สวัสดีครับทุกคน วันนี้แก้วอยู่กับ vivo V23e 5G สมาร์ทโฟนตัวล่าสุดใน V-series ส่งท้ายปี 2021 จากทาง vivo ที่ครั้งนี้มาพร้อมกับกล้องหน้าสุดโหด 44MP และ เป็น Smartphone 5G ที่รองรับคลื่นความที่ครบถ้วนสุดๆ Design สวยบางเบาเช่นเคย ไปชมรีวิวกันครับ
SPECIFICATION
CPU : Mediatek Dimensity 810
RAM 8GB + Virtual RAM 4GB
ROM 128GB + microSD Card สูงสุด 1TB
AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080)
Battery 4,050 mAh | 44W vivoFlashCharge
USB-C | Bluetooth 5.1 | Wifi6
5G Dual Sim Standby
Android 11 | Funtouch OS 12
IN THE BOX : อุปกรณ์ภายในกล่อง
นอกจากตัวเครื่องแล้วอุปกรณ์ที่มีให้มาในกล่องก็ให้มาครบถ้วนมากทีเดียวครับ ไม่ได้ตัดอะไรออกไปเลย โดยจะมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ครับ
Adapter vivoFlashCharge 44W
สายชาร์จ USB-A to USB-C
หูฟังแบบ USB-C พร้อม Dongle
คู่มือการใช้งาน และเข็มจิ้ม Sim Card
เคสใสแบบนิ่ม
DESIGN : งานออกแบบ
สำหรับงานออกแบบของ vivo V23e นั้น ยังคงมาใน สไตล์ที่ดูเรียบหรูตาม DNA Brand ของ vivo เช่นเคย ด้วยความบางของตัวเครื่องเพียง 7.36mm และ น้ำหนักเพียง 172g เท่านั้น ขอบเครื่องแบบ 2.5D Flat Frame ทำให้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะบาง แต่ยังจับถือได้ถนัด
เวลาถือเอาไว้ในมือเนี่ย เราจะเห็นเส้นขอบของตัวเครื่องอย่างชัดเจนด้วย Shape แบบ 2.5D ที่โค้งเข้าหามือ และขอบเครื่องที่เป็นแบบ Flat แต่ยังคงความบางเอาไว้ได้อยู่ ทำให้จับถนัดมือ และเบาสบายเวลาใช้งานนานๆ ด้วยครับ
โดยสีของตัวเครื่องนั้น ที่แก้วได้มาจะเป็น Moonlight Shadow สีดำสุด Classic ที่ไม่ได้ดำเฉยๆ มีการใช้เทคโนโลยี Ceramic Film เพื่อสร้างลูกเล่นในเรื่องของแสงสะท้อน เมื่อมีการกระทบของแสงมาในองศาที่เฉียงเล็กน้อย จะมีแสงสะท้อนออกมาเป็นสีน้ำเงินหม่นๆ เหมือนแสงจันทร์ เป็น Detail ที่ดูดีมาก
อีกหนึ่งสีที่มีให้เลือกก็คือ Sunshine Coast ที่ใช้ Satin AG Glass ให้ฟีลลิ่งการจับถือที่นุ่มนวล ป้องกันรอยนิ้วมือได้ยอดเยี่ยม และแสงสะท้อนบนผิวที่เหมือนแสงอาทิตย์ตกตามชายฝั่งทะเลที่สวยงาม
บริเวณด้านล่างจะเป็นที่อยู่ข้าง Port USB-C | Speaker | ถาดใส่ SIM
DISPLAY : หน้าจอแสดงผล
vivo V23e 5G นั้นมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.44 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดแบบพิมพ์นิยมสำหรับ Smartphone ในรุ่นกลางหลายๆ รุ่น แต่จะขอบสีดำรอบหน้าจอค่อนข้างเยอะพอสมควร ตำแหน่งในการวางกล้องหน้านั้นจะเป็น ติ่งตรงกลาง ยังไม่ได้เป็นเจาะรู
