวครับ ในแง่ของการใช้งานเนี่ย ตัวหนังสือเล็กๆ ไกลๆ ยังสามารถเก็บรายละเอียดมาได้ คมชัด อ่านออกทุกตัวอักษร นี่ขนาดถ่ายในวันที่แสงไม่ค่อยดีนะครับ เลยจะมี Noise ให้เห็นบ้าง แต่ไม่ได้ ส่งผลต่อการใช้งานภาพเลย

จุดเด่นของกล้องตัวนี้ คือ Dynamic Range และความคมชัด โดย Character ของ มันคือการใช้ HDR ลด Highlight ในภาพลง แต่ไม่ได้ ดึง Shadow ขึ้นมานัก ทำให้ได้ภาพที่มีรายละเอียด ครบ แต่ไม่ดูแบนจนเกินไป ยังมีความลึกของเงาให้เห็นบ้าง

ความคมของภาพในกล้องหลัก ก็คือไม่ต้องเป็นห่วงเลย จะเปิด 64MP หรือไม่ ก็ยังคุณภาพไฟล์ดี

รวมไปถึง Distortion ในกล้องหลักตัวนี้ ทำได้ดีมากทีเดียว จะมีเรื่องโทนสี แต่แอดมินว่า น่าจะมาจาก Software Auto White Balance ไม่ค่อยแม่นยำนัก บางครั้งเหลือง บางครั้งไปเจอแสงอีกแบบ ก็จะฟ้าไปบ้าง ถ้าไม่ได้ติดใจตรงนี้ มันสามารถแก้ไขได้ทีหลังเมื่อถ่ายมา ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรครับ

มาดูภาพจากกล้อง Ultra Wide Angle กันบ้าง

ด้วยความกว้างของเลนส์ ที่กว้างถึง 118 ํ นั้น ทำให้ Shot เดียวเก็บรายละเอียดมาได้กว้างมาก ในส่วนของ Distortion และ Perspective ของกล้อง โดยรวมแล้ว ค่อนข้างดีเลยทีเดียว จะมีอาการขอบโค้งได้เล็กน้อย ถ้าไม่ซูมดูจริงๆ จังๆ จะสังเกตไม่เห็น

ลองสังเกตเส้นของฝ้าอาคารในภาพ จะเห็นว่า เส้นต่างๆ มีความตรง เห็นรายละเอียดเส้นได้ดี ไม่เบี้ยว

ถึงจะมีความละเอียดแค่ 8MP แบบ Fix Focus แต่ก็สามารถที่จะถ่ายภาพมุมกว้างออกมาได้สวยงาม มีข้อสังเกตเล็กน้อยก็คือ หากสภาพแสงค่อนข้างจะพอดีอยู่แล้ว และเราไม่ได้ถ่ายย้อนแสง ตัว HDR จะทำงานบ้าง ไม่ทำงานบ้าง ในกล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้ อันนี้ทางแอดมินเองไม่ทราบว่า เกิดจากอะไร

หรือ บางวันโดยเฉพาะหน้าฝนแบบตอนนี้ พอถ่ายรูปมาเสร็จ เราก็มาเปลี่ยนท้องฟ้าสวยๆ แบบนี้ใส่เข้าไปแทนก็ได้ครับ เป็นการแก้ปัญหา ซึ่งแก้วถือว่าทำได้ค่อนข้างเนียนอยู่นะครับ ดูไม่ออกเลยจริงๆ

ขอควรระวังในการใช้ กล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้คือ ในช่วงเวลาแสงน้อย หรือเย็นๆ เนี่ย โอกาสจะเกิด Noise ได้ค่อนข้างชัดเจน แต่จะเกิดเฉพาะในส่วนที่เป็นเงามืด หรือบริเวณที่ Software พยายามจะใช้ HDR ดึงแสงขึ้นครับ

ภาพ Portrait และกล้องหน้า

Redmi Note 10 Series ทุกตัว เป็น Smartphone ที่สามารถถ่ายภาพ Portrait ออกมาได้ดูดีหมดเลย เรื่องการละลายฉากหลัง ที่มีการไล่ระดับการเบลอที่เป็นธรรมชาติ การตัดขอบทีเนียนมาก แบบ เห้ย นี่มือถือ ไม่ถึงหมื่นจริงหรอ ?

