สวัสดีครับ และนี่คือรีวิวที่ทุกคนรอคอยกัน กับ vivo X70 Pro Plus สมาร์ทโฟนสายถ่ายภาพตัวสุดแห่งปี กล้าพูดว่าตัวสุดแห่งปี เพราะมันสุดจริง อะไรที่ไม่เคยได้สัมผัส ก็ได้มาเห็นใน Smartphone รุ่นนี้แหละ
บอกไว้ก่อนเลยว่า Review เกิดจากการใช้งานร่วมเดือน ไปมาหลากหลายสถานที่ หลากหลาย Condition ฉะนั้น ภาพมันอาจจะไม่ต่อกันเป็น Album นะครับ แต่ครบถ้วนในทุกแง่มุมแน่นอน ไปชมกันครับ
SPECIFICATION
CPU Snapdragon 888+ | GPU Adreno 660
Dimension : 164.5 x 75.2 x 8.9 mm. weight 213 g
Display LTPO 10 bit - AMOLED E5 6.78 | QHD+ | 120Hz | HDR 10+
RAM 8GB / 12GB LPDDR5 | ROM 256GB / 512GB UFS 3.1
Operation system Android 11 + OriginOS 1.0
Wifi 6 | Bluetooth 5.2 | NFC
Dual Sim Standby 4G & 5G
Water & Dust Resistant IP68 (1.5m 30 minutes)
Vivo V1 ISP image processor
Battery 4,500 mAh | vivoFlashCharge 55W | Wireless 50W | Reverse 10W
DESIGN งานออกแบบ
งาน Design ที่ต่อยอดมาจาก vivo X60 Pro Plus เปลี่ยนฝาหลังที่เป็น Vegan Leather ที่บางคนรู้สึกว่าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ออกไป แล้วมาใช้รูปแบบฝาหลังแบบเดียวกับ vivo X70 Pro 5G แทน แต่จะมีความแตกต่างที่ชัดเจน คือ บริเวณ Module กล้อง ที่มีการเล่นระดับหลายชั้น บอกเลยว่าเห็นตอนแรก ไม่ชอบเลย รู้สึกประหลาดมากๆ
แต่พอใช้งานมาสักเดือนกว่าๆ พอเริ่มชินกับมัน กลับมาดูแล้ว เออ มันก็สวยดีนะ มันทำให้ ฝาหลังของ Smartphone รุ่นนี้ ไม่ดูเทไปทางใดทางหนึ่ง Symmetry ดี เสียดายทำขนาดนี้ น่าจะใส่จอหลังมาเลย
สี ENIGMA Black เวลาสะท้อนกับแสงไฟแล้ว สวยมาก พร้อมผิวสัมผัสที่นุ่มนวลเพราะเคลือบ Fluorite AG มา แต่ไอความนุ่มนวลนี่แหละครับ มีทั้งข้อดีข้อเสียนะ ฝาหลังมันลื่นมากเลย ถ้าไม่ใส่เคส ต้องจับให้เข้ามือนะครับ จะได้ไม่หลุดมือ
และก็ตามสไตล์ vivo X-Series ครับ Choker คำว่า Professional Photography ก็ยังมีมาเหมือนเดิมเลย
บริเวณด้านล่างตัวเครื่องก็จะเป็นช่อง USB-C รูลำโพง แสดงความยินดีด้วยนะครับ ลำโพงเป็น Stereo แล้ว แถมเสียงอย่างดี ทำไม๊ ทำไม ไม่เอาไปใส่รุ่น Pro บ้าง อยากให้เขาได้สัมผัส พร้อมกับ ช่องใส่ SIM แบบ Dual-Standby ใส่ microSD Card ไม่ได้นะครับ
อุปกรณ์หลักๆ ภายในกล่องก็ให้มาครบถ้วนเลย แถมแต่ละสิ่งที่ให้มานี่คุณภาพดีๆ ทั้งนั้น ดังนี้ครับ
ตัวเครื่อง Smartphone
เคสกันกระแทกแบบพลาสติก ปั้มลายหนัง
หูฟังแบบสาย USB-C ถ้าซื้อตัว Top 512GB จะได้ TWS ANC
Adapter Charge 50W พร้อมสาย
