สวัสดีเพื่อน ๆ ชาว #MobilePhotograpger ทุกคนครับ ขออนุญาตแนะนำตัวก่อน ผม “หยาง” สมากชิกใหม่ของ Mobile Photographer วันนี้นำภาพถ่ายจาก ทริปประเทศจอร์เจีย โดยทริปนี้ผมใช้ #iPhone XS Max เป็นมือถือที่ผมใช้เป็นประจำทุกวัน ทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟน Flagship ของ #Apple เมื่อปลายปี 2018 ครับ
มาเริ่มกันที่วันแรกกันเลยครับ : 4 Feb 2020
ผมออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ กับสารการบิน Emirate เวลาประมาณ 03.00 ของประเทศไทย สวมหน้ากากตลอดการเดินทางเพื่อความปลอดภัยครับ
ภาพบรรยากาศในสนามบินสุวรรณภูมิ และ บนเครื่องบิน
ที่นั่งบนเครื่องบินของสายการบิน Emirate แบบ Economy ที่นั่งกว้างและนั่งสบายกว่าที่คิดไว้มากครับ
08.00 (เวลาประเทศไทย) ถึง สนามบิน Dubai International Airport เพื่อรอต่อเครื่องบินไปยังสนามบิน Tbilisi ไฟล์ทบินของผมใช้เวลารอต่อเครื่อง 5 ชั่วโมง โดยประมาณ ก่อน Landing ผมเก็บภาพมุมสูงของ Dubai มาใช้ชมกันครับ
หลังจาก Landing ต้องนั่งมินิบัสมาอีกฝั่งเป็น Termimal ที่เล็กกว่ามากครับ เพื่อต่อเครื่อง
บรรยากาศ Teminal เล็กที่อยู่อีกฝั่งของสนามบิน Dubai เพื่อรอขึ้นเครื่องของสายการบิน Fly Dubai
15.30 Landing สนามบิน Tbilisi ประเทศจอร์เจีย (ประเทศเขาช้ากว่าบ้านเรา 3 ชั่วโมงครับ) หลังจากลงเครื่องมาก็สัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็นมากและลมที่ค่อนข้างแรง ตม. ที่นี่ค่อนข้างยิ้มแย้มแจ่มใส หลังจากที่ผมผ่าน ตม. แล้ว ก่อนจะเดินผ่านจุดตรวจ จะได้รับไวน์ขวดเล็กเป็น Welcome drink ต้อนรับจาก ตม. ครับ น่ารักมาก
ผมเรียกแท็กซี่เพื่อไปที่พักคืนแรก ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากสนามบิน เป็นโรงแรมเล็ก ๆ อยู่ห่างจากย่านใจกลางเมือง ประมาณ 1 กิโลเมตร ชื่อว่า Easy Hotel Tbilisi
เช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย เปิด Google Maps เพื่อเดินไป Liberty Squear ที่เป็นจุดแลนด์มาร์คใจกลางเมือง เดินไปถ่ายภาพไปใช้เวลาเดินไปประมาณ 20 นาที ครับ เดินได้เรื่อยๆ เพราะอากาศเย็นมาก อากาศ ณ ตอนนั้นประมาณ 10 องศา ครับ ชิลมากๆ
เดินเล่นถ่ายภาพรอบๆ Liberty Squear ก็เย็นแล้ว เริ่มหิวผมเดินหาร้านข้าว ก็เจอร้าน Samikitno ใกล้ๆ กับ Liberty Squear และ เปิดตลอด 24 ชั่วโมงด้วยครับ
เมนูอาหารในร้านจะเป็นอาหารพื้นเมืองของจอเจียร์ อาหารส่วนใหญ่มีส่วนประกอบเป็นแป้ง นม ชีส และ สลัดผักต่างๆ ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ขึ้นชื่อมากๆ ก็คือ น้ำเลม่อน อร่อยมากจริงๆ ครับ