แต่ในรุ่น Redmi Note 10S เนี่ย มีข้อสังเกตในเรื่องของ Skintone ที่จะเปลี่ยนไปตามสภาพแสงตอนเราถ่ายค่อนข้างเยอะ น่าจะมาจาก Software ของ White Balance นี่แหละที่เป็นเหตุ แต่ Beauty Mode ในรุ่นนี้คือ หายห่วงครับ Skintone สวย เนียน เป็นธรรมชาติ

เวลาเจอองค์ประกอบที่ซับซ้อนในภาพ บางครั้งจะมีอาการ เก็บรายละเอียดในเบลอ ฉากหลัง หลุดรอดออกไปบ้าง จริงๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเราสามารถมาปรับแก้ไขทีหลังเพื่อความเนียนได้ แต่อยากให้สังเกตเรื่อง Skintone ครับ เปลี่ยนไปอีกสีหนึ่งอีกละ

พอเป็นกึ่งๆ ย้อนแสง ก็จะมีสีไปอีกทางหนึ่ง แต่สิ่งที่ตัวนี้ทำได้ดีคือ Dynamic Range ในส่วนของตัวแบบ จะ Highlight จะ Midtone , Shadow ก็ยังมีรายละเอียดอยู่ ไม่ได้หลุดมืด หลุดสว่างไปเลย

พอมาเจอแสงภายในอาคารก็จะออกเหลืองๆ เลย ข้อนี้ต้องตัดสินใจกันเอาเองว่าชอบไหม หรือรับได้หรือเปล่า เพราะจริงๆ แล้ว มันสามารถมาตกแต่งทีหลังได้ก็จริง แต่ Skintone จะปรับค่อนข้างยากครับ

Filter ขาวดำของ Xiaomi เนี่ย ตั้งแต่ตอนทำรุ่น Redmi Note 10 5G ละ ชอบภาพ Mood ดี

ในส่วนของกล้องหน้า 13MP ก็ถือว่าทำได้ดีเกินคาดเลย ตัดขอบเนียนมาก เห็นผมเป็นเส้นๆ เลย Skintone ดีกว่ากล้องหลัง Mode Portrait อีก อะไรกันครับเนี่ย ชอบความ Beauty ที่มันดูเป็นธรรมชาติดี

Contrast Skintone กำลังดี แถมโบเก้ในฉากหลัง กลมสวยงามมากทีเดียว

เก็บขอบเนียนมาก ผมนี่เป็นเส้นๆ เลย ขนาดสภาพแสงไม่ได้เอื้ออำนวยมาก อย่างภาพนี้ถ่ายในร้านอาหาร มีแค่แสงไฟในร้านเท่านั้น สีผิว ความคม การเก็บขอบฉากหลัง ทำได้ยอดเยี่ยมเลย

กล้อง Macro 2MP ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก แต่ถือว่าใช้งานได้ เฉลี่ยแสงได้ดี โฟกัสได้โอเค และยังสามารถ Digital Zoom เข้าไปได้อีก เป็น 2x ด้วยนะครับ

แต่ก็อย่างที่บอกไปในหลายๆ ครั้งคือ ใช้กล้องหลัก กด Digital Zoom 2x หรือ เปิด 64MP แล้วเอามา Crop ทีหลัง จะได้รายละเอียด และความคมที่ดีกว่ากล้อง Macro Camera อย่างแน่นอนครับ

เอามาให้เปรียบเทียบกันชัดๆ ครับ ถึงแม้ว่าจะ ระยะโฟกัสใกล้แค่ 4cm แต่คุณภาพ Pixel มันไม่ดีเท่าไหร่

Night Mode ภาพกลางคืน

ในช่วงหัวค่ำ ที่สภาพแสงยังไม่ได้ Drop ลงไปมากนัก เรายังพอเห็นรายละเอียดในภาพได้ดี ในการถ่าย Night Mode พวกจุดรบกวน หรือ Noise ก็ยังไม่ได้เยอะอะไร