Panel ของหน้าจอจะเป็นแบบ AMOLED มีความละเอียดอยู่ที่ FHD+ แต่ว่าค่า Refresh Rate นั้น ยังไม่ได้ลื่นเนียนตาเหมือน vivo V21 5G ที่เปิดตัวไปในช่วงต้นปีนะครับ คงน่าจะมาจากว่าตัวนี้เป็น ตัว e ไม่ใช่ตัวหลักของ Series ที่เน้นทำราคาให้ดี กับใส่ Spec มาในจุดอื่นแทน แต่ถามว่าเสียดายไหม ? เสียดายครับ
ในเรื่องของการแสดงผล เรื่องสีสัน ความคมเนี่ย หน้าจอตัวนี้เป็นหน้าจอที่คุณภาพถือว่าดีทีเดียวเลยละครับ Contrast ดี สีสวย ภาพคมชัด เวลาเอามาดู Streaming หรือเอามาดูหนังแบบ Full Screen อาจจะมีความรู้สึกรำคาญขอบเครื่องนิดๆ
เวลาเอามาดู Streaming ของ Netflix สามารถจะรับชมได้ที่ความละเอียดแบบ HD เพราะว่าได้ Widevine CDM แบบ L1 บางรุ่นในระดับราคานี้ยังไม่ได้ L1 เลยนะครับ ถูกใจคนดูหนังแน่นอน
CAMERA : กล้องถ่ายภาพ
สำหรับกล้องถ่ายภาพของ vivo V23e 5G ตัวนี้นั้น ชุดกล้องหลังจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว ดังนี้
- Ultra wide angle 8MP | f/2.2
- Main Camera 50MP | f/1.8
- Macro Camera | f/2.4
ดู Spec กล้องผ่านๆ อาจจะรู้สึกว่าไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย แต่ Software ช่วยในการถ่ายภาพ ให้ได้ภาพที่ยอดเยี่ยมเนี่ย vivo จัดมาเต็มทีเดียว มี AI Eye Auto Focus มาให้ทั้ง กล้องหน้า กล้องหลัง แถมคุณภาพไฟล์ของกล้องหลัง 50MP ตัวนี้ เจ๋งไม่หยอกเลย ไปดูภาพกันครับ
MAIN CAMERA : กล้องหลัก
งั้นเรามาเริ่มกันที่ Highlight ของชุดกล้องหลังที่ดูจะดีงามที่สุดแล้วกันดีกว่าครับ กับกล้องหลักความละเอียด 50MP ตัวนี้ เมื่อเข้า Mode Hi-Res มาแล้ว ลองถ่ายภาพดู Auto HDR นั้นให้ความรู้สึกว่าไม่ได้ทำงานได้ดีเท่ากับการถ่ายที่ Mode Auto ปกติ แต่ครับ . . .ดูรายละเอียดของภาพหลังจาก Crop มาสิ คือตัวหนังสือเล็กจิ๋วบนยอดตึกใบหยก เรายังสามารถเห็นได้ชัดเจนอยู่เลย ไม่มีวุ้นเลย เห็นชัดๆ เลย
ภาพนี้เนี่ยอธิบายเรื่อง HDR ในโหมด Hi-Res ได้ดีมากๆ คือ เวลาพยายามลด Highlight ลงแต่ก็ทำได้ไม่มากเท่าไหร่นัก แต่การพยายามดึงแสงใน Shadow ขึ้นเนี่ย โอโห้ เนียนกริ๊บ คือมันไม่ได้ดึงขึ้นจนเน้นสว่างไปเลย แต่ปรับขึ้นพอที่จะเห็นรายละเอียดได้ โดยที่ไม่ทำให้ภาพเสียความเป็นธรรมชาติไป
มาดูภาพจากกล้องหลัก Auto แบบธรรมดากันบ้างครับ สังเกตตรงก้อนเมฆ นะครับ HDR ลบแสงขาวๆ ออกไปอย่างชัดเจน แตกต่างจาก Hi-Res เลย ทำให้เราได้พื้นที่สีฟ้าในภาพมาเยอะขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ก้อนเมฆจะเยอะก็ตาม