ที่จิ้ม Sim และคู่มือการใช้งานพร้อมการ์ดรับประกัน
DISPLAY : หน้าจอแสดงผล
เป็นอีกหนึ่งจุดที่ vivo ทำได้ดีมากขึ้นแบบก้าวกระโดดจริงๆ โดยจะมี Spec ของหน้าจอดังนี้ครับ ขนาดหน้าจอ 6.78 นิ้ว แบบจอโค้ง อัตราส่วน 20:9 กล้องเจาะรูตรงกลาง Panel หน้าจอเป็นแบบ LTPO AMOLED-10bit Resolution ใหญ่ขึ้นเป็น QHD+ แล้ว ปรบมือครับ พร้อม Refresh Rate 120Hz เช่นเคย
การสู้แสงภายนอกนี่บอกเลยว่า สบายมากครับ เปิดแสงแค่ประมาณ 50-60% ก็ออกไปใช้งานกลางแดดเวลาเที่ยงได้สบายๆ มาเห็นจอแน่นอน อีกประเภทนี้ประหยัดแบตเตอรี่กว่าจอ AMOLED ทั่วๆ ไปด้วยนะครับ
พอดู Content 4K บนหน้าจอที่ความละเอียดสูงๆ นี่มันฟินสายตาดีจริงๆ เลยครับ ใครยังไม่กด Sub ช่อง Mobile Photographer ไปกดเลยนะ 4K ทุกคลิบเลยฮะ
เรื่องของการแสดงผลสีนั้น ก็หายห่วงครับ จะเอาไปดูหนังบน Application Streaming ไหนๆ ให้ผลลัพท์ที่ดี Contrast จัด สีส่วน แต่ไม่แสบตาจนเกินไป พร้อมเราสามารถปรับ Temperature ของสีจอได้เองด้วยนะครับ ให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละ Use case
CAMERA SPECIFICATION
กล้อง Wide Angle 50MP f/1.57
กล้อง Super-Wide Angle 48MP มุมมองกว้าง 120 องศา, f/2.2
กล้อง Medium Telephoto (50 mm) 12MP f/1.6 Optical Zoom 2X โหดกว่าเดิมมาก
กล้อง Periscope Telephoto 5x 8MP f/3.4
พร้อมใส่กันสั่น OIS ในทุกกล้อง และ EIS ในกล้อง Wide Angle และ Super Wide Angle
กล้องหน้า 32MP ตัวเดียวกับ vivo X70 Pro 5G
เลนส์ทุกตัวได้รับการ Coating จาก ZEISS เพื่อความใสและลดแสง Flare
ชิ้นเลนส์กล้อง เปลี่ยนพลาสติก มาเป็นเลนส์แก้ว ช่วยให้รับแสงได้มากขึ้น ไฟล์ภาพที่ได้ใสขึ้น
WIDE ANGLE CAMERA : กล้องหลัก 50MP
ต้องบอกว่ากล้องหลักตัวนี้นั้น เมื่อเทียบกับ vivo X60 Pro Plus สิ่งเห็น และรู้สึกได้ทันที ก็คือความใส และความเป็นธรรมชาติของไฟล์ภาพ ยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับ ZEISS Tone มันยิ่งทำให้ผลลัพท์ดีขึ้นไปได้อีก Dynamic Range ที่กว้างพอประมาณ และ การทำ Pixel Binning คุณภาพสูง ไม่มี Pixel Artifact เลย
ในอีกสภาพแสงที่แดดอาจจะไม่ได้จ้ามากนัก เราจะเห็นได้ว่า เราจะเริ่มเห็น Noise เกิดขึ้นในจุดที่มีเงามืดบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ในอีกทางหนึ่ง Detail ยังอยู่ครบ และการมี Noise ให้เห็นบ้าง มันทำให้ภาพดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วย