ใน Night Mode ของ Redmi Note 10S นั้น จะเน้นไปในเรื่องของการดึงแสงในที่มืดขึ้นมาให้ได้ความสว่างที่พอดี แต่ส่วน Highlight ในภาพนั้น จะไม่ได้ลดลงมามากนัก และ สามารถใช้ได้แค่กล้องหลัก เท่านั้นนะครับ

ในสภาพแสงที่มืดมากๆ ตัว Night Mode ไม่ได้พยายาม ดึงแสงในส่วนเงามืดขึ้นมามากจนเกินไป แต่เป็นการเติมแสงในส่วนที่มีอยู่แล้ว และเฉลี่ยมันออกมาให้ได้ค่ากลางๆ ใครที่ชอบ Night Mode แบบ กดปุ๊บสว่างปั๊บ อาจจะไม่ได้ถูกใจมากนักครับ

Night Mode ของ Redmi Note 10S ไม่ได้อัด Sharp กับ Clarity เข้าไปมาก แต่จะมี Noise Reduction ที่สูงในระดับหนึ่ง ทำให้ในบางโอกาสเราจะเห็นว่าจะมี วุ้นๆ เกิดขึ้นในภาพได้บ้าง

Video Quality | งานวีดีโอ

กล้องหลังสามารถถ่าย Video ได้ความละเอียดสูงสุด 4K 30 fps แต่แนะนำว่า 1080p 60 fps จะดีกว่าครับ ส่วนถ้าอยากจะเปิด EIS หรือกันสั่น จะถ่ายได้แค่ 1080p 30 fps เท่านั้นครับ คุณภาพก็อยู่ในระดับที่ใช้งานได้เลย

กล้องหน้าก็ถือว่ากันสั่นค่อนข้างใช้ได้เลย แต่ตัว Auto Brightness อาจจะไม่ได้เก่งมาก เวลาปรับขึ้นปรับลง อาจจะมี แสงกระตุกๆ ให้เห็น ไม่ได้เนียน Smooth เหมือนรุ่นแพงๆ ของทาง Xiaomi

ในมุมของการเอามาเล่นเกมนั้น ด้วยความที่ CPU ที่จัดให้มา มันเป็น MediaTek Helio G95 ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการเล่นเกม ค่อนข้างมาก สำหรับเกม Project A3 นั้น จะปรับ Framerate ได้สูงสุด แต่ Graphic จะอยู่ที่ไม่เกิน Medium , Resolution Medium แต่ลื่นดีครับ โอเคเลย

Battery 5,000 mAh และ Fast Charge 33W ช่วยให้ มันน่าใช้มาก เพราะใช้งานได้ตลอดทั้งวัน แล้วยังสามารถที่จะชาร์จแบตกลับเข้าไปได้อย่างค่อนข้างรวดเร็วทีเดียว

Opinion & Overview

สำหรับแก้วแล้ว มองว่า นี่คือการออกมาอุดช่องว่างระหว่างรุ่น ที่น่าจะโดนใจใครหลายคนทีเดียว ที่มองว่า Redmi Note 10 5G หรือ รุ่นธรรมดา มันตอบสนองได้ไม่พอ แต่ก็ไม่ได้อยากจ่ายเงินไปเท่ากับรุ่น Redmi Note 10 Pro 5G ทำให้ Redmi Note 10S ที่ราคาแค่ 7,499 บาท แต่ได้ Spec ใกล้เคียงรุ่นพี่มาก เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย


ทั้งเรื่องของกล้อง เรื่องของ Battery การชาร์จไว 33W ที่ได้มา แถมได้หน้าจอ AMOLED มาใช้ในราคานี้แล้วด้วยนะ ถึงแม้ Refresh Rate หน้าจอ จะไม่ได้จี๊ดเพราะได้มาแค่ 60Hz แต่ต้องยอมรับว่า มันลื่น และใช้งานได้ดีครับ

 

[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]

IG : kaew.ravie

0 ความคิดเห็น
bottom of page