การเอากล้องหลักมากด Crop on sensor แบบ 2x แล้วเปิด HDR เนี่ย ก็ยังถือว่าให้ภาพได้น่าพอใจในระดับหนึ่งเลยนะครับ เอามาแก้ขัดแทนเลนส์ Telephoto 2x จริงๆ ไปได้พอสมควร เวลาเอามาถ่ายพวกงานสถาปัตยกรรม Perspective บริเวณตรงกลางภาพจะทำให้สัดส่วนออกมาตรงกับภาพเป็นจริง กว่าเลนส์ตัวอื่นๆ ด้วยนะครับ
ULTRA WIDE ANGLE : กล้องมุมกว้างพิเศษ 8MP
เป็นกล้อง Ultra wide angle ที่ไม่ได้หวือหวาอะไร ให้ Character ภาพใกล้เคียงกับ vivo V21 5G เมื่อช่วงต้นปี พื้นที่ใน Frame ภาพที่ให้รายละเอียดได้คมชัดนั้นเกิน 80% ของภาพแน่นอน เวลาถ่ายภาพย้อนแสงจะไม่มี ขอบม่วง ขอบเขียวให้เราได้เห็น Distortion จัดการมาได้ค่อนข้างดีครับ
ในแง่ของความกว้างนั้น ก็เพียงพอที่จะเก็บตึกเข้ามาทั้งตึกแบบนี้เลย ลองสังเกตรายละเอียดในส่วนที่เป็นเงามืด แล้วโดย HDR เติมแสงเข้ามา ถือว่า Noise ที่โผล่เข้าในนั้น ค่อนข้างจะน้อยเลย แต่ HDR ในการดึง Highlight ลงมากลับทำได้แค่กลางๆ เท่านั้นครับ
ถึงแม้จะเป็น Fix Focus และ ขนาด Sensor กับ f/stop ไม่ได้ต่ำสักเท่าไหร่ แต่เป็นกล้องที่ ถ้าสภาพแสงดีๆ กล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้ก็ให้ภาพที่ดีได้ครับ เหมาะมากที่จะเอาไปถ่าย Cityscape หรือ Travel Photography พอเปิด AI แล้วท้องฟ้านี่สดขึ้นเป็นกองเลย
PORTRAIT PHOTOGRAPHY | การถ่ายภาพบุคคล
การถ่ายภาพบุคคล เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทั้งตัวแก้วเอง และแฟนๆ vivo V-series หลายคนค่อนข้างจะคาดหวังไว้พอสมควร พอได้ลองเอามาใช้งานในการถ่ายจริงๆ ก็ต้องบอกว่า ไม่ผิดหวังครับ ทั้งคุณภาพของไฟล์ที่ได้ Software ที่ทำมาได้ดีพอสมควร และ Dimensity 810 ตัวนี้ ประมวลผลภาพเร็วกว่าที่คิดไว้มาก
อีกจุดที่ค่อนข้าง Surprise มาก เหมือน vivo ได้เรียนรู้การปรับแต่ง bokeh และสร้าง Depth ที่สมจริงมาจากการทำ X - Series ทำให้ใน vivo V23e 5G การถ่าย Portrait ละลายฉากหลัง Bokeh จะไม่ได้ขึ้นแบบมั่วๆ จนดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่จะขึ้นในจุดที่ มีแสงไฟ แสงลอด แสงสะท้อนต่างๆ ในปริมาณที่พอดี
ในแง่ของ White Balance ของตัวกล้อง เวลาที่ Detect แสงในช่วงเวลาต่างๆ จริงๆ ถือว่าใช้ได้ไหม ก็ใช้ได้นะครับ แต่ถ้าจะให้ลง Detail จริงๆ เราจะเห็นได้ว่า ในส่วนที่ไม่ได้โดยแสงตรงๆ ในภาพ White Balance ในบริเวณนั้น จะออกม่วงๆ นิดนึง แต่โดยรวม Skintone ดีทีเดียว
มาพูดในเรื่องของการตัดขอบกันบ้างครับ ถ้าเราถ่ายภาพใน Condition แสงที่เพียงพอ ไม่ได้มีส่วนเงาในภาพมากมาย Software ตัวนี้ดีพอจะเก็บขอบเวลาถ่ายภาพได้เนียนพอๆ กับ X - Series เลยทีเดียว ลองสังเกตบริเวณ บันไดด้านหลังที่เป็นซี่ๆ และ เส้นผมของแบบซ้อนทับกันได้อย่างเป็นธรรมชาติดีมาก
