top of page
  • รูปภาพนักเขียนแอดมินแก้ว

รีวิว realme GT6 เรือธงสาย เอาใจสาย Performance เล่นเกมดี ถ่ายรูปเก่งเกินคาด

อัปเดตเมื่อ 21 ส.ค.

สวัสดีครับทุกคน กลับมาเจอกับแก้ว และการรีวิว สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากทางแบรนด์ realme กันอีกครั้งนะครับ และวันนี้เราอยู่กับ เรือธงที่ห่างหายไปจากตลาดอยู่สักพักใหญ่ อย่าง realme GT Series ประจำปี 2024 นี้ นั่นก็คือ realme GT6 ตัวนี้นั่นเองครับ อยู่กับแก้วมา 1 เดือนเต็ม ๆ มีอะไรโดดเด่น น่าใช้งานกันบ้าง ? ไปดูรีวิวกันครับ

SPECIFICATION
  • Chipset : Snapdragon 8s Gen 3

  • RAM 16GB LPDDR5X + 512GB UFS 4.0

  • Display : 6.78-inch AMOLED | 1.5K | 1B colors | 120Hz | HDR10+

  • Operation system : realme UI 5.0 | Android 14

  • Good quality stereo speaker

  • Bluetooth 5.4 | USB Type-C 2.0 | Wifi6

  • Battery 5500mAh | 120W SUPERVOOC ( PD 3.0 )

DESIGN : การออกแบบ

การออกแบบตัวเครื่องของ realme GT6 เครื่องนี้ มีความแตกต่างจาก realme No. Series ค่อนข้างชัดเจน ยังมีกลิ่นของ realme GT ใน Generation ก่อนหน้านี้อยู่ แต่ได้รับการปรับปรุงลุค ให้ดูมีความ Sport ขึ้น หรูหรามากขึ้น

สีตัวเครื่องที่แก้วนำมารีวิวให้ทุกคนได้ดู จะเป็นสี Fluid Silver วัสดุฝาหลังเป็นกระจก ที่มีลูกเล่น คือจะใช้ Surface ของกระจกสองแบบ ส่วน Module กล้องจะเป็นแบบเงา ที่ใช้เทคนิคแบบนาโน สะท้อนภาพได้แบบ เหมือนกระจกจริง ๆ เลย ซึ่งก็อาจจะเกิดรอยนิ้วมือง่ายสักนิดหนึ่ง ส่วนอื่น ๆ ของฝาหลังจะเป็น กระจกแบบด้านที่ให้ Grip ในการจับถือที่ดีครับ

ถึงแม้ realme GT6 ตัวนี้ จะให้แบตเตอรี่มาเยอะถึง 5500mAh และ Spec เรื่อง SoC และระบบระบายความร้อนแบบจัดหนัก จัดเต็ม แต่ก็ต้องบอกว่า ทีม Design ของ realme เก่งมาก ในเรื่องของการรีดน้ำหนัก และคงความบางเบา ของตัวเครื่องเอาไว้ได้ ด้วยน้ำหนัก 199 กรัม และความบางแค่ 8.6 มม.

Frame ของตัวเครื่อง realme GT6 ยังคงใช้วัสดุที่เป็นพลาสติกอยู่ ขอบฝาหลัง กระจกหน้าจอแบบโค้ง สอดรับกันเป็นอย่างดี ทำให้เวลาจับถือ เราจะยิ่งรู้สึกถึงความบางเบา ได้ชัดเจนกว่า realme GT รุ่นก่อน ๆ หรือแม้กระทั่ง เมื่อเทียบกับ realme No. Series ตัวล่าสุดก็ตาม

ด้านล่างของตัวเครื่องก็จะเป็นที่อยู่ของ Port USB-C ช่องไมโครโฟน ช่องลำโพง และถาดใส่ซิม ส่วนด้านบนก็จะมี IR Blaster ไมโครโฟน และลำโพงอีกหนึ่งตัวครับ ซึ่งต้องชมเลยว่า ลำโพงคู่ที่ realme GT6 ให้มา คุณภาพเสียง การแยกมิติซ้ายขวา ดีมากจริง ๆ

DISPLAY : หน้าจอแสดงผล

ทีนี้เราพลิกมาดูในด้านของหน้าจอกันบ้างนะครับ หน้าจอของ realme GT6 จะมีขนาดอยู่ที่ 6.78 นิ้ว ขนาดใหญ่เต็มตา รูปแบบหน้าจอจะเป็นแบบจอโค้ง ที่ Highlight อยู่ที่ ความบางของขอบหน้าจอ ในทุก ๆ ด้าน บางมาก ๆ ทำให้พื้นที่การใช้งานหน้าจอจะอยู่ที่ 94.20% ซึ่งเยอะกว่าเรือธงหลาย ๆ ตัวในปีนี้ด้วยซ้ำ