ในส่วนของความคม และรายละเอียดในภาพในย่านความสว่างต่างๆ เก็บ Detail มาได้ยอดเยี่ยม Highlight ไม่หลุด เงามืดดึงแสงขึ้นมาแล้วไม่มี Noise ให้เห็นเลย ถ้าสังเกตดีๆ บริเวณขอบภาพ เราจะเห็นว่า ภาพนี้เริ่มได้รับผลจาก Perspective Effect ที่ เส้นมันจะโน้มหากันตรงกลาง เหมือนว่าเลนส์กล้องตัวนี้ ภาพกว้างขึ้นกว่าตอน X60 Pro Plus หรือลืมใส่ Software แก้ Distortion มาให้ อันนี้ไม่แน่ใจครับ
ถ้าพูดถึงเรื่องการเก็บรายละเอียด Dynamic Range ภาพนี้น่าจะช่วยอธิบายได้ดี ตัวกล้องไม่ได้พยายามจะขุด เงามืดขึ้นมาทั้งหมด เอาเพียงแค่พอจะเห็นรายละเอียดได้บ้างเท่านั้น ย่าน Midtone ก็พยายาม เฉลี่ยแสงให้เท่าๆ กัน และ Noise Reduction ไม่ได้พยายามลบจุดรบกวน จนภาพเสียรายละเอียดไป
ในเรื่องของความเป็นธรรมชาติของภาพในกล้องนี้นี่คือ หายห่วง คุณภาพของไฟล์ก็เพียงพอที่จะเอาแต่งต่อได้สบายไม่ต้องกลัวว่าสีจะเพี้ยนหรือไฟล์จะพัง
สำหรับ Depth หรือ มิติภาพที่เกิดขึ้นจากเลนส์หลักที่มี f/stop ต่ำเพียง 1.58 นั้น ก็ตามที่เห็นเลยครับ ในระยะประมาณ 10 ซม. จากวัตถุ เบลอฉากหลังแบบหลุดไปเลย แถม ทำ HDR ให้ในย่านที่ละลายไปแล้วด้วยนะ Shape ของ Bokeh ก็ค่อนข้างสวยทีเดียวครับ
มาดู RAW Files กันบ้างครับ รูปแบบของไฟล์ RAW ของ vivo X70 Pro Plus นั้นจะเป็นไฟล์ DNG ซึ่งจริงๆ แล้วสามารถถ่าย File RAW ได้ทุกกล้อง แต่แนะนำนะครับ ใช้แค่ Main กับ Ultra Wide Angle พอ ส่วนไฟล์มันดีขนาดนั้น ก็ตามภาพนี้เลยครับ Setting คือ ISO100 | Shutter Speed 1/400 ครับ
ใครที่ชอบเอาไปถ่ายภาพ Landscape แล้วเอามา Process ทีหลัง แล้วคุณภาพไม่เสีย ไฟล์ยังยืดหยุ่นได้ดีพอสมควร ทั้งตัว RAW และ JPEG ส่วนไฟล์ RAW PLUS นั้น เหมือนกับ เอาไฟล์ RAW มาใส่ Color Profile แบบ ZEISS เข้าไปเท่านั้น ไม่ได้มีผลในเรื่องคุณภาพไฟล์แต่อย่างใด
ULTRA ANGLE CAMERA : กล้องมุมกว้างพิเศษ 48MP
กล้องมุมกว้างพิเศษ 120 ํ ความละเอียด 48MP ตัวนี้ ต้องบอกว่า มันก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ต่างจาก vivo X60 Pro Plus มากนัก จุดที่มาแก้ให้จริงๆ คือ ขอบภาพที่คมขึ้น ระยะโฟกัสที่ใกล้กว่าเดิมประมาณ 1 ซม. สามารถเอามาถ่าย Macro ได้ดีขึ้นเล็กน้อย
กล้อง Ultra Wide Angle ตัวนี้ ในแง่ของคุณภาพไฟล์มันก็ทัดเทียมกับกล้อง Flagship 50MP จากแบรนด์อื่นๆ แต่เรื่องของการแก้ Distortion หรือป้องกันกันบิดเบี้ยวของภาพนั้น ยังเป็นรอง OnePlus 9 Pro อยู่พอสมควรเลยครับ
ความสามารถในการถ่ายภาพย้อนแสง บอกเลยว่าถ้าไม่ได้ Coating จาก ZEISS กับ Software HDR ที่ยอดเยี่ยม การย้อนแสงถ่ายภาพนี้ในเวลาบ่ายสอง ที่ดวงอาทิตย์สว่างจนไม่ Shape เนี่ย มันคงไม่ได้ผลลัพท์ออกมาแบบนี้แน่ๆ