ยิ่งถ้าสภาพแสงดีๆ การตัดขอบนี่แบบกริ๊บเลย แต่จำเรื่อง HDR ลด Highlight ลงไม่สุดได้ไหมครับ ? มันตามมาใน Mode Portrait ด้วยนะ เพราะฉะนั้นเวลาถ่ายภาพใน Situation ที่แสงสว่างมากๆ ให้แตะโฟกัส แล้วปรับลดแสงลงมาสัก 1 ขีด จะให้ระดับแสงที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าครับ
ตอนที่ถ่ายภาพนี้บอกตรงๆ ว่าไม่ได้คาดหวังว่าย้อนแสงแล้วจะรอด แต่พอได้เห็นผลลัพท์ ก็แบบ เฮ้ยยย ใช้ได้นะเนี่ย ภาพนี้ปรับ f/stop อยู่ที่ 1.4 ในแง่การตัดขอบอาจจะมีหลุดบ้าง แต่หน้าไม่มืด Noise ไม่เยอะ และการเลือกสร้าง Bokeh บริเวณแสงสะท้อนบนผิวน้ำในฉากหลัง ทำให้ภาพมันดูเป็นธรรมชาติขึ้น
และแน่นอนว่า Signature ของ vivo AI LIGHT EFFECT ก็มีมาให้เหมือนเดิม เอาไป Design Shot เท่ๆ ได้ตามสไตล์ของเราเลยครับ ประมวลผลไว แม่นยำ
แวะมาดูภาพจากกล้อง Ultra Wide Angle กันบ้างครับ จุดที่แก้วเคยชมกล้อง Ultra Wide Angle ของ vivo เวลาเอามาถ่ายภาพ Portrait นั้นหายไปเฉยเลย ก็คือมันไม่สามารถเปิด Beauty Mode เวลาใช้กล้องมุมกว้างได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว จะได้แค่ HDR กับ Filter เท่านั้น
ถึงแม้ว่าจะไม่มี Beauty Mode แต่ด้วยความละเอียดภาพที่ 8MP และ Fix Focus ที่เราต้องถอยหลังออกมาสักหน่อย ก็ทำให้ เวลาถ่ายภาพคน รายละเอียดบนผิวหน้า ก็อาจจะไม่ได้เห็นอะไรชัดเจนมากขนาดนั้น
แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่อง Hardware ของกล้อง Ultra Wide ตัวนี้ ไม่ค่อยเหมาะที่จะเอามาถ่าย Portrait ในที่แสงน้อยเท่าไหร่ครับ เพราะ Noise มันมาง่ายเหมือนกัน แต่จะใช้จริงๆ ก็คงต้องพึ่ง Night Mode แทน
MACRO CAMERA | กล้องมาโคร 2MP
ก็เป็นกล้องมาโครตามมาตราฐานของระดับราคาครับ คือ ถ้าสภาพแสงมันได้ มันก็ยังให้ภาพทีให้รายละเอียดได้ดีพอประมาณหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าเราเอาไปเปิด บน Display ที่มีความละเอียดขนาดไหน ? ถ้า FHD หรือ FHD+ ก็โอเค แต่ถ้าเอาไปเปิดบน 4K อันนั้นก็ต้องทำใจไปครับ
เรื่องความง่ายในการถ่ายมันก็ค่อนข้างโอเคครับ ระยะโฟกัส 4CM อาจจะไม่ได้ใกล้มาก แต่ช่วง Focus Range มันกว้าง ไม่วูบวาบ เวลามือไม่นิ่ง
แต่เวลาเจอพื้นที่สีดำๆ หรือที่แสงน้อยนี่ ไม่รอดเลยครับ Noise ขึ้นกระจุย