ให้การแสดงผลที่คมชัด สีสันสวยงามด้วย Panel หน้าจอแบบ AMOLED ขอบเขตสีที่ 1.07 พันล้านสี รองรับ HDR10+ มี Resolution อยู่ที่ 1.5K และค่า PPI ของหน้าจอที่ 450 PPI เท่า ๆ กับ Premium Flagship ในปีนี้ หลาย ๆ ตัว

ในเรื่องของการ Touch ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นใช้งานทั่วไป เล่น Social Media ไปจนถึง การเล่นเกม หน้าจอตัวนี้ ให้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลมาก ๆ ด้วย Refresh Rate 120Hz พร้อมค่า Instantaneous Touch Sampling Rate สูงสุดถึง 2500Hz คนเล่นเกมหนัก ๆ ต้องชิงจังหวะเยอะ ต้องชอบจอตัวนี้แน่นอน

นอกจากนั้น ใครที่มีความจำเป็นต้อง ปรับแต่ง Color Profile ของหน้าจอ เพื่อใช้ในการทำงานต่าง ๆ ก็สามารถจะปรับแต่งได้ง่าย โดยจะมี Screen Color Mode พื้นฐานให้ทั้งหมด 3 โหมด ก็คือ Vivid , Natural , Pro modes ซึ่งใน Pro mode ก็จะแยกย่อยออกมาอีก เป็น Cinematic และ Brilliant ถ้าอยากได้ละเอียดกว่านั้น สามารถจะปรับ Screen Color Temperature ด้านล่างได้อีกด้วยครับ

รูปแบบการปลดล็อคหน้าจอ จะเป็น Under display optical fingerprint หรือการสแกนนิ้วใต้จอ แบบ Optical นั่นเอง ซึ่งมี Response ที่รวดเร็ว สแกนติดได้ง่าย ตำแหน่งในการจัดวาง อาจจะต่ำไปสักหน่อย ใครที่จับสมาร์ทโฟนสูง ๆ ต้องเอื้อมนิ้วลงมากดนิดหนึ่งนะครับ

อีกหนึ่ง Highlight ของ realme GT6 ก็คือ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ Peak Brightness 6000nits แต่ถ้าเป็นเวลาที่เราใช้งานนอกบ้าน HBM สูงสุดที่ 1600nits ซึ่งก็เทียบเท่ากับเรือธงหลาย ๆ ตัวในปีนี้นั่นเองครับ ใช้งานนอกบ้านได้สบายไร้ปัญหา

CAMERA : กล้องถ่ายภาพ

ถึงแม้ว่า realme GT6 จะเป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นในเรื่อง Performance แต่ต้องยอมรับว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กล้องถ่ายภาพของ realme ได้รับการอัพเกรดขึ้นมามากตั้งแต่ No. Series และมาจนถึง GT Series เลย เราไปดู Spec กล้องแต่ละตัวกันก่อนเลยครับ

  • Main Camera 50MP | f/1.7 | LYT808 | PDAF, OIS

  • Ultra Wide Angle 8MP | f/2.2 | IMX355 | 112 ํ | Fix-focus

  • Telephoto 2x 50MP | f/2.0 | ISOCELL JN5 | PDAF | Lossless 4x

  • Front Camera 32MP | f/2.5 | PDAF | 22mm | Sensor size 1/2.74"


ลักษณะในการ Process ไฟล์ภาพของ realme GT6 จะมีความใกล้เคียงกับ realme 13 Pro+ คือ จะเน้นความสำเร็จรูปเป็นหลัก มี Software ช่วยเหลือในการ Process ไฟล์ภาพค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่ HDR ไปจนถึง การปรับโทนสีให้ดูมีเอกลักษณ์ และ เติม Sharpness เข้าไปในปริมาณที่กำลังดี

Street Mode ก็มีการใส่เข้ามาให้เช่นเคย ลูกเล่นพื้นฐาน เช่น การปรับ Focal Length ได้ละเอียด เลือกปรับ Manual Focus ในแต่ละกล้องได้แล้ว ก็ยังมีฟีเจอร์อย่าง Auto Zoom ที่ช่วยจัด Frame เวลาถ่ายภาพระยะไกลให้เราอัตโนมัติ ไปจนถึง Filter สีหลากหลายสไตล์ก็มีให้ใช้งานกันครับ

มีฟีเจอร์ Smart AI Removal ที่สามารถวงเพื่อลบจุดที่เราไม่ต้องการ และ Gen ภาพในส่วนนั้นขึ้นมาแทนได้ ความแม่นยำในการใช้งานถือว่าโอเคเลยครับ