ตัวกล้องที่พยายามช่วย Balance แสงในภาพ ไม่ให้ส่วน Highlight สว่างจนหลุด และ ส่วนที่เป็นเงามืด พอเห็นรายละเอียดในย่านความสว่างนั้นอยู่บ้างเก็บรายละเอียดมาได้ดี
จุดที่รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันก็คือ เวลาที่เรากด ZEISS Tone ในกล้อง Ultra Wide Angle นั้น จะมีผลกับเรื่อง White Balance พอสมควร เวลาสภาพแสงเปลี่ยน จะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่ง ในการปรับ White Balance ให้ตรง ถ้าสมมุติ เราถ่ายอะไรสักอย่างหนึ่งที่สีฟ้ามากๆ แล้วกล้องต้องแก้ด้วยโทนอุ่น แล้วอันกล้องไปทาง โทนสีอีกแบบหนึ่ง แล้วกดถ่ายทันทีเลยเนี่ย มีจังหวะปรับไม่ทันให้เจออยู่บ้างครับ อันนี้บอกไว้เฉยๆ นะ เพราะคงไม่มีใคร ถ่ายแบบ วูบวาบ รัวๆ ขนาดนั้น ในกล้องมุมกว้างอยู่สักเท่าไหร่
Medium telephoto 2x : กล้องระยะกลาง 50mm 12MP
บอกไว้ตรงนี้ก่อนเลยว่า นี่คือกล้องที่แก้วชอบที่สุด ใน Smartphone เครื่องนี้เลย มันดูเหมือนจะลด Spec ลงมาจากที่เคยถ่ายได้ 32MP ใน vivo X60 Pro Plus ใช่ไหมล่ะ แต่กับการได้ค่า f/stop ต่ำๆ แค่ 1.6 มาแทนเนี่ย มันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มอีกครั้บ เพราะว่า ด้วย Focal Length และ f/stop ที่ต่ำแบบนี้ ฉากหลังมัน Blur ได้เลยแบบ ไม่ต้องพึ่ง Software ครับ เป็นอีกสิ่งที่ใฝ่ฝันมานานในมือถือ ว่าทำดีเถอะ
ความเร็วในการลั่น Shutter นั้น ถึงแม้ว่าจะเปิด HDR ไปด้วยก็หายห่วยครับ ไร้ Shutter Lag ไม่พลาดจังหวะสำคัญๆ แน่นอน ใครชอบแอบถ่ายนก ถ่ายสัตว์ไม่ต้องกลัวว่ากล้องมันจะประมวลผลช้านะครับ
บางคนอาจจะคิดว่ากล้อง Telephoto 2x หรือ 50mm มันน่าจะเหมาะกับการแค่เอาไปถ่ายคนนี่ อาจจะลืมไปว่า ระยะนี้จุดเด่นของมันคือ Distortion จะต่ำมาก Perspective จะตรง และยังช่วยให้เรา เข้าใกล้ Object โดยที่ไม่ต้องเดินเข้าไปด้วย
เอามาถ่ายภาพแนว Street Photography หรือ Urban Photography เนี่ย เป็นระยะที่ดีมากๆ ครับ
ถ้าเป็นเลนส์ระยะอื่น เราคงไม่สามารถจะถ่ายภาพที่เล่นกับ Perspective ของตัวโบสถ์ได้แบบนี้ เพราะว่าเสาคงจะเอียงๆ หรือว่าเบี้ยวไปแล้ว ใครที่ชอบถ่ายภาพแนวสถาปัตยกรรม หรือ ต้องเน้นสัดส่วนความสมจริงมากๆ น่าจะชอบตัวนี้แน่ๆ
และพอมันเป็นกล้องที่มีค่า f/stop ต่ำลงเหลือแค่ 1.6 มันทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมพอสมควรเลย จะเอามาย้อนแสงเวลาถ่ายภาพอาทิตย์ตกก็ยังสวยกริ๊บ ไฟล์ใสดีอยู่เลย
Periscope Telephoto 5x : กล้องระยะไกล 125mm 8MP