สำหรับใครที่จะถ่าย Macro จริงๆ แก้วแนะนำให้ใช้กล้องหลักไปเลย จะเป็นในระยะปกติ หรือ Crop 2x ก็ได้ เพราะกล้องหลักตัวนี้ระยะโฟกัสใกล้สุดประมาณ 9-10 ซม. เท่านั้นเอง ซึ่งเมื่อถ่ายด้วย Hi-Res 50MP แล้วเอามา Crop ใช้งานนี่ มันดีกว่า Macro เป็นไหนๆ ครับ
FRONT CAMERA | กล้องหน้าความละเอียด 44MP
นี่แหละครับ Highlight สุดๆ ของรุ่นนี้จริงๆ มันเป็นกล้องหน้าที่แบบ อือหือ จะคมไปไหน ไฟล์จะดีไปไหน เหมือนเอากล้องหลัง 48MP มาใส่ในกล้องหน้าเลยอะ
มาดูภาพจาก Hi-Res Selfie 44MP กันก่อนเลยครับ 2 จุดที่แก้วอยากให้มาดูกันในกล้องหน้าตัวนี้ จุดแรกคือ Detail ของไฟล์ภาพ คือต้องบอกว่า คมจริงอะไรจริง แล้ว HDR ในกล้องหน้า ดีกว่ากล้องหลังไปอีก จุดที่สอง คือ Depth หรือการละลายฉากหลัง ด้วยความกล้องมันมี f/stop ต่ำแค่ 2.0 และระยะโฟกัสที่ค่อนข้างใกล้ ทำให้มันสามารถที่จะละลายฉากหลังได้เลย โดยที่ไม่ต้องเปิด Software ช่วยด้วยซ้ำ
ถึงแม้ว่าเราจะเปิด Mode Hi-Res ในการถ่าย Selfie แต่เรายังสามารถ เปิด Beauty ควบคู่กันไปได้ด้วย ถ้าเป็นกล้องหลังใน Mode เดียวกันตัว Beauty จะไม่ทำงานนะครับ ใช้ได้กับกล้องหน้าเท่านั้น ซึ่งผลลัพท์ที่ได้ก็ตามภาพครับ Skintone สวยมาก เกลี่ยผิวกำลังดีเป็นธรรมชาติ ตามสไตล์ Natural Selfie
ที่นี้เราลองมาเปิด Bokeh ละลายฉากหลังกันบ้างครับ โดยจะเปิดอยู่ที่ f/2 การตัดขอบถ้าเป็นในส่วนเส้นผมที่มันไม่ได้เล็กมากๆ จะทำได้ค่อนข้างดีอยู่ แต่ถ้าเป็นเส้นเล็กๆ ก็จะมีอาการหลุดออกได้บ้างนิดหน่อย เพื่อให้ตัดขอบได้เนียนขึ้น ลองปรับ f/stop ลดลงเหลือสัก 4 หรือ 5.6 ก็จะพอช่วยได้ครับ
การใช้กล้องหน้ามา Selfie แบบย้อนแสง HDR ทำงานได้โอเค ตัดแสงฉากหลังออกไปได้พอสมควร หน้าไม่มืด แต่ว่าพอเจอ Condition แบบนี้ ตัดขอบเริ่มจะเอาไม่อยู่แล้วครับ แค่พอจะโอเคเท่านั้นฮะ
มี Mode Double Exposure มาให้เราเล่นด้วย จะใช้ภาพที่เขามีมาให้ หรือเราจะไปถ่ายมาเองก็ได้เหมือนกันครับ
สามารถเลือกสีสันเวลาที่เราทำภาพซ้อนได้ด้วย
ไปกันต่อที่ภาพจากกล้องหน้าในช่วงเวลาค่ำๆ ที่แสงน้อยลงกันบ้างครับ ว่าจะเป็นยังไงบ้างนะครับ ภาพแรกเนี่ย เราจะใช้ Fill Light จากหน้าจอเครื่องในการถ่าย เพื่อเติมแสงเข้ามาเล็กน้อย จะเห็นว่า Skintone เวลาเรามี Key light ในภาพเนี่ย จะตรง ไม่โดนแสงเหลืองๆ ข้างหลังเข้ามาทำให้เพี้ยน
ส่วนภาพนี้จะเป็นการใช้ Night Mode ในกล้องหน้าแบบเพียวๆ โดยที่ไม่ได้เปิด Fill Light เข้ามาช่วย เราจะเห็นความต่างได้ก็คือ แบบ Fill Light เราจะเห็นรายละเอียดในผิวได้ดีกว่า เห็น Texture ส่วน ถ้าเป็น Night Mode เพียวๆ จะเห็นว่าผิวจะโดนเกลี่ยจนเนียนไปเลย อยู่ที่ความชอบของแต่ละคนแล้วว่า ชอบสไตล์ภาพแบบไหน เพราะความสว่างคมชัด ใกล้เคียงกัน