MAIN CAMERA : กล้องหลัก 50MP | LYT-808

กล้องหลักของ realme GT6 ตัวนี้ ตัว Hardware Sensor ที่เขาให้มาถือว่า ค่อนข้างดีมากเลยนะ อยู่ในสมาร์ทโฟนเรือธงหลาย ๆ ตัวในปีที่แล้ว ที่ราคาทะลุ 30,000 บาทกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งความดีงามของการเปลี่ยนมาใช้ Sensor LYTIA-808 ตัวนี้ คือ เราได้ Dynamic Range ของภาพที่ดีขึ้น ระดับแสงได้ดีมากขึ้น โดยไม่ต้องขยาย Sensor ให้ใหญ่ เครื่องก็จะเล็กบางเบาแบบนี้

เพราะ LYTIA-808 จะมี Stack CMOS เวอร์ชั่นล่าสุด ที่ระดับแสงได้มากขึ้นเป็นสองเท่า ของ Standard Sensor จากทาง Sony อย่างพวก IMX890 หรือ IMX888 ใน Tier เดียวกัน

เนื้อไฟล์จากกล้องหลักของ realme GT6 ตัวนี้ ถ้าในสภาพแสงปกติ ช่วงกลางวัน คือ ไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ คุณภาพไฟล์ดีมาก Software ในการวัดแสง และ White Balance ทำงานได้เป็นอย่างดี เวลาเรากดถ่ายภาพรัว ๆ สีสันของภาพก็ตรงสม่ำเสมอกันดี

เวลาถ่ายภาพย้อนแสง หรือในสภาพแสงยาก ๆ ตัว Software Auto HDR จะช่วยเปิดรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ ของภาพให้สว่าง และได้รายละเอียดในแต่ละส่วนที่เฉลี่ยออกมาได้เท่ากัน แต่จัดการ Noise ในส่วนเงาให้เราอัตโนมัติเลย

ส่วนในเรื่องของ Depth of field หรือการถ่ายภาพละลายฉากหลังด้วยกล้องหลักตัวนี้ ก็ต้องบอกว่า สามารถถ่ายภาพละลายฉากหลังได้ค่อนข้างง่าย ถ้าใครเคยใช้สมาร์ทโฟนที่ใช้ Sensor IMX890 มาก่อน ก็คือเท่ากันเป๊ะเลยครับ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ในเรื่องนี้กล้องหลักของ realme 12 Pro+ จะทำได้ดีกว่า เพราะมีขนาดที่ใหญ่กว่านั่นเองครับ

PORTRAIT PHOTOGRAPHY : การถ่ายภาพบุคคล

การถ่ายภาพ Portrait ใน realme GT6 เครื่องนี้ เราสามารถใช้งานได้ทั้งหมด 3 ระยะด้วยกัน ได้แก่ 1x | 2x | 4x ซึ่งนี่น่าจะเป็นครั้งแรกเลย ของ realme ที่เราสามารถถ่ายภาพ Portrait ได้ถึง 3 ระยะ คุณภาพไฟล์ในทั้ง 2 เลนส์ เวลาถ่ายภาพ Portrait ก็ไว้ใจได้เลย ถ้าสภาพแสงดี ๆ ความสม่ำเสมอในการ Process ภาพออกมา ดีมาก ๆ 

ภาพ Portrait ใน realme GT6 จะค่อนข้างมีความคล้ายกับ realme 12 Pro+ ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็คือ จะเน้นการ Process ออกมาที่ค่อนข้างสำเร็จรูป แต่จะพยายามคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้ และมีการใส่ Character ในเรื่องของโทนสีภาพที่จะดูมีความเป็น Film Look นิด ๆ

ลักษณะการ Process ตัว Skintone สีสันค่อนข้างจะออกติดโทนสีอมแดง นิด ๆ ยิ่งถ้าเกิดเราถ่ายในสภาพแสงที่มีส่วนเงาเยอะ ๆ เราจะเห็นส่วนที่เป็นสีแดงของผิวได้ชัดเจนมากขึ้น ถ้าใครไม่ชอบให้ผิวมันดูมีสีแดงมากเกินไป แก้วแนะนำให้วัดแสงเพิ่มขึ้นไปสัก 1 stop จะช่วยได้ครับ

สิ่งที่แก้วค่อนข้างชอบใน Software การถ่ายภาพ Portrait ของ realme ตั้งแต่ยุค realme 11 Pro+ เป็นต้นมา ก็คือ การจำลอง Bokeh หรือ Bokeh Simulation ที่ทาง realme พยายามปรับปรุงให้เม็ด Bokeh ดูมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น มีการไล่ระดับที่ดูสมจริง ปกติแล้วแก้วจะปรับ Bokeh ไว้ที่ประมาณ f/2 กำลังดี