หลังจากที่ vivo เอากล้อง Periscope กลับมาใส่ตั้งแต่ vivo X60 Pro Plus เป็นต้นมา กล้องตัวนี้ก็ได้รับการปรับปรุง Software และ Hardware ขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่า มันสมบูรณ์มากที่สุดในรุ่นนี้ ถึงแม้ว่าตอนแกะกล่องออกมา จะมีบัคอยู่บ้าง
มันคือกล้องที่ถ้าเราเข้าใจมัน เราสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้เต็มที่ มันจะเป็นกล้องที่ไม่ได้มีดีแค่ Zoom แต่มันจะพาเราไปเจอ องค์ประกอบศิลป์ใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ ที่หาไม่ได้จากกล้องตัวอื่น
ในเรื่องของความคมของตัวเลนส์นั้น คือไม่รู้จะติอะไรจริงๆ ทั้ง HDR ที่ใช้ได้ที่เลนส์นี้ ถ่าย RAW ก็ได้ แถม Dynamic Range ก็ทำมาได้ดีพอๆ กับ Ultra Wide Angle อีด้วย Smooth ตามากๆ มี OIS ช่วยให้การถ่ายภาพด้วย Telephoto ระยะไกลๆ นั้นง่ายขึ้น
ดึงอาคารรอบๆ มาสร้างเป็นงานศิลป์ หรืองานถ่ายสถานปัตยกรรม ที่เราไม่สามารถเข้าถึงมุมมองแบบนี้ได้ด้วยกล้องตัวอื่นๆ
ใครที่ชอบถ่ายตึก ถ่ายสถาปัตยกรรม จากมุมมองใหม่ๆ Periscope ตัวนี้ให้เราได้จริงๆ
ใช้ฉากหน้าที่อยู่ใกล้ตัวมาวาง Frame ภาพ แล้วดึง Object ที่อยู่ไกลๆ เข้ามาให้เราเห็นได้ชัดเจน นี่แหละครับ พลังของ Periscope 5x ลองฝึกใช้บ่อยๆ ไม่ว่าจะอยู่ในกล้องจากแบรนด์ไหน เราจะได้ภาพที่แปลกตากว่าเดิมแน่ๆ ครับ
Portrait Photography : ถ่ายภาพภาพบุคคล
จุดเด่นที่สุดอีกหนึ่งจุดในกล้องของ vivo X-series ในทุกรุ่นที่ผ่านมา ก็คือความสามารถในการถ่ายภาพ Portrait ที่ยอดเยี่ยมมากๆ หลังจากที่หลายคนคง ฮือฮากับ vivo X70 Pro 5G กันไปแล้ว สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ vivo X70 Pro Plus นั้น ทำให้ทุกอย่าง มันห่างชั้นออกไปอีก
แค่เราหาแสงไฟมาเป็นฉากหลัง แล้วเลือก Bokeh ที่เราถูกใจ เราก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรต่อแล้ว โดย Bokeh ที่มีให้เลือก ก็เหมือนกับใน vivo X70 Pro 5G เลย ดังนี้เลย
Biotar 75mm | f/1.5
Planar 80mm | f/2.8
Sonnar 180mm | f/2.8
Distagon 28mm | f/2.0
การ Blend Skintone เข้ากับสภาพแสงอาทิตย์ตกในเวลา 17.00 ได้กลมหลืน และเกลี่ยผิวได้สวยงามด้วย Beauty แต่พอประมาณ แบบนี้ไม่เรียก Perfect ก็ไม่รู้จะเรียกยังไงแล้วครับ
การพัฒนาที่ชัดเจนที่สุดคือเรื่องของการตัดขอบ เป็นอานิสงค์ของ V1 image processor ที่ช่วยคำนวนตรงนี้ได้ดีกว่าเดิมแน่ๆ คือมันต่างจาก vivo X70 Pro 5G อยู่พอสมควรเลย ฉากหลังจะรกแค่ไหน ก็ยังเก็บได้เนี๊ยบ แสงรอบข้างจะเขียวแค่ไหน แต่ Skintone ยังตรง