แนะนำว่าถ้าจะใช้ Fill Light จริงๆ เปิดละลายฉากหลังไปด้วยเลยครับ จบๆ เวลากลางคืนก็ยังพอจะตัดขอบได้ดีพอสมควร อาจจะมี Noise บางเล็กๆ น้อยๆ แต่มันดีกว่าการไม่เปิด Fill Light แน่ๆ ล่ะครับ
ไหนๆ ก็เป็นช่วงกลางคืนกันอยู่ เรามาลองดูภาพ Portrait จากกล้องหลัง ในเวลากลางคืนกันบ้างครับ ภาพนี้แก้วใช้ กล้องหลัก เปิด Bokeh ที่ f/1.4 และใช้ Style ที่มีชื่อว่า Summer Party
ส่วนภาพนี้ใช้ Filter สีที่มีชื่อว่า Fashion โดยปรับ f/stop ประมาณ 2.0 ครับ
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเรามาปรับ Bokeh กันให้สุดๆ ไปเลยดีกว่า จัดไปที่ f/0.95 โดยเลือก Shape Bokeh เป็นวงกลม อย่างที่แก้วบอกไปในตอนแรกๆ Bokeh มันไม่ได้ขึ้นทั้งภาพ แต่มันเลือกที่จะขึ้นในจุดที่สมควรจะขึ้น เลยเป็น Bokeh Flare ที่ค่อนข้างดูเป็นธรรมชาติมากกว่าที่เราเคยเห็นๆ มาก่อนหน้านี้
และก็มี Bokeh ให้เราเลือกมาใช้งานได้ตามใจ ตามสไตล์ของเรา ส่วนตัวแก้วชอบแบบ CIRCLE ที่สุด
และ นอกเหนือจากเรื่อง Bokeh พวก Night Mode Color Filter ก็มีมาให้ใช้เหมือนเดิมครับ
VIDEOGRAPHY | การถ่ายวีดีโอ
จุดนี้เนี่ย เป็นจุดที่รู้สึกว่า ครั้งนี้ vivo มาแปลก แปลกแบบแปลกจริงๆ เพราะ Spec Pixel ในกล้องหน้า และกล้องหลังนั้น มันเพียงพอที่เราจะสามารถใช้งานการถ่าย Video 4K ได้แบบสบายๆ เลย แต่ปรากฏว่า ถ่ายไม่ได้เลย Resolution สูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ 1080p 60fps พร้อมกันสั่น Ultra Stable Video และ EIS ซึ่ง โอเคแหละคนส่วนใหญ่ ก็จะใช้ Setup ประมาณนี้ แต่ Hardware มันไปถึงแล้ว แปลกใจทำไม Software ถึงไม่ให้มา
แต่แง่ของกันสั่นกล้องหน้าแบบ Steadiface selfie VDO ก็ยกมาจาก vivo V21 5G ในต้นปีเลย นิ่งดี ล็อกใบหน้าของเราเอาไว้กลาง Frame ได้โอเค แต่ตัวภาพมันจะ Crop เข้ามาค่อนข้างใกล้ ถ้าจะใช้ให้ได้ประสิทธิภาพจริงๆ อาจจะยึดไว้กับขาตั้ง หรือ ว่า ใช้ไม้ Selfie ช่วยควบคู่กันไป
PERFORMANCE | ประสิทธิภาพ
ตอนที่เห็น Spec ตัวเครื่องตอนแรกเนี่ย ต้องบอกว่า แอบรู้สึกกังขาในใจนิดๆ ว่า Dimensity 810 ตัวนี้ มันจะดีกว่า 800U ที่ใส่ใน vivo V21 5G ไหม ? ความรู้สึกที่ได้ก็คือ " เหมือนกัน " ในแง่ของความรวดเร็วในการประมวลผลสิ่งต่างๆ อยู่ในระดับที่โอเคไม่ได้ปรู๊ดปร๊าดมากมาย
ถ้าเอาไปใช้ในการเล่นเกม ทั่วๆ ไปก็สบายครับ แต่ถ้าเล่นเกม Graphic สูงๆ ละก็ อย่างภาพนี้ใช้เล่น Seven Knight 2 อยู่ จะได้ Frame Rate ที่ 60fps นั้น ต้องปรับ Low เท่านั้นจริงๆ Medium ก็ยังมี Drop อยู่บ้าง CPU ตัวนี้อาจจะไม่ได้เหมาะกับการเล่นเกม โหดๆ ขนาดนั้น