เวลาที่ทิ้งระยะห่างในฉากหลังมากกว่า 5 เมตรขึ้นไป เราจะเห็นได้ว่า การไล่ระดับการเบลอนั้น ค่อนข้างสวยงาม และมีความสมจริง ไม่แพ้กับเรือธงจากทางแบรนด์อื่นจริง ๆ ครับ

จุดที่แก้วอยากจะแนะนำเวลาเราใช้ realme GT6 ในการถ่ายภาพ Portrait ก็คือ อยากให้ใช้ระยะ 1x | 2x เป็นหลักจะได้คุณภาพดีที่สุด เพราะว่า ทั้ง 2 ระยะนี้ มีช่วงเลนส์มารองรับจริง ๆ แต่ว่า ถ้าเป็น 4x คือ การ Crop zoom on sensor เข้าไป จาก Telephoto 2x ซึ่งทำให้คุณภาพไฟล์ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

คือ ถ้าเราเลือกถ่ายภาพในสภาพแสงที่สว่างเพียงพอ เช่น ตอนกลางวัน หรือ วันที่แดดดี ๆ ท้องฟ้าใส ๆ คุณภาพจะเพียงพอต่อการใช้งานได้โอเค

แต่ถ้าวันไหนแดดไม่ดี หรือเราเลือกจะถ่ายภาพ Portrait ระยะ 4x ในช่วงเย็นที่ดวงอาทิตย์ตกไปแล้ว เราจะพบว่า Noise ในภาพจะเกิดได้ค่อนข้างง่าย และรายละเอียดในส่วน Texture ก็จะหายไปบ้างเหมือนกันครับ

เวลาต้องการถ่ายภาพ Portrait ในช่วงกลางคืน แก้วแนะนำให้เลือกใช้แค่ ระยะ 1x และ 2x เป็นหลัก เพราะว่า ตัว App กล้องจะทำการ Pixel Binning ด้วยการเปิด Night Mode ควบคู่กับไป Software Portrait

ทำให้เราได้ภาพ Portrait ตอนกลางคืนที่สว่าง แต่ Skintone จะไม่แข็งเหมือน Night Mode ปกติ

เวลาถ่าย Portrait ในที่แสงน้อย แก้วอยากให้เลือก แหล่งกำเนิดแสงที่อยู่ใกล้ตัวแบบ ให้เป็นแสงที่ มีสีใกล้เคียงสีขาวให้ได้มากที่ เพราะว่า White Balance ใน Night Portrait จะไม่ได้แก้ให้เราเยอะเท่ากับตอนกลางวัน และมีการ Boost สีสันให้สดขึ้นพอสมควร

TELEPHOTO 2x กล้องเทเลโฟโต้ระยะกลาง 50MP | ISOCELL JN5

กล้อง Telephoto 2x นอกจากจะเป็นระยะที่เหมาะกับการถ่ายภาพ Portrait มาก ๆ แล้ว ยังเป็นระยะที่ค่อนข้างใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ อาหาร การถ่ายภาพเครื่องประดับ สถาปัตยกรรม ไปจนถึงการถ่ายภาพ Street ใช้งานได้หมดเลย

สมมุติว่าเราเอามาถ่ายภาพอาหาร เราอาจจะเลือกใช้ Mode Portrait 2x ร่วมด้วยก็ได้เพื่อให้เกิด Depth of field ในฉากหลังที่ละลายได้สวย แต่ถ้าอยากได้ลุคที่เป็นธรรมชาติ Depth of field ที่มาจากชิ้นเลนส์จริง ๆ ก็เพียงพอต่อการจะสร้างมิติให้กับภาพได้

หรือ ถ้าหากเราอยากถ่ายภาพสิ่งของที่มีขนาดเล็กลงมาสักหน่อย ด้วยความที่ระยะโฟกัสใกล้สุดของกล้อง Telephoto 2x ตัวนี้อาจจะไม่ได้ใกล้มาก ทำให้เราจำเป็นจะต้องใช้การ Crop Zoom เพิ่มเติมขึ้นมาอีกเล็กน้อย เป็นระยะ 3x | 4x ก็จะสามารถถ่ายภาพในระยะที่ใกล้ขึ้นได้

จากที่แก้วบอกไปตอนแรกว่า เวลาใช้ระยะ 4x ใน Mode Portrait คุณภาพไฟล์มันลดค่อนข้างเยอะใช่ไหมครับ ? แต่พอมาใช้ 4x ในการถ่ายภาพปกติ กลับสามารถเก็บรายละเอียดมาได้ดีแบบ Surprise เลย เพียงพอที่เราจะเอามา Snap ภาพ Landscape , Street ลง Social Media ได้สบาย