เวลาถ่าย Portrait ด้วยกล้องหลัก 1x หลายคนบอกว่า มันลอยบ้าง ละลายเยอะไปบ้าง ก็เพราะว่า เราไม่ได้ปรับ f/stop ให้ถูกต้องกับระยะห่างของฉากหลัง และ ความกว้างของ Frame ภาพ ถ้าเราถ่ายภาพบุคคลแบบเต็มตัว มันไม่มีทางที่เบลอแบบหลุดไปเลยได้เหมือนกับ ถ่ายครึ่งตัวอยู่แล้ว แทนที่จะเปิด Bokeh ที่ f/1.4 ก็เอาสัก f4 พอ กำลังดี
ในบางครั้งถ้าเราใช้ HDR เวลาถ่าย Portrait แบบย้อนแสง ในช่วงเวลาที่แสงน้อยแล้วด้วยเนี่ย กล้องจะมีการเติมแสงฉากหน้าเข้ามาให้ ซึ่งบางครั้งก็เยอะเกินไปจนดูลอยออกจากฉากหลัง แต่ก็ไม่ได้เป็นตลอดนะครับ เจอประมาณ 2-3 ครั้งเท่านั้นเองในวันนี้
ปี 2021 นี้ ใครจะเชื่อว่ากล้อง Periscope 5x เขาจะเอามาถ่าย Portrait กันได้ แล้วผลลัพท์ดีมากด้วย อันนี้คือ ยอมใจ vivo เอาจนสุดในทุกๆ กล้องจริงๆ ตัดขอบอาจจะดูไม่เนียนเท่ากล้องอื่น แต่ ไม่แย่เลยสำหรับแก้วนะ ถ้าเราคุม Bokeh เป็น
เวลาเราถ่าย Shot ที่เห็น Body ของตัวแบบมากกว่า 60% เราควรจะปรับความเบลอเพียง f/4 - f/5.6 เท่านั้น เพราะต่อให้เป็นกล้องจริงๆ จะได้เบลอเท่านี้ ต้องใช้เลนส์ประมาณ 23mm f/1.4 เลย ช่วย Focal Length ของกล้อง ต้องสัมพันธ์กับมิติของภาพด้วยนะครับ
ที่นี้เรามาดูภาพ Portrait ในช่วงเวลาที่แสงน้อยลงกันบ้างครับ ในเรื่องของการตัดขอบ และทำ Bokeh ยังทำได้ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าแสงสว่างจะน้อยลง กล้อง Telephoto 2x f/1.6 นี่มันช่วยเรื่องถ่ายกลางคืนจริงๆ
ถ้ายังมืดไม่พอ มาดูภาพนี้ครับ ดูการตัดขอบเส้นผมที่ปลิวเพราะลมสิครับ ตัดได้เป็นเส้นๆ ขนาดนี้
เอ้าถ้ายังไม่มืดพอ จัดไปเลยครับ มืดจัดๆ แก้วใช้ไฟหน้าจอจาก Smartphone อีกเรื่องเพื่อให้แสงกับตัวแบบเท่านั้น นอกนั้นเป็นหน้าที่ของกล้องทั้งหมดเลย
Night Time Photography : การถ่ายภาพในที่แสงน้อย
ด้วยความที่ vivo X70 Pro Plus นั้น มีโหมดการถ่ายภาพที่เยอะมากๆ ต้องบอกว่าตั้งแต่ได้เครื่องมายังใช้ไม่หมดเลย เลยจะเอามาให้ชมกันคร่าวๆ ให้เห็นถึงคุณภาพของไฟล์ และโหมดการถ่ายภาพแล้วกันนะครับ
กล้อง Ultra Wide Angle 48MP ในเวลากลางคืนนี้ ยังคงเป็นกล้องที่เราสามารถคาดหวังในเรื่องของคุณภาพได้เหมือนเดิม เพราะให้ไฟล์ที่คม การเฉลี่ยแสงที่พอเหมาะ ถ้าแสงไม่น้อยจริงๆ จะไม่ดึง Clarity ขึ้นมาเลย
อยากที่บอกไปว่า ถ้าแสงสว่างเพียงพอนั้น Night Mode แทบจะไม่มีผลเลยครับ ถ้ากล้องจับได้ว่า แสงที่เข้ามาใน Sensor นั้นเพียงพอ มันจะทำการถ่ายภาพแบบปกติแทน เพื่อให้ได้คุณภาพไฟล์ที่ดีที่สุด
แต่ถ้าแสงน้อยลงเมื่อไหร่ เราจะเริ่มเห็นได้เลยว่ากล้องพยายาม ลบ Noise และเพิ่ม Clarity ขึ้นมา