แต่ในแง่ของการรับสัญญาณ 5G นี่ ใช้ได้เลย Standby ได้ 2 SIM และ นอกจากจะรองรับช่วงสัญญาณครอบคลุมมากๆ แล้ว Speed ในการรับส่งข้อมูลก็ไม่เป็นปัญหาเลย วิ่งเต็ม Max ตัว Ping นี่น้อยมากๆ
ในเรื่องของ Battery Life ด้วยความที่ Battery ต้องบอกว่าไงดี มันค่อนข้างจะเล็ก 4,050 mAh เท่านั้น เพื่อทำให้ตัวเครื่องมันบาง ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไป ก็จะใช้งานได้จบวันได้สบายๆ แต่ถ้า เราใส่ SIM 5G ไว้ 2 SIM และวันนั้นใช้กล้องเยอะด้วย อาจจะต้องมีการชาร์จไฟระหว่างวันเกิดขึ้นแน่ๆ แต่ vivo ก็ไปดักทางเราไว้แล้ว เพราะยกเอา vivo FlashChage 2.0 แบบ 44W มาใส่ให้ในรุ่นนี้เลย ประมาณ 1 ชั่วโมงก็เต็มแล้ว
OVERVIEW & OPINION
สำหรับแก้วแล้ว vivo V23e 5G ตัวนี้เป็น Smartphone ที่เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานทั่วไป เล่น Social Media หรือใช้โทรศัพท์ ในส่งข้อความต่างๆ ในการทำงานเป็นหลัก มากกว่าจะเอาไปใช้ในด้านการเล่นเกม ที่เน้นตัว Performance เครื่องมากมายนัก
ในแง่ของการตอบสนองเรื่อง Entertainment สำหรับตัวหน้าจอ ก็ให้สีสันที่สวยงาม เอาไปใช้งานดู Youtube , Netflix หรือ Streaming ต่างๆ ได้ค่อนข้างจะโอเคครับ จุดที่ทำให้เราอาจจะเสียอรรถรสในเรื่อง Entertainment ไปบ้างก็คือ ลำโพงครับ vivo ให้ ลำโพงเดี่ยวมา และคุณภาพเสียงก็กลางๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไร จะใช้ให้ฟิน ก็ใช้หูฟังดีกว่าครับ
กล้องถ่ายภาพนั้น ในเรื่องของภาพนิ่งทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ทำได้ค่อนข้างน่าประทับใจ กล้องหลัก 50MP และกล้องหน้า 44MP คือจุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดใน Smartphone รุ่นนี้ Software ในการช่วยในการถ่ายภาพที่ไว้ใจได้ ทุกสภาพแสง แต่น่าเสียดายในเรื่องถ่าย Video ที่ไม่สามารถจะถ่าย 4K ได้เลย ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ทั้งที่จริงๆ Hardware มันเพียงพอที่จะทำได้
กับราคาค่าตัวที่ 12,999 บาท พร้อมแถมหูฟัง TWS ฟรี ก็เหมือนซื้อเครื่องในราคาหมื่นนิดๆ ก็ถือว่าสมเหตุสมผลกับสิ่งที่ได้ไปครับ ใครสนใจก็สามารถไปจองกันได้แล้วที่ vivo Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศครับ
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]
Fanpage : https://www.facebook.com/mobile.fotographer IG : kaew.ravie #Mobilephotographer #โมบายโฟโตกราฟเฟอร์ #ถ่ายรูปด้วยมือถือ #vivo #vivoV23e5G #vivothailand
Commenti