ระยะ Zoom ไกลสุดที่แก้วรู้สึกว่ารายละเอียดที่เก็บมาได้นั้น ยังดีเพียงพอที่เราจะลง Social Media ได้แบบไม่ขัดเขินใจอะไร ก็คือประมาณ 10x ครับ

ยิ่งถ้าเอากล้อง Telephoto 2x มาใช้ร่วมกับ Street Mode เอามาถ่ายภาพ Urban Photography ถ่ายสถาปัตยกรรม ก็คือ เพลินมาก แก้วแทบจะใช้กล้อง 2x เป็นหลักเลยเวลาถ่ายรูป

หลายคนกังวลว่า ความเร็ว Shutter ของกล้อง Telephoto 2x ตัวนี้จะทันใจไหม ? แก้วมีโอกาสได้ถ่ายน้องกระรอกในสวนสาธารณะมา สามารถ Snap จังหวะที่น้องกำลังไต่ลงมาจากต้นไม้ได้ทัน นิ่ง ๆ เลย

ต่อให้จะ Zoom ไกล ๆ Software Auto HDR ก็ทำงานได้อย่างแม่นยำตามปกติเลยครับ

ULTRA ANGLE : กล้องมุมกว้าง 8MP | IMX355

กล้องตัวนี้ น่าจะเป็นจุดที่แก้วเสียดายที่สุดในชุดกล้องหลังตัวนี้แล้ว เพราะว่า กล้องหลัก กับ กล้อง Telephoto ที่ให้มา ทั้งคุณภาพ Sensor และ Optic มันใช้งานได้ดีมาก ๆ แต่พอสลับมาเป็นกล้อง Ultra Wide Angle ก็กลับมาเจอกับเพื่อนที่หน้าตาคุ้นเคย อย่าง IMX355 ความละเอียด 8MP ตัวนี้

องศาในการรับภาพของกล้อง UItra Wide Angle ตัวนี้ก็ไม่ได้กว้างอะไรมากนัก อยู่ที่ประมาณ 112 ํ เพียงพอที่จะสามารถถ่าย อาคาร ถ่ายสถาปัตยกรรม ให้ดูยิ่งใหญ่ขึ้นได้ Distortion จัดการมาได้ดี แต่ Chromatic Abberation ยังเจอขอบม่วงได้บ้าง ในตอนที่เราถ่ายภาพย้อนแสงตรง ๆ

คุณภาพไฟล์กล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้ ก็ตามมาตรฐานของ Ultra Wide Angle 8MP ที่เราคุ้นเคยกัน คือ ถ้าถ่ายภาพในสภาพแสงที่มันสว่างเพียงพอมันก็โอเคนะ มี Dynamic Range ที่ใช้ได้ และ แก้วแนะนำให้เปิด Auto HDR เอาไว้ตลอด ภาพที่ออกมา ก็เอาไปใช้งานลง Social Media ตามปกติ แต่แน่นอนว่า Ultra Wide Angle 12MP หรือ 50MP อยู่แล้ว

โทนสีภาพของกล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้ ถือว่าทำออกมาได้ใกล้เคียงกับกล้องหลักพอสมควร อาจจะมีในแง่ของ Saturation หรือความสดของสีสัน ที่อาจจะสดน้อยกว่า แต่ Software ในการวัดแสง หรือ White Balance ของกล้องตัวนี้ ทำงานได้แม่นยำดีใช้ได้

นอกจากจะถ่ายภาพ Landscape หรือ สถาปัตยกรรมได้ดีแล้ว ใครอยากให้สาว ๆ ดูตัวสูงขึ้น กล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้ก็หยิบมาใช้งานได้เช่นกันครับ

NIGHT TIME PHOTOGRAPHY

เรามาต่อกันที่ Low light Photography หรือการถ่ายภาพในที่แสงน้อยกันนะครับ เราสามารถใช้งาน Night Mode ใน realme GT6 ได้ในทุกกล้องนะครับ กล้องหลัก Ultra Wide Angle กล้อง Telephoto ใช้งาน ได้หมดเลย

เวลาเราถ่ายภาพในช่วงเวลาก่อนอาทิตย์ตก ที่ยังพอมีแสงอยู่บ้าง แก้วแนะนำให้ใช้ Mode Auto ไปก่อนสำหรับกล้องหลัก และกล้อง Telephoto เพราะว่าการ Process ไฟล์จะไม่หนักมาก ได้ความสว่างที่ยังดูเป็นธรรมชาติอยู่ คุณภาพไฟล์ที่ออกมา ใกล้เคียงกับการใช้ Night Mode