สภาพแสงจริงๆ ตรงที่แก้วถ่ายนั้น เรียกได้ว่ามืดตึ๊บ พอเปลี่ยนมาใช้ Night Mode ในการถ่าย เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไฟล์นั้น ใสกว่ากล้อง Ultra wide angle พอสมควร ด้วย f/stop ที่ต่ำกว่ามาก
และก็เหมือนกับกล้อง Ultra Wide Angle ครับ ถ้าแสงมันพอ มันจะไม่บังคับถ่าย Night Mode ให้
ใน Mode Long Exposure ก็สามารถที่จะเลือก Filter สีของ Night Mode มาใช้ร่วมด้วยได้
ที่มันน่าพอใจก็ตรงที่ Mode นี้ไม่จำเป็นจะต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วยแล้ว ทำให้ถ่ายรูปแบบ Traffic Trail ได้ง่ายกว่าเดิมมากๆ
คนชอบถ่ายภาพแนวๆ นี้คงจะปรับทับใจกับ Mode นี้มากแน่ๆ
และเปิดท้ายด้วย Mode Astro ที่ไฟล์ใสปิ๊งกว่าทุกรุ่นที่เคยเห็นมา ใสกว่า vivo X70 Pro 5G พอสมควร
ตั้งแต่เช้ายันมืด vivo X70 Pro 5G ทำให้เราสามารถจะถ่ายภาพได้สนุกตลอดทั้งวันจริงๆ
Front Camera | กล้องหน้า 32MP
เหมือนเลยครับ เหมือนกับกล้องของ vivo X70 Pro 5G เลย ความละเอียดโอเค Skintone ใช้ได้ แต่การตัดขอบนั้น มีหลุดบ้างนิดหน่อย แต่ Character ภาพที่ก็โอเคตามสไตล์กล้องหน้าของ vivo ใน X-Series ครับ จากที่เคยจับ V-Series มา ชอบตัวนั้นมากกว่านะ แต่ตัวนี้ก็ไม่ได้แย่อะไร
องศาการรับภาพที่ไม่ได้กว้าง หรือแคบ ใช้ Selfie ได้สบายๆ คุณภาพไฟล์ และ Depth ที่ดึงแม้ว่าจะไม่ได้ เปิด Bokeh ก็ตาม ก็ยังให้ภาพ Selfie ที่ดูดี ดูเป็นธรรมชาติอยู่
ถึงแม้ว่าจะเป็นการถ่ายภาพย้อนแสง ก็สามารถที่จะเก็บรายละเอียด เกลี่ยผิว รวมไปถึงตัดขอบได้ดีครับ
Videography | ถ่ายภาพวีดีโอ
นี่น่าจะเป็น Highlight อีกหนึ่งจุดของ Smartphone รุ่นนี้ครับ เพราะว่า สามารถถ่าย Video ไปได้ความละเอียดสูงสุดถึง 8K 30fps และ สามารถถ่าย Video แบบ LOG หรือรองรับการถ่าย Video เพื่อไปแต่งสี Video ทีหลังได้นั่นเอง นอกจากนั้น Bitrate ของตัว Video นั้น ทะลุ 100mbps ไปแล้ว เท่ากับกล้อง Mirrorless ไปเรียบร้อยครับ
ในเรื่องของกันสั่น จุดที่น่าสนใจคือ เขามีการปรับล็อกแกนกันสั่นมาด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์มาก เพราะโดยปกติแล้ว เวลาเราถ่าย Video แบบเคลื่อนที่ หรือเดินถ่าย แกนที่จะสั่ง คือ แกนแนวตั้ง เขาเลยออกแบบมาให้เราเลือกได้เลยว่าอยากให้ ล็อก Motion แกนไหนให้สิ่งสนิทไปเลยได้ แล้วดีกว่าเดิมมาก อาการ Jerk เด้งๆ เวลาเดินหายไปเลย
ส่วนกล้องหน้านั้นโคตรน่าเสียดาย ถ่ายได้ 1080p 30fps แต่ก็นะ แก้วแทบไม่ได้ใช้กล้องหน้าอยู่แล้วอะ ไม่มีผลในการเลือกอยู่แล้ว สบายๆ
Performance | ประสิทธิภาพ