Khachapuri โดยปกติแล้วเป็นอาหารเช้าแบบจอร์เจีย แต่ผมดันมาสั่งตอนเย็นนี่สิครับ 555 เป็นจาน ที่สุดยอดมากๆ พลาดไม่ได้จริงๆ ลักษณะเป็นขนมปังแป้งบางกรอบรูปถ้วย ตรงกลางมีไข่ เนย ชีส เสิร์ฟร้อนๆ เวลาทานต้องคลุกให้เข้ากัน และทานพร้อมกันทั้งขนมปังและไส้ที่อยู่ด้านใน ใครที่ชอบกลิ่นหอมของเนย ชีส และความเข้ากันนัว ๆ ต้องถูกใจแน่นอน
Khinkali เป็นเกี๊ยวนึ่ง ลักษณะจะคล้ายๆ กับเสี่ยวหลงเปา แต่ลูกใหญ่กว่า ตัวไส้ก็มีหลากหลายมากๆ มีทั้งเนื้อแกะ เนื้อวัว เนื้อหมู ชีส เห็ด แล้วก็มีน้ำซุปรสกลมกล่อมอยู่ข้างใน เวลากินคนที่นี่เขาจะใช้มือจับบริเวณจีบด้านบน แล้วเอาเข้าปาก มาถึงจอร์เจียแล้วต้องห้ามพลาดครับ
ทานข้าวเสร็จก็เป็นเวลาประมาณ ทุ่มครึ่ง ผมเลยตัดสินใจกลับไปพักผ่อน เพื่อลุยต่อในวันที่ สองครับ
5 Feb 2020
ตื่น 8 โมงเช้า และ ออกจากโรงแรมประมาณ 9.00 เดินเล่น เพื่อเก็บจุดแลนด์มาร์ค ต่างๆ ในเมือง Tbilisi วันที่สองเป็นวันที่ผมไม่ได้รีบร้อนไปไหนสักเท่าไหร่ เป็นวันที่เดินทั้งวัน ทั่วเมือง สถานที่ต่างๆ ในเทืองสามารถเดินไปถึงกันได้หมด เพราะระยะทางไม่ได้ไกลกันมากนัก และ ผมเป็นคนชอบเดินไปเรื่อยๆ ดูผู้คน ตึกราม บ้านช่อง อากาศก็เย็นสบายครับ บางคนอาจจะหนาว แต่สำหรับผมเป็นอากาศที่ผมชอบมากๆ
ผมเปิด Google Maps และ เดินไปเรื่อย ๆ แบบไม่ได้รีบร้อนมากนัก เพราะมีเวลาทั้งวัน แวะถ่ายภาพตามสถานที่ต่างๆ จุดแรกที่ผมแวะถ่ายภาพเป็นโบสถ์ ที่ชื่อว่า Sioni Cathedral
เดินต่อไปที่ ClockTower(Rezo Gabriadze Theatre) หอนาฬิกา ที่เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพกัน
ไปกันต่อกันดีกว่าครับ ไปด้วยการเดินเหมือนเดิม 555 เดินต่อไปที่ สะพาน The Bridge of Peace ระหว่างทางก็แวะถ่ายภาพตาม ถนน มาฝากกันครับ
The Bridge of Peace เป็นจุดแลนด์มาร์คอีกที่หนึ่งที่ ที่ต้องมา เพราะด้วยสถาปัตยกรรมของตัวสะพานที่สวยมาก และ ยังเป็นสะพานทางเดินที่ต้องข้ามไป Rike Park เพื่อขึ้น Cable car ไปยัง National Botanical Garden of Tbilisi city
เดินข้ามมาอีกฝั่งจะเป็น Rike Park เดินชม และ เก็บภาพกันสักหน่อยก่อนขึ้น Cable car
หลังจากเดินชมสวนและถ่ายภาพ ก็ถึงเวลาที่ต้องไปนั่ง Cable car แล้ว แต่ก่อนจะขึ้น Cable car
ผมขอจบพาร์ทแรก ไว้เท่านี้ก่อน แล้วมาเจอกันในพาร์ทต่อไปครับ
แต่ก่อนจะจบพาร์ทแรก ผมปักหมุดสถานที่ และ แนบลิ้งก์ไว้ให้กดเข้าไปชมกันครับ
หากชอบกดไลก์และกดแชร์ เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ :)