สวัสดีทุกคนครับ วันนี้แก้วอยู่กับ Xiaomi Mi11 สมาร์ทโฟนเรือธงตัวแรกของปี จากแบรนด์ Xiaomi ที่อัพเกรดหลายๆ ด้านจากตัว Mi10 Series ขึ้นมาเยอะมากทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องการถ่ายภาพ ไม่เสียเวลา ไปชมกันเลยครับ
มาเริ่มกันที่ Design ของตัวเครื่องกันก่อนเลยครับ เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดที่สุด และ แก้วคิดว่า เอ้อมันสวยเหมือนกันนะเนี่ย เป็นเหมือนยักษ์ตาเดียว Cyclops สีฝาหลังสีฟ้าอ่อนเหลือบเงิน
ต้านทานรอยนิ้วมือได้ดีมาก เพราะเป็นฝาหลังแบบด้าน
ขอบของตัวเครื่องก็เสริมด้วย โลหะ สังเกตเห็น Badge อะไรไหมครับ ? ใช่แล้ว เจ้า Mi 11 ได้รับการจูนเสียงจาก Harman Kardon แบรนด์เครื่องเสียงหรู พร้อมลำโพงคู่แบบ Stereo บนล่างกันเลย
Mi 11 Specification
หน้าจอแบบ AMOLED 10 bit HDR 10+
กว้าง 6.81 นิ้ว (แนวทะแยง)
ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล (515 ppi)
ระบบสัมผัส : 480Hz touch-sensing
รันบน Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core ความเร็ว : 2.84 GHz
หน่วยประมวลผลกราฟิกส์ (GPU) : Adreno 660
หน่วยความจำ RAM 8GB | ROM 128/256GB : UFS 3.1
แบตเตอรี่ Li-ion 4,600 mAh (Standard Battery)
รองรับชาร์จไว 55W (Fast Charging) Wireless 50W เร็วม๊าก
มาดู Spec ของชุดกล้องหลังกันบ้างครับ โดยที่ Mi 11 เนี่ย จะมีกล้องหลังอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว
ชุดกล้องหลัง Mi 11
กล้องหลัก 108MP (ƒ/1.85), PDAF, OIS, ขนาดเซนเซอร์ 1/1.33 นิ้ว
กล้องมุมกว้างพิเศษ Ultra-wide 13MP (ƒ/2.4) ไม่มี AF
กล้อง Telephoto ( Tele-Macro ) 5MP (ƒ/2.4), AF ตัวนี้ทีเด็ดเลยล่ะครับ !
เอาล่ะครับไปชมภาพจากกล้องแต่ละตัวกัน ว่าทำได้ดีแค่ไหน น่าสนใจยังไงบ้าง ?
เริ่มกันที่ความละเอียด และคุณภาพของกล้องหลักกันก่อนเลยครับจะเห็นว่า
ต่อให้เรา Crop 300% มา ก็ยังได้รายละเอียดที่สามารถนำไปใช้งานต่อได้อย่างสบายๆ
ทั้ง Dynamic Range และความคม ต่อให้กด Zoom 2x แบบ Digital Zoom เพื่อถ่าย ก็ยังสามารถคงรายละเอียด เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน คุณภาพไฟล์ดีเหมือนเดิม เสียดายที่ไม่ได้ให้กล้อง Telephoto มาจริงๆ เพราะว่า Perspective มันไม่เหมือนกัน
อันนี้แบบเสียดาย จริงๆ ที่ไม่มีกล้อง Telephoto แยกมาให้
กล้อง Ultra Wide Angle เป็นตัวเดียวกับที่ยกมาจาก Mi 10T Pro ก็ว่าได้ ถึงแม้จะเป็นตัวเก่า แต่ต้องบอกว่า ทั้งมุมมองที่กว้าง และจำนวน Pixel ที่ค่อนข้างเยอะจนน่าพอใจ อยู่ที่ 13MP ก็ถือว่าเพียงพอ จะมีข้อติอยู่อย่างหนึ่งก็คือ " สีของ Ultra Wide Angle จะอมฟ้า " กว่ากล้องหลักนะครับ
ความกว้างของ กล้อง Ultra Wide Angle ที่สูงมากๆ แน่นอนว่าย่อมมาพร้อม Distortion แต่ว่า ตัวกล้องมี Software ที่ช่วยในเรื่องนี้มาให้เรากด เปิด - ปิด ได้ ใครชอบกว้าง ไม่สนเบี้ยวก็ปิดไป ใครชอบตรงๆ Perspective เป๊ะ ก็เปิดขึ้นมาช่วย
แม้แต่ในที่แสงน้อย Ultra Wide Angle ของ Mi 11 ก็ยังเอาอยู่นะครับ เพราะมี Auto Night Mode มาให้ เลยเก็บรายละเอียดมาครบ ถึงแม้ว่าจะเริ่มมี Noise เกิดขึ้นให้เห็นบ้าง
ก่อนจะไป Test การถ่ายภาพแนวอื่นกันต่อ แอดมินมาเทียบเรื่องระยะ ของเลนส์ให้ดูกัน ซึ่ง 3 ภาพนี้ใช้ Night Mode ในการถ่ายด้วยนะครับ โฟกัสที่ตัว 2x ขอย้ำตรงนี้ว่า ใช้งานแทน Telephoto 2x ในเรื่องของการ Zoom ได้จริงๆ แต่ . . . มิติภาพไม่ได้นะครับ
ที่สำคัญคือ ต่อให้เป็นจะ Shot ที่ย้อนแสงจังๆ แบบนี้ HDR ในกล้อง Ultra Wide Angle ก็ทำได้ดีมาก
สามารถเอามาถ่ายภาพ Portrait แบบนี้ได้สบายมาก หน้าแบบไม่มืดแน่นอน แถมช่วยให้ตัวแบบดูสูงขึ้นด้วยนะ
งั้นไหนๆ แล้วเรามาต่อกันที่ งานถ่ายภาพ Portrait กันเลยบ้างว่า Mi 11 จะเจ๋งแค่ไหน
ถ้าได้สภาพแสงที่พอเหมาะ กับ Beauty Mode สัก 30-40% Mi11 เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพบุคคลสนุกมากๆ ทั้งการเก็บขอบที่เรียกได้ว่าเนียนกว่า Mi 10T Pro แบบก้าวกระโดด และ Skintone ที่ดีขึ้นเยอะ
กล้องสามารถแยก Foreground กับจุดโฟกัส ฉากหลังได้แบบดีมากๆ ทำให้มิติภาพดูสมจริงมากยิ่งขึ้น
โดยโบเก้ และ Beautify เพื่อนๆ สามารถถ่ายมาก่อน แล้วมาปรับทีหลังก็ยังได้ สะดวกมากๆ
ภาพนี้จะเห็นได้ชัดถึงการไล่ระดับของระยะ ยิ่งไกล อัตราการเบลอ และโบเก้จะค่อยๆ เยอะขึ้น ใหญ่ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งอันนี้ ทำได้ดีขึ้นมามากกว่าตอน Mi 10 Series เมื่อปีที่แล้วจริงๆ
Dynamic Range กว้างๆ เก็บรายละเอียดได้ดี ในกล้องหลัก เมื่อนำมาใช้กับ Mode Portrait แล้ว เป็นอะไรที่เกินคาดจริงๆ ในทุกๆ ย่านความสว่าง Shadow , Midtone , Highlight เก็บรายละเอียดมาครบ ใครที่ชอบถ่าย Portrait แบบเล่นกับแสงเงา เยอะๆ น่าจะชอบตัวนี้ การไล่ระดับ Contrast นุ่มนวลจริงๆ
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจมากๆ ใน Mi11 ที่ถูกพูดถึงน้อย คือเรื่องของ Cinematic Filter ซึ่ง ดีงามมากๆ ทั้ง Mood & Tone ของ Filter ที่มีมาให้ หรือจะเป็น Flare แสงในภาพ ที่จำลองมาได้สวยงาม
จริงๆ มีให้เลือกหลายแบบ แต่ 2 อันนี้ จะเหมาะกับช่วงกลางวันที่สุด
มาดูภาพจากกล้องหน้าความละเอียด 20MP กันบ้างครับ ว่าจะได้ภาพออกมายังไงบ้าง ?
กล้องหน้าของ Mi 11 ต้องบอกว่าทำได้ดีขึ้นมากกว่าเดิมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บขอบ หรือ Software ที่ช่วยในการเกลี่ยผิว อย่าง Beautify ในกล้องหน้านั้น ทำได้เป็นธรรมชาติดีมาก คือหน้าเนียน แต่ยังมี Texture ของผิวให้เห็นได้อยู่
จะเป็น ผู้ชาย ผู้หญิง ก็สามารถที่จะเก็บรายละเอียดของผิวได้เป็นธรรมชาติดี ไม่ดูหลอกตา
มาต่อกันที่กล้อง Tele - Macro 5MP กันบ้างครับ ถือว่าเป็น Highlight อีกอย่างหนึ่งของตัวนี้เลยนะ สามารถโฟกัสได้ใกล้สุดถึง 2 Cm และยังสามารถใช้ Zoom เข้าไปได้อีก 2x แบบ Lossless ซึ่งต้องบอกจริงๆ ว่าคุณภาพดีมาก
คนที่ชอบถ่ายภาพเครื่องประดับ ชอบถ่ายภาพดอกไม้ หรือของเล็กๆ เนี่ยสนุกแน่นอน
มาลอง Night Mode กันจริงๆ จังๆ บ้างครับ
ต้องบอกว่า คุณภาพไฟล์ของกล้อง Ultra Wide Angle และกล้องหลัก จะมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาในที่แสงน้อย และในการถ่าย Night Mode นี่แหละครับ กล้องหลัก 108MP กับ Sensor ตัวใหม่จาก ISOCELL จะมาแสดงพลังตอนนี้แหละ
ความฉลาดของ Night Mode ในการเฉลี่ยแสง ดูจากไฟท้ายดวงนี้ได้ ปกติถ้าเราถ่ายตรงๆ รายละเอียดในเส้นสายของหลอกไฟด้านใน จะหายไปแล้ว แต่ถ้าเปิด Night Mode มันเติมแสงในส่วนเงาเข้ามาเล็กน้อย และ ลด Highlight ของหลอดไฟลงมาเพื่อให้เห็นรายละเอียดครบถ้วน
ยังสามารถใช้ Mode Pro มาลากเส้นไฟคมๆ แบบนี้ได้เหมือนเดิม
ถึงแม้จะไม่มีกล้อง Telephoto ไกลๆ มาให้แบบรุ่นพี่ในค่ายอย่างตัว Ultra แต่ด้วย Mode Super Moon เราปรับ Digital Zoom 30x ส่องพระจันทร์ แล้วปล่อยให้ AI ทำงานแทนให้เราก็ได้ครับ คมกริบเลย
ในส่วนของงาน Video Xiaomi ก็จัดเต็มมาให้หนักๆ
ใน Mi11 ไม่แพ้กับภาพนิ่ง ด้วย ฟีเจอร์การถ่าย Video เพียบ เล่นได้สนุกมาก เสมือนได้ใช้เทคนิคยากๆ ในการถ่ายหนังมาใส่ในคลิบของเราเลย
Magic Zoom ล็อกวัตถุ แล้วดึงฉากหลังเข้ามา
เป็นหนึ่งในฟีเจอร์กล้องที่แก้วชอบมากที่สุดใน Mi11 เลยปกติจะทำ เทคนิคแบบนี้ไม่ง่ายนะ ต้องใช้อุปกรณ์อะไรเยอะแยะมากมายเลย แต่ Mi จัดมาให้แบบใช้งานได้ง่ายมากๆ แค่ถือ โฟกัส Object แล้วเดินถอยหลังแค่นี้เอง
Parallel World สะท้อนภาพเหมือน สร้างความแปลกตา
เป็นการสะท้อนภาพจากด้านใดด้านหนึ่งมาประกบกัน อาจจะใช้กับแนวตั้ง หรือแนวนอนก็ได้ เหมาะเอาไปถ่ายพวก Cityscape เหมือนกันนะครับ คงจะให้อารมณ์แบบ Sci-fi ดี
Video Motion สร้าง Motion Blur เท่ๆ สไตล์ MV เมืองนอก
เป็นการถ่ายวีดีโอแบบ Motion Blur คล้ายๆ กับเรา เปิดหน้ากล้องด้วย Shutter Speed ต่ำๆ ทำให้ได้ Effect ที่ดูเคลื่อนไหว ยิ่งเมื่อนำมาใช้ในการถ่ายภาพกลางคืนแล้ว ต้องบอกเลยว่า เท่มากๆ
Overview & Opinion
ต้องบอกว่า Xiaomi สร้างความประหลาดใจให้แก้วหลายเรื่องจริงๆ ทั้งกล้อง 108MP ที่ประมวลผลได้เร็วขึ้นมากกว่าเดิมด้วย Snapdragon 888 กล้อง Tele-Macro ที่ใช้งานได้จริงๆ ไม่มีจกตา แถม Zoom 2x เข้าไปได้อีก ฟีเจอร์การถ่ายวีดีโอที่จัดเต็มมาให้แบบแน่นๆ กับราคาค่าตัวที่ ไม่ได้แพงเลย สำหรับ Smartphone Flagship พร้อม ประกันตัวเครื่อง 2 ปี ประกันจอแตก 1 ปีเลยนะ ไปจับจองกันได้แล้วตั้งแต่วันนี้เลยนะครับ
1. รุ่น RAM 8/ ROM 128 : 21,990 บาท 2. รุ่น RAM 8/ ROM 256 : 23,990 บาท
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]
IG : kaew.ravie