เพราะว่าลักษณะการ Process ไฟล์ภาพใน Night Mode ของ realme GT6 ตัวนี้ ค่อนข้างที่จะ อัด Sharpness และ Clarity เข้าไปเยอะพอสมควร มีการ Boost สีสันของภาพให้มีความสดขึ้นมาก ๆ ทำให้ภาพที่ออกมา มันจะดู Punchy มากกว่าภาพที่เราถ่ายตอนกลางวันเยอะพอสมควร

คุณภาพไฟล์ Night Mode ในกล้องหลักดีมาก ดีเป็นอันดับต้น ๆ ของสมาร์ทโฟน ในช่วงระดับราคานี้เลยก็ว่าได้ครับ ไฟล์ใส Detail ดี ถ้ามีแหล่งกำเนิดแสงในภาพสักเล็กน้อย ก็วางใจได้เลยว่า ภาพที่ได้ Noise จะต่ำแน่นอน

ส่วนคุณภาพไฟล์ Night Mode ในกล้อง Telephoto ก็ทำได้ดีไม่แพ้กับกล้องหลักเลย สีสันใกล้เคียงกับ มีการเติม Sharpness และ Clarity ในระดับที่เท่า ๆ กัน อาจจะมีบางสถานการณ์ที่ เราอยู่ในที่ที่แทบไม่มีแหล่งกำเนิดแสงเลย กล้องจะใช้เวลาในการลากชัตเตอร์นานกว่า และอาจจะมีโอกาสเจอจุดรบกวนได้บ้างเล็กน้อย

ส่วน Night Mode ในกล้อง Ultra Wide Angle นั้น แก้วแนะนำให้เลือกใช้ในสถานการณ์ที่มีแหล่งกำเนิดแสงเท่านั้น เช่น ตอนที่เราถ่ายอาคาร ตึกสวย ๆ ที่เขาเปิดไฟแล้วตอนกลางคืน เพราะจะช่วยรักษาคุณภาพไฟล์ให้ยังใช้งานได้ดีอยู่ แต่ถ้าตรงที่เราถ่ายภาพถ่ายไม่มีแหล่งกำเนิดแสงเลย ก็แนะนำให้ไปใช้กล้องตัวอื่นดีกว่าครับ

นอกจากนั้น เขาก็ยังมี Mode การถ่ายภาพกลางคืน อื่น ๆ ที่เป็นลูกเล่นมาให้เรา ไม่ว่าจะเป็น Long Exposure การถ่ายภาพเส้นไฟ เส้น Motion ต่าง ๆ ไปจนถึง ถ่ายน้ำให้พริ้วไหว ก็มีให้เลือกใช้งาน

หรือจะเป็นการถ่ายภาพ ดวงจันทร์ยามค่ำคืนก็ทำได้ครับ

RAW FILE PERFORMANCE : ประสิทธิภาพของ RAW FILE

ใน realme GT6 เครื่องนี้ เราสามารถใช้งาน RAW file ได้ 2 รูปแบบด้วยกัน ก็คือ Sensor RAW และ RAW+ หรือ Computational RAW แต่ว่าเราจะสามารถใช้งาน RAW+ ได้ในแค่กล้องหลัก และ กล้อง Telephoto เท่านั้น ไม่สามารถใช้งานด้วย กล้อง Ultra Wide Angle ได้นะครับ

RAW File ในกล้องหลัก มีคุณภาพไฟล์ดีที่สุด ทั้งในแง่ของ การเก็บ Dynamic Range และความยืนหยุ่นเมื่อนำมา Process ต่อ สามารถเก็บ Detail ในส่วน Highlight และ Shadow มาได้ดีมาก เวลาเราเอาไฟล์มาขุดต่อ โอกาสเกิด Noise ก็ค่อนข้างต่ำครับ

ส่วน RAW File ในกล้อง Telephoto 2x ถือว่าค่อนข้างโอเค อาจจะไม่ได้ประทับใจเท่ากล้องหลัก แต่เพียงพอต่อการใช้งานทั่ว ๆ ไป เวลาไปท่องเที่ยว หรือถ่ายเล่น ความยืดหยุ่นถือว่าโอเค แต่อาจจะเก็บ Dynamic Range ในส่วน Highlight มาได้ไม่ดีเท่ากล้องหลัก และถ้าเราพยายามขุดส่วนเงา ก็จะเจอ Luma Noise ได้เล็กน้อย