ด้วย CPU Snapdragon 888+ เรื่องการใช้งานทั่วไปนั้น เราคงไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้วว่า จะอะไร หนักหนาสาหัสขนาดไหนมันก็เอาอยู่ เรามาพูดถึงเรื่องความร้อนกันดีกว่า ตั้งแต่ vivo X60 Pro Plus ที่จูน 888 ได้ดีมาก ตัวนี้ เป็นรุ่นอัพเกรดก็ยังจูนได้ดีเหมือนเดิม ไม่ร้อนเลย
จะถ่ายรูปยาวๆ เป็นชั่วโมง เปิดจอทิ้งไว้ก็ไม่ร้อน เรื่องนี้คือไม่รู้จะหาอะไรมาติจริงๆ จะมีบางจังหวะที่แบตเตอรี่อาจจะลดเร็วได้บ้าง ในช่วง 20% แรก หลังจากนั้นก็จะลดช้าลงแล้ว แอดมินใช้ทั้งวันรวมถ่ายภาพเนี่ย อยู่ได้เลยยาวๆ 12-14 ชั่วโมง แบตเตอรี่ยังเหลือ ใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 52 นาที 5-100% แบบสาย และรับรอง Wireless แล้ว แต่ยังไม่ได้ Test ให้นะครับ
จุดที่รู้สึกว่าตัวเองพลาดมากก็คือ พลาดที่ซื้อ ROM 256 มา เพราะไฟล์ภาพ ใหญ่เหลือเกิน 50MP + 48MP ถ่ายมาทีนึงก็ 12mb / รูป ใครจะซื้อรุ่นนี้ ROM 512 เถอะครับ อยู่กันยาวๆ
ในเรื่องของด้าน Entertainment ทั้งดู Series ดู Streaming Online ต่างๆ นี่แหละ คือ Experience ที่รอคอย ทั้งหน้าจอที่ละเอียด QHD+ แบบ HDR 10+ และลำโพงคู่ ที่น่าจะทำได้ทั้งนานแล้ว ให้ตายเถอะ 555 และแน่นอนว่า มี Chip เสียง Hifi ใส่มาให้เหมือนเดิม
OVERVIEW & OPINION
สำหรับ vivo X70 Pro Plus นั้น ถ้าเราเป็นคนที่กำลังมองหา Smartphone ที่ถ่ายรูปได้ยอดเยี่ยม มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพ และ Video แบบจัดเต็ม มันคือ Smartphone ที่คุณตามหาอยู่ครับ
ในแง่ของการเป็น Flagship มันให้สิ่งที่ Smartphone Flagship ควรจะมี ทั้ง CPU Snapdragon 888+ RAM 12GB | กันน้ำกันฝุ่น IP68 | ลำโพงคู่ พร้อมจอ QHD+ ชาร์จไร้สาย แค่นี้ก็ครบแล้ว
Mode การถ่ายภาพที่มาแบบไม่มีกั๊ก พร้อมเทคโนโลยีการถ่ายภาพในชุดกล้องหลังที่ยอดเยี่ยมมากๆ ในทุกๆ กล้อง ไม่มีกล้องตัวไหนเลยที่ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นกล้องแถมใส่ๆ มา รู้สึกได้ว่าเขาใส่ใจกับมันจริงๆ Software การถ่ายภาพที่ได้รับการปรับปรุงขึ้นพอสมควรจาก X70 Series ในตัวอื่นๆ
Hardware ประเภท เลนส์แก้วที่เอามาใส่แทนเลนส์ Plastic และกล้อง Medium Telephoto 2x ที่ลด f/stop เหลือแค่ 1.6 คือ Game changer ของรุ่นนี้เลย ภาพ Portrait จากของ Telephoto ที่ไม่เคยคิดว่าจะถ่ายกลางคืนได้ดีเท่านี้ ก็ทำได้แล้ว Bokeh จาก ZEISS ก็ทำงานได้ดี
กับการจะต้องแบกรับความเสี่ยงเรื่องศูนย์บริการ แลกกับการได้ใช้ของดีขนาดนี้ ลองชั่งน้ำหนักกันดูนะครับ ว่าเราสามารถรับข้อจำกัดตรงนี้ได้ไหม ถ้ารับได้ ไม่มีผิดหวังครับ
[ ติดตาม Mobile Photographer ได้ที่ ]
IG : kaew.ravie
Comentários