ส่วน RAW File ในกล้อง Ultra Wide Angle อาจจะเป็น กล้องที่แก้วไม่แนะนำให้ใช้งานสักเท่าไหร่ เพราะเท่าที่ลองมา แก้วเจออาการ ไฟล์สีเพี้ยนได้บ่อย เวลาที่อยู่ในสถานการณ์ที่แสงน้อย หรือ Scene ที่เราถ่ายมีส่วนเงาค่อนข้างมาก

โดยรวมแล้วก็ถือว่าให้มีครบถ้วนกับการใช้งานดีในแง่ของ RAW File แต่คุณภาพในบางกล้องยังต้องได้รับการปรับปรุง Software อีกหน่อยครับ

FRONT CAMERA : กล้องหน้าความละเอียด | 32MP

ทีนี้เรามาต่อกันที่กล้องหน้า ของ realme GT6 กันบ้างนะครับ โดยจะมีความละเอียด 32MP ตัวนี้ เราสามารถปรับองศาในการถ่ายภาพได้ 2 ระดับ ก็คือ 0.8 และ 1x โดยที่ กล้องหน้าตัวนี้จะเป็นแบบ Fix Focus นะครับ

ซึ่ง คุณภาพไฟล์ ใน Detail ที่ได้เนี่ย แทบจะเหมือนกับใน realme 12 Pro+ เลย ตั้งแต่การเก็บขอบตอนทำละลายฉากหลังไปจนถึง Skintone การเก็บรายละเอียดผิวต่าง ๆ ก็ถือว่าใช้งานได้โอเคเลย

แต่ลักษณะในการวัดแสง หรือ Exposure ในกล้องหน้าตัวนี้ จะวัดออกมาค่อนข้างพอดี ทำให้ถ้าเรา Selfie ย้อนแสง หรืออยู่ในสภาพแสงยาก ๆ ในบางจังหวะเราจะรู้สึกว่า ภาพจะมืดไปสักหน่อย ให้เราหันหน้าไปทางแหล่งกำเนิดแสง จะได้ผลลัพท์ที่ดีที่สุดครับ

VIDEOGRAPHY : การถ่ายวีดีโอ

การถ่ายวีดีโอของ realme GT6 ตัวนี้ Resolution สูงสุดที่เราถ่ายได้ก็คือ 4K 60fps ในกล้องหลัก และกล้อง Telephoto แต่ถ้าหาก เราอยากใช้งาน Video แบบ HDR ด้วย เราจะต้องลด Resolution ลงไปอยู่ที่ 4K 30fps แทน ซึ่งก็ถือว่า ยังให้ประสิทธิภาพในการถ่ายวีดีโอมาค่อนข้างดีเลย สำหรับสมาร์ทโฟนสาย Performance แบบนี้

คุณภาพไฟล์ Video 4K 30fps จะให้ Bitrate โดยเฉลี่ยมาอยู่ที่ 54mbps ซึ่งก็ถือว่าเยอะเท่ากับสมาร์ทโฟนเรือธงในปีนี้หลาย ๆ ตัว แต่ก็มีข้อพิจารณาอยู่บ้างในเรื่องการถ่ายวีดีโอนะครับ เรื่องแรกก็คือ ความนิ่งของ ระบบวัดแสงนั้น ในบางจังหวะ มีอาการวูบวาบ ให้เห็นได้บ้าง มีการเติม Sharpness เข้าไปในไฟล์วีดีโอเยอะพอสมควร ทำให้มีความเป็นธรรมชาติน้อยกว่าไฟล์ภาพนิ่งแบบชัดเจน


ระบบ Auto Focus ในการถ่าย Video ก็จับ Subject ได้แม่นยำดี โดยเฉพาะในกล้องหลัก ไม่มีอาการ Focus Hunting หรือ Back Focus เวลาเคลื่อนกล้องไปเรื่อย ๆ ให้เราเห็นเลย


การกันสั่นของตัว Video ใน realme GT6 สำหรับแก้ว กล้องหลัก คือ กล้องที่นิ่งที่สุด และไว้ใจในการเดินถือถ่ายได้มากที่สุด ส่วนกล้อง Telephoto จะต้องเกร็งแขนช่วยตอนถ่ายนิดหนึ่ง เอาแบบไม่ต้องเดิน แค่ยืน Pan กล้องกับที่ก็รู้สึกถึงความสั่นได้แล้ว อันนี้ก็อยากให้ realme ออก Software มาช่วยปรับปรุงให้นะครับ


PERFORMANCE : ประสิทธิภาพตัวเครื่อง

สำหรับ Performance ตัวเครื่องในการใช้งานจริงของ realme GT6 เครื่องนี้ ประสิทธิภาพของตัว Soc Snapdragon 8s Gen 3 ที่มีความแรงน้อง ๆ Snapdragon 8 Gen 2 สามารถใช้งาน Daily use ทั่ว ๆ ไปได้ลื่นไหลดี ไม่มีปัญหาอะไรเลย หรือ สำหรับ Creator แบบแก้วก็จะใช้ App พวก Canva , Lightroom Mobile , Capcut ก็ใช้งานได้ลื่นไหลไม่ได้รู้สึกหน่วงแต่อย่างใด

realme GT6 เป็น สมาร์ทโฟนสาย Performance เอาใจคนเล่นเกม ซึ่งตัวแก้วเองก็เล่นเกมที่กราฟิก โหด ๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอได้ลองใช้เล่นเกมตั้งแต่วันแรก ก็ยิ้มเลย เพราะนอกจากจะปรับกราฟิก Setting ของทั้ง 2 เกมที่แก้วเล่นได้ในระดับสูงสุดแล้ว ( Night Crow | Wuthering Waves )

แต่เขาสามารถรักษา Frame Rate เวลาที่เราเล่นเกมต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ ได้ดีมาก รวมไปถึง ความร้อนสะสมเวลาที่เล่นเกม ก็ค่อนข้างต่ำมากทีเดียว เมื่อเทียบกับเรือธงรุ่นอื่น ๆ ด้วยกันเองในปีนี้ ซึ่งผลลัพท์ก็มาจากการปรับปรุง Vapor Chamber ที่ช่วยระบายความร้อน ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นนั่นเอง

การจัดการ Battery และ Screen on time ของ realme GT6 หลังจากผ่านการอัพเดต Software มาแล้ว 2 ครั้ง ถือว่าทำได้ดีมากทีเดียว ถ้าเป็นวันที่เราใช้งานทั่วไป เน้นใช้งานในที่ร่ม ไม่ได้ใช้แสงหน้าจอเยอะ Battery SOT ที่ทำได้คือเกือบ 8 ชั่วโมง แต่ถ้าเราใช้งานหนัก เล่นเกมเยอะ จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6 ชั่วโมงปลาย ๆ ครับ

OVERVIEW & OPINION

หลังจากที่แก้วได้อยู่กับ realme GT6 เครื่องนี้มา 1 เดือนเต็ม ๆ ต้องบอกว่าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ถึงแม้จะมีความอเนกประสงค์ในการใช้งานครอบคลุมหลายด้าน แต่ถ้าเรามองลงลึกลงไปดี ๆ จะเห็นว่าความเก่งของเขา จะไปอยู่ที่ Performance ตัวเครื่องเวลาเราใช้งานหนัก ๆ หรือ การเล่นเกมเป็นหลัก

หลายคนอาจจะประสบประมาทน้อง ด้วยความที่เห็นว่า SoC ที่ใช้เป็น Snapdragon 8s Gen 3 ไม่ใช่ตัว Top สุดของ SoC ในปีนี้ แต่ Hardware ในส่วนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น RAM LPDDR5X | Storage Version UFS 4.0 ไปจนถึง Connectivity Bluetooth 5.4 | Wifi6 ที่ใช้งานได้ประสิทธิภาพระดับเดียวกับเรือธงราคาแตะ 3 หมื่นได้สบาย


กล้องถ่ายภาพ ถึงแม้ว่าจะทำได้ค่อนข้างดีมาก ทั้งการถ่ายภาพทั่ว ๆ ไป การถ่ายภาพ Portrait ที่มีระยะในการถ่ายหลากหลายขึ้น Software Portrait จูนมาดีกว่า realme 12 Pro+ พอสมควร ไปจนถึงรอบรับการถ่าย Computational RAW และ วีดีโอแบบ 4K HDR แต่ . . . ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า ถ้าอยากได้กล้องที่ดีจริง ๆ จาก realme ตัว realme 12 Pro+ ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในสายตาแก้ว ( เพราะเรื่องระยะ Zoom และ Hardware ตัวกล้อง Telephoto ที่ไกลกว่านี่แหละ )

ใครอยากได้สมาร์ทโฟน หน้าจอใหญ่ แต่มีน้ำหนักเบา เครื่องบางจับถือสะดวก มีประสิทธิาภาพในการใช้งานรอบด้าน แต่เก่งที่สุดในเรื่อง Performance ตัวเครื่อง realme GT6 ตัวนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ

 
ราคาวางจำหน่าย realme GT6 | realme GT 6T
  • realme GT6 | RAM 16GB+ 512GB : 24,999 บาท

  • realme GT 6T | RAM 12GB + 256GB : 18,999 บาท


[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ] Fanpage : https://www.facebook.com/mobile.fotographer    IG : kaew.ravie #Mobilephotographer #โมบายโฟโตกราฟเฟอร